Friday the 13th: The Game เกม Horror Survival 4 vs 1 จากหนังสยองขวัญชื่อเดียวกัน ที่ตัวเกมยังไม่สามารถโชว์ของได้เต็มที่ ก็มาเจอข้อพิพาททางกฎหมายกับผู้ถือสิทธิ์แบรนด์ ทำให้ Gun Media ผู้จัดจำหน่ายและ IllFonic ผู้พัฒนาเกมไม่สามารถทำ Content ใหม่ ๆ ออกมาได้ จนแล้วจนรอดก็ได้รู้ว่า ทีมพัฒนาเกมถูกบังคับให้หยุดการพัฒนาตัวเกม รวมไปถึง Content อื่น ๆ ที่หลาย ๆ คนอยากให้ทำออกมาจริง ๆ
ถ้าจะให้ทบทวนสั้น ๆ ถึงเรื่องนี้ ย้อนกลับไปปี 2018 หลังจากที่ Gun Media มีกรณีพิพาททางกฎหมายกับผู้สร้างหนัง Friday the 13th และเรื่องลิขสิทธิ์ของตัวหนัง ทำให้การพัฒนาตัวเกม Friday the 13th: The Game เกิดปัญหา และต้องหยุดการพัฒนาตัวเกมนี้อย่างสิ้นเชิงไปในปี 2019 และเราก็ไม่ได้ข่าวของเกม ๆ นี้อีกเลย แต่ตัวเกมยังคงเล่นผ่านระบบออนไลน์แบบ Peer-to-Peer ได้อยู่
ล่าสุด Wes Keltner - CEO ของ Gun Media ได้ออกมาเปิดเผยผ่าน TwitLonger ในหัวข้อ “เวลาผ่านไปนานพอแล้ว (Content ของ F13 ที่ถูกบังคับให้หยุดทำ)” พูดถึงตัว Content ของ Friday the 13th: The Game ที่ไม่สามารถสานต่อให้เสร็จได้ โดย Content จะเป็นพวก Cosmetics อย่าง “Slumber Party” ที่เป็นชุดเสื้อผ้า และ “Prom Pack” เปลี่ยนแคมป์ Crystal Lake ให้เป็นคืนงาน Prom Party
และ Content ที่ดูจะใหญ่ที่สุดในลิสต์ทั้งหมด ก็จะเป็น “Paranoia” ที่จะเป็นโหมดที่ผู้เล่นจะได้เล่นเป็น “Counselors” และจะไม่มี Jason แต่ผู้เล่นจะต้องสะสมชิ้นส่วนหน้ากาก 5 ชิ้น เพื่อกลายเป็น Jason แล้วไล่ล่าผู้เล่นคนอื่น ถ้าผู้เล่นถูกฆ่าในร่าง Counselors คนที่ฆ่าก็จะสามารถใช้หน้ากากมาแปลงร่างเป็น Jason แล้วก็ไล่ฆ่าวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเกมจะจบ คล้าย Among Us ที่ทุกคนเวียนกันเป็น Imposter ได้เมื่อฆ่า Imposter สำเร็จ
Wes Keltner ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า มันออกจะน่าเศร้าที่ไอเดียพวกนี้ไม่ได้ทำให้มันเป็นจริง เพราะมันค่อนข้างเจ๋งเอามาก ๆ บางคนอาจจะโกรธ แต่ก็เข้าใจ เพราะเขาอยากให้รู้ว่าตัวเขารักเกมนี้มากแค่ไหน และมีความคิดดี ๆ เพื่อเกม ๆ นี้เสมอ