กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจและจับตามมองอย่างมาก เมื่อ Activision Blizzard ถูกยื่นฟ้องร้องในประเด็น "Frat Boy Culture" หรือ พฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศพนักงานหญิงในที่ทำงาน วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ และ การเลือกปฏิบัติต่อพนักงาน โดยกระทรวงการจ้างงานและการเคหะแห่งแคลิฟอร์เนีย (California Department of Fair Employment and Housing) ซึ่งสร้างความตกใจอย่างมากกับเหล่าผู้เล่น จนเกิดเป็นกิจกรรมนั่งประท้วงภายในเกม World of Warcraft
Oribos คือ ศูนย์กลางของสังคมกลุ่มคนเล่น WoW ที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยผู้เล่นมากมาย แต่ไม่ใช่จากการที่ตัวเกมมีอัปเดตใหม่ หรือ มี raid ใหม่ แต่เป็นการเข้าร่วมการประท้วง Activision Blizzard จากประเด็นการฟ้องร้องโดย กระทรวงการจ้างงานและการเคหะแห่งแคลิฟอร์เนีย (California Department of Fair Employment and Housing) หรือ DFEH ถึงข้อกล่าวหาที่อ้างว่า Activision Blizzard เกิดเหตุล่วงละเมิดพนักงานหญิงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่จนพนักงานหญิงหลายคนไม่ได้รับความเป็นธรรมในที่ทำงาน และ การเลือกปฏิบัติ
กิจกรรมการประท้วงนี้จัดขึ้นโดย กิลด์ Fence Macabre ซึ่งวางตัวเป็นกลางบนเซิร์ฟเวอร์ Wyrmrest Accord และ Moon Guard ผู้เล่นกลุ่มนี้ได้จัดกิจกรรมการกุศลมากมาย อาทิเช่น รณรงค์กาทุนการกุศลเพื่อองค์กร "Black Girls Code" ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรเพื่อสอนเด็กผู้หญิงอายุ 7-14 ปี ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีดิจิทัล
เหล่าผู้เล่นมากมายทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ต่างก็มารวมตัวกันที่เมือง Oribos ต่างนั่งประท้วงกันที่ขั้นบันได ถกเถียงกันถึงประเด็นที่กำลังเป็นเรื่องราวอยู่ ณ ตอนนี้ หรือ แสดงความโกรธ และ ผิดหวังต่อค่ายเกมที่พวกเขาให้การสนับสนุน
Hinahina Grey หนึ่งในผู้เล่น และ ตัวแทนสมาชิกของกิลด์ Fence Macabre ทำหน้าที่เป็น ผู้ประกาศเชิญชวนผู้เล่นให้เข้าร่วมการประท้วงในครั้งนี้ และ จัดการไม่ให้การประท้วงมีผู้เล่นมากจนเกินไปจนเกิดปัญหากับทางเซิร์ฟเวอร์ ได้กล่าวถึงกิจกรรมการประท้วงครั้งนี้ไว้ว่า
ในฐานะที่ฉันเป็นชนพื้นเมืองชาวฮาวาย การได้เห็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม และ ทารุณต่อพวกเขา ทำให้ฉันเกิดแรงบันดาลใจอย่างมากที่จะออกมาเรียกร้อง และ สร้างความตระหนักรู้ถึงจิตสำนึกมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่ฉันได้เป็นตัวแทน ฉันยืนหยัดเพื่อสนับสนุนคุณค่า และ ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนชายขอบเหล่านั้นเสมอ สาเหตุที่จัดประท้วงภายในเกม เพื่อให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถมีส่วนร่วมกับกิจกรรมนี้ และ สามารถเล่นเกมไปพร้อม ๆ กันได้
นอกจากการนั่งประท้วงกันภายในเกมแล้ว ผู้เล่นหลายคนยังใช้วิธีประท้วงด้วยการ "ยกเลิก subscribe" และ ใช้เวลาที่เหลืออยู่ภายในเกมเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้ได้มากที่สุด (เนื่องจากตัวเกมมีระบบ sub-lock ที่ถ้าหากผู้เล่นกดจ่ายเงินค่า subscribe เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว จะไม่สามารขอคืนเงินได้) และมันก็ได้ผลเสียด้วยสิ !
งานนี้ทาง Activision Blizzard เองก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นในครั้งนี้ว่า เป็นการบิดเบือนความจริง ซึ่งยังไม่ได้รับการชี้แจงที่กระจ่างในหลาย ๆ ประเด็น และ ไม่สบายใจต่อการยื่นฟ้องร้องของ DFEH ต่อศาลในทันที โดยไม่มีการสอบสวนอย่างรอบคอบก่อน ซึ่งทำให้องค์กรเสียภาพลักษณ์ และ Activision Blizzard เองยังคงยืนยันว่าทางองค์กรมีนโยบายให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม และ หลากหลายทางสังคม