หลังจากศึกใหญ่รายการ VALORANT Champions Tour 2023: Masters Tokyo พึ่งจะสิ้นสุดไปได้ไม่นาน ก็ได้ถึงเวลาของศึกถัดไปที่ค่อนข้างใหญ่ สำหรับทีม Tier 2 ในรายการ VALORANT Challengers Ascension 2023: Pacific โดยสังกัดอันดับ 1 จะได้รับการอัปเกรดขึ้นสู่ VCT Pacific League รวมถึงเป็นหนึ่งก้าวสำคัญ เพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางของ League เคียงบ่าเคียงไหล่ทีมชั้นนำจากโซน Pacific
โดยการแข่งขันรายการ VALORANT Challengers Ascension 2023: Pacific จะมีสังกัดเข้าร่วมทั้งหมด 10 สังกัด และ จะทำการแบ่งทั้งหมดออกเป็น 2 กลุ่ม เพื่อค้นหา 6 ทีม เข้าแข่งขันต่อในรอบ Playoffs ซึ่งประกอบไปด้วย
Group Alpha:
- Thailand – XERXIA
- Vietnam – Fancy United Esports
- HK/TW – ONE Team Esports
- Philippines – NAOS Esports
- Indonesia – BOOM Esports
Group Omega:
- South Asia – Orangutan
- Japan – SCARZ
- MY/SG – Bleed Esports
- Korea – Dplus KIA
- Oceania – Bonkers
และเนื่องด้วยสังกัดที่เข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนกว่า 10 สังกัด จึงทำให้ทาง 4gamers ตัดสินใจจะหยิบ 4 สังกัดที่น่าสนใจในรายการ VALORANT Challengers Ascension 2023: Pacific โดยในบทความนี้ทางผู้เขียนจะขอหยิบยกออกมาพูดถึงเพียงแค่ 2 สังกัด เนื่องจากไม่อยากให้บทความนั้นยาวเกินไป ซึ่งประกอบไปด้วย

1. DPLUS Esports
หนึ่งในสังกัดยักษ์ใหญ่จากเกาหลีที่เปลี่ยนชื่อมาจาก DAMWON Gaming ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูผลงานเก่า ๆ สมัย DAMWON Gaming เมื่อปี 2022 ต้องยอมรับว่าผลงานของพวกเขาไม่ค่อยจะดีเสียเท่าไหร่ แต่หลังจากพวกเขาย้ายมาอยู่ภายใต้ชื่อของ DPLUS พร้อมปรับผู้เล่นหลาย ๆ คนใหม่ จึงทำให้ผลงานของพวกเขากลับมาดีขึ้นทีละนิด จนสามารถว้าตั๋วเข้าสู่รายการ VALORANT Challengers Ascension 2023: Pacific ได้สำเร็จ
.
ซึ่งวิธีการเล่นของ DPLUS จะเน้นความละเอียดแบบค่อย ๆ เล่นทีละมุม เข้าตีแบบช้า ๆ จนเวลาเกือบหมด แม้ว่าบางเกมจะมีการเล่นเร็วยึด Site อยู่บ้าง แต่สุดท้าย DPLUS ก็เป็นหนึ่งในสังกัดสาย Default เสียส่วนใหญ่ และ เนื่องด้วยผลงานต่าง ๆ รวมไปถึงความคมของพวกเขาที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้ DPLUS กลายเป็นหนึ่งในสังกัดตัวเต็งอันดับ 1 ของการแข่งขันนี้ไปโดยปริยาย

2. BLEED Esports
สำหรับสังกัด BLEED Esports แต่เดิมนับว่าเป็นหนึ่งทีมคู่หมัดคู่กัดของสังกัดชาวไทยอยู่บ่อยครั้ง แต่หลังจากพลาดพลั้งต่อการคว้าเข้าสู่ League พวกเขาก็ได้ตัดสินใจปรับทีมครั้งใหญ่ พร้อมคว้าผู้เล่นตัวท็อปจากประเทศไทยอย่าง sScary มาเสริมทัพ จนทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในสังกัดที่น่ากลัว และ น่าจับตาไม่แพ้สังกัดใหญ่อย่าง DPLUS เลยก็ว่าได้
.
ส่วนในด้านวิธีการเล่นของ BLEED Esports จะเน้นไปที่การเล่นเร็วตัดเร็ว แต่ในความเข้าเร็วทำเร็วนี้พวกเขาก็ยังมีความละเอียดในเรื่องของการเช็คมุมต่าง ๆ รวมถึงยิ่งการมาของ sScary ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่น Controller สายมันส์สมองของทีมเสริมเข้ามา จึงทำให้ BLEED Esports กลายเป็นทีมที่สามารถเล่นได้หลากหลายขึ้นกว่าเดิม เช่น การ Post Plant จาก Controller ฝีมือดีอย่าง sScary และ การเล่น Outplay ต่าง ๆ ส่งผลให้ BLEED Esports กลายเป็นอีกหนึ่งสังกัดตัวตึงของรายการนี้ ไม่แพ้ DPLUS เลยก็ว่าได้

สุดท้ายนี้ในรายการ VALORANT Challengers Ascension 2023: Pacific จะเริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่ วันที่ 28 มิถุนายน - วันที่ 9 กรกฏาคม ซึ่งจะเป็นสังกัดใดที่สามารถคว้าชัยชนะในครั้งนี้ได้สำเร็จ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป