กลับมาลุยกันอีกครั้งสำหรับการแข่งขันในรายการ VALORANT Champions Tour 2023: LOCK//IN São Paulo ซึ่งตอนนี้การแข่งขันก็ได้เข้าสู่รอบ Playoffs อย่างเป็นทางการ และสำหรับคนที่อาจจะตกหล่นเนื้อหาของบทสรุปในช่วงก่อนหน้าไปในกลุ่ม OMEGA ก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่บทความนี้
สำหรับการแข่งขันรายการ VALORANT Champions Tour 2023: LOCK//IN São Paulo จะเป็นการแข่งขัน Playoffs ในรอบ Semifinals ของ วันที่ 13 ส่วนการแข่งขันจะมีด้วยกันทั้งหมด 1 คู่ ซึ่งใช้รูปแบบการแข่งขันของ BO5 โดยมีทีมเข้าร่วมดังต่อไปนี้
- LOUD vs DRX เวลา 00:00 น.
โดนจัดหนักตั้งแต่แรกสำหรับ DRX เพราะถึงแม้ว่าการแข่งขันในวันนี้จะเป็นรูปแบบของ BO5 แต่กลับกลายเป็นว่าในสองแผนที่แรกกลายเป็นว่าชัยชนะตกเป็นของทาง LOUD ที่หวดแบบจัดหนักจัดเต็มทั้งในบ้านตัวเอง รวมถึงบ้านคนอื่น และส่งผลให้ LOUD คว้าแต้มนำไปก่อน 2 - 0 (13:5, 13:8) พร้อมทั้งขยับเข้าสู่รอบ Grand Final เข้าทุกที
แต่ดูเหมือนว่าทาง DRX เอง ก็ไม่อยากจะสิ้นสุดการเดินทางของพวกเขาในเร็ว ๆ นี้ จนส่งผลให้ DRX ทำการคว้าแผนทุกอย่าง , ลูกเล่นต่าง ๆ รวมไปถึงเทคนิคมากมายออกมาใช้แบบไม่มีกั๊ก ซึ่งก็ทำให้ทาง LOUD ที่เป็นคู่แข่งถึงกับหน้าเจื่อน เพราะจากตอนแรกที่เกมจะจบเร็ว ๆ ภายใน 3 แผนที่ กลับกลายเป็นว่าทาง DRX ดันสามารถโต้คะแนนคืนกลับมาได้จนทำให้ทั้งสองทีมมีสกอร์เท่ากันอยู่ที่ 2 - 2 (13:5, 13:8, 7:13, 7:13) และส่งผลให้พวกเขาต้องมาวัดคมครั้งสุดท้ายในแผนที่อย่าง Ascent จนได้
แม้ว่าสุดท้ายทาง DRX จะพยายามโกงความตายขนาดไหน แต่ด้วยจำนวนรอบ และ จำนวนเกมทั้งหมด จึงทำให้ผู้เล่นหลายคนภายในทีมเริ่มจะเล่นได้ไม่ถึงฟอร์มปกติของตัวเอง ส่วนทาง LOUD นั้นพวกเขาก็ยังร้องแรงแบบไม่มีแผ่ว จนในท้ายที่สุดชัยชนะในครั้งนี้ก็ได้กลายเป็นของ LOUD ไปด้วยสกอร์ 3 - 2 (13:5, 13:8, 7:13, 7:13, 13:8) ส่งผลให้ DRX ต้องถูกส่งกลับบ้านไปอย่างน่าเสียดาย
ซึ่งการแข่งขันในรอบต่อไปจะเริ่มต้นใน วันที่ 4 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 00:00 น. และ ถึงแม้ว่าจะมีการแข่งขันเพียงแค่ 1 คู่ แต่ทุกรอบการแข่งขันหลังจากนี้จะมาในรูปแบบของ BO5 ทั้งหมด โดยการแข่งในวันแรกจะเป็นการแข่งขันของ

สุดท้ายนี้การแข่งขันในรายการ VALORANT Champions Tour 2023: LOCK//IN São Paulo จะเริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ - วันที่ 4 มีนาคม ซึ่งก็ต้องมารอติดตามกันว่าทีมใดจะสามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้สำเร็จ พร้อมคว้าเงินรางวัลรวมกว่า $500,000 ไปครอง รวมถึงแต่ละสังกัดจะงัดแผนออกมาให้ได้รับชมขนาดไหนก็ต้องติดตามกันต่อไป