หนึ่งในเรื่องที่หยิบมาพูดถึงกันอยู่ตลอดเวลาสำหรับ Apex Legends ก็คือเรื่องของอาวุธในเกม ซึ่งแต่ละคนนั้นมีของถนัดและความชอบที่ไม่เหมือนกัน บางคนถนัดยิงไกล บางถนัดยิงใกล้ เพราะฉะนั้นก็เลยมีอาวุธที่เข้ามือไม่เหมือนกัน แต่สำหรับผู้ที่ยังมีความรู้ไม่มาก และอยากจะรู้ว่าในเกมนี้มีอาวุธอะไรน่าหยิบมาใช้บ้าง วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ
หลักการจัด Tier
สำหรับการจัด Tier อาวุธในรอบนี้ จะเน้นไปที่ความใช้งานง่าย ประสิทธิภาพและหลายองค์ประกอบรวมกัน บางกระบอกอาจจะหายาก แต่ก็คุ้มค่าที่จะหามาใช้ โดยมีลำดับดังนี้

S Tier: เจอแล้วบังคับหยิบ เพราะอาจถูกเอามาใช้กับเราเองได้ถ้ามองข้ามไป
A Tier: ใช้งานได้ดีทั้งช่วงต้นเกมไปจนถึงท้ายเกม อาจเปลี่ยนได้เมื่อเจออาวุธ S Tier มาให้ใช้
B Tier: ยังอยู่ในเกณฑ์ใช้งานได้เยี่ยม แต่อาจมีของที่ดีกว่าให้ใช้เปลี่ยนได้ หรือไม่ก็ต้องการของแต่งบางอย่างมาใส่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
C Tier: อาจจะมีประสิทธิภาพที่ไม่สุด แต่ก็ใช้งานได้ตามความถนัด แต่แนะนำว่าเมื่อเจอของดีกว่าให้เปลี่ยนดีกว่า
D Tier: ประสิทธิภาพน่ากังขา แต่ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
S Tier

Kraber .50: อาวุธบังคับหยิบที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยประสิทธิภาพที่น็อคใครก็ได้เลยหนึ่งคนเมื่อยิงโดนหัว และยังยิงได้ไกลมากเมื่อเทียบกับ Sniper กระบอกอื่น ๆ เป็นของบังคับหยิบที่เจอเมื่อไหร่ต้องเอามาใช้ทันที ยกเว้นแค่ในสถานการณ์ที่วงอยู่ชิดมากในรอบท้าย ๆ ที่อาจจะใช้ยากเกินไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าคุณยิงแม่นพอ

Splitfire: แม้จะถูกปรับสมดุลให้คุมปืนยากขึ้นในช่วงแรกที่เริ่มยิง และความแรงที่น้อยลงมาจนปิดงานได้ยากขึ้น แต่ Splitfire ก็ยังเป็นปืนที่มีสมดุลยอดเยี่ยมไม่ว่าจะยิงในระยะใดพร้อมความเสียหายที่ต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกระสุนมากพอที่จะยิงกดดันจนอีกฝ่ายต้องพ่ายแพ้ได้ถ้ามีสติมากพอ และมันก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีแม้จะไม่มีของแต่งติดไว้ ปืนเปล่า ๆ นี่แหละเก็บมานักต่อนักแล้ว

Prowler: แม้จะหายาก แต่ Prowler ก็ยังเป็นหนึ่งในสุดยอดปืน SMG ที่ใช้ง่ายและยิงโหดอยู่ดีในระยะประชิด รวมไปถึงเปลี่ยนโหมดการยิงได้ด้วย แต่ต้องจำไว้ว่าปืนจาก Care Package นั้นมีจำกัด ยิงอย่างประหยัดกันด้วย

Bocek: เปิดตัวมา Season นี้เป็นครั้งแรกก็เอาซะผู้เล่นไปไม่เป็นกันเลยสำหรับ Bocek ที่แม้จะปรับสมดุลลงแล้ว แต่ความโหดแบบง้างยิงเต็มเหนี่ยวก็ยังแรงมากอยู่ดี แม้จะใช้ยากไปนิด แต่ความแรงต่อหนึ่งดอกก็จัดว่าคุ้มค่าอยู่ และยังเป็นอาวุธที่การันตีว่าเก็บได้แน่นอนแม้จะถูกปรับความแรงลงมาแล้วก็ตาม
A Tier

Volt: ถ้าไม่ติดว่ากระสุน Energy จะหาได้ค่อนข้างยากกว่ากระสุนชนิดอื่น Volt ก็ถือเป็นอาวุธที่ครบเครื่องมากกระบอกหนึ่ง ไม่ว่าจะระยะไหนก็ไว้ใจได้ แต่อาจจะต้องพึ่งของแต่งเสริมเสียหน่อยจึงจะพอเอาไปใช้ในช่วงปลายเกมได้

Triple Take: อีกหนึ่งอาวุธที่ถูกนำไปเก็บใน Care Package น่าเสียดายที่มีกล้องแค่ในระดับ 2X-4X ให้ใช้งานเท่านั้นไม่งั้นอาจจะไปถึงระดับ S Tier แต่ยังไงเสีย ความเร็วในการยิง ความแรงและอื่น ๆ ยังอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมอยู่ดี

R-301: ใช้ง่ายใช้คล่องก็ยังคงเป็นนิยามของปืนกระบอกนี้อยู่ดี ไม่ว่าจะยิงระยะไหน R-301 ก็ทำหน้าที่ของมันได้ไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้จะไม่ได้เด่นระดับต้องมี แต่ก็เป็นปืนที่ไม่เคยทรยศเราและใช้งานได้ดีเสมอ

R-99: สุดยอดปืน SMG ที่มี Fire Rate สูงที่สุดในเกม แม้จะละลายศัตรูในระยะใกล้ได้ไวมาก แต่ก็แลกมาด้วยการคุมปืนที่ต้องใช้เวลาในการฝึกพอสมควร อีกทั้งควรหาของแต่งอย่าง Extended Magazine มาใช้งานควบคู่ไปด้วย ไม่งั้นได้งานงอกตอนกระสุนหมดแน่นอน

Peacekeeper: หลุดออกมาจาก Care Package เสียทีหลังจากที่ถูกเอาไปใส่อยู่เสียนาน แม้จะถูกปรับความแรงและการยิงให้ช้าลงแต่ก็ยังเป็นปืนที่อันตรายอยู่ดีถ้าคนใช้แม่นพอ และแน่นอนว่ามันมีภาษีดีกว่า Mastiff ที่โดน Nerf อย่างหนักหน่วงไปเมื่อ Season 8 อยู่เยอะ แต่ถ้ายิงไม่ดีพอก็เสร็จฝ่ายตรงข้ามได้เหมือนกัน

Wingman: บางคนอาจจะกังขา แต่เราก็ต้องบอกว่า Wingman นั้นยังเป็นปืนที่ดีอยู่เหมือนเดิม แค่ต้องใช้เวลาฝึกและเล็งอย่างปราณีตเสียหน่อย ไม่งั้นก็อาจจะยิงไม่โดนได้ แต่ด้วยความแรงที่หนักแน่นและค่อนข้างแม่นยำในระยะกลาง ทำให้มันยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ไม่น้อยสำหรับคนที่ชอบอะไรชัวร์ ๆ

Flatline: อีกหนึ่ง Assault Rifle ที่เริ่มมีคนนิยมใช้มากขึ้น ด้วยความแรงระดับหน้าโยก แต่ก็ติดในเรื่องของแรงดีดปืนที่คุมได้ยากและต้องใช้เวลาฝึก แต่ถ้าฝึกจนคล่องแล้ว รับรองว่าไม่ว่าระยะไหน Flatline ยิงได้หมดแน่นอน
B Tier

EVA-8: แม้ความแรงในฐานะปืนลูกซอง EVA-8 จะค่อนข้างด้อยกว่ากระบอกอื่น แต่ด้วยอัตราการยิงที่ค่อนข้างต่อเนื่องที่พอชดเชยได้ ทำให้ผู้เล่นหลายคนเลือกถือมันมากกว่า Peacekeeper หรือ Mastiff แต่นั่นหมายถึงคุณต้องมี Shotgun Bolt ระดับดี ๆ ติดไว้สักหน่อย ไม่อย่างงั้นอาจจะไม่ทันกินได้

G7 Scout: กลายร่างมาเป็น Marksman Rifle ไปแล้วใน Season นี้ แม้จะติดกล้องยิงไกลมากไม่ได้เท่าเดิม แต่ G7 ยังเป็นปืนประเภทยิงเคาะที่น่าสนใจถ้าทีมของเราไม่ได้เน้นเข้าบวกในระยะประชิด และยังยิงค้ำให้เพื่อนในระยะกลางและไกลได้ค่อนข้างดีและต่อเนื่องไม่น้อย

30-30 Repeater: คล้ายกับ G7 Scout แต่มีความแรงมากกว่าเมื่อชาร์จจนเต็ม แต่ก็แลกมาด้วยการที่ยิงช้าลงแบบชัดเจน ซึ่งในโหมด Battle Royale ถ้าคุณมีของแต่งและ Hop Up อย่าง Shatter Cap ใส่ ก็ช่วยให้ปืนยิงได้หลากหลายมากขึ้นด้วย ข้อเสียอีกอย่างคือการรีโหลดที่เป็นแบบ Breach Load ใส่ทีละนัดซึ่งกินเวลากว่าการรีโหลดทั่วไป ทำให้ต้องทำการยิงให้ดีนิดนึง

Devoltion: ปัญหาเดียวของ Devoltion ก็คือเรื่องของการเริ่มยิงได้ค่อนข้างช้ามากถ้าไม่มี Turbocharger แต่ถ้าหากหามาใช้ได้ Devoltion ก็จะทดแทนด้วยความแรงระดับตัวขาดที่ 255 Damage ต่อวินาที แต่ก็นั่นแหละ ถ้าหาปืนได้แต่ไม่มี Hop Up ก็ขอแนะนำให้ผ่านไปเลยดีกว่า

Hemlock: จุดติดขัดของ Hemlock คือรูปแบบการยิงและการคุมปืน เพราะปืนแบบ Burst Fire ยิงทีละสามนัดนั้นมีช่วงเวลาในการยิงชุดต่อไปค่อนข้างนาน แม้จะเปลี่ยนไปยิงแบบทีละนัดได้ แต่ก็ค่อนข้างช้าและเบากว่าปืนยิงเคาะแบบอื่นอยู่พอตัว แต่ถ้าคุณถนัดใช้ อันนี้เราก็ไม่ว่ากัน

Havoc: เช่นเดียวกับ Devoltion ที่ถ้าไม่มี Turbocharger เราก็ขอให้ผ่านมันไปเลย แต่ถ้าคิดว่าหากระสุน Energy มาใช้ได้และชอบปืนที่ยิงได้แรง มันก็พอจะนำมาพิจารณาเป็นตัวเลือกได้บ้าง

Sentinel: Mini Kraber กระบอกนี้ได้รับการ Buff มาเล็กน้อยจนสามารถเอามาใช้งานได้แล้วในระยะไกล ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ Skullpiecer ถูกถอดออกไป และต้องการปืนยิงชัวร์ในระยะไกล Sentinel ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี แม้จะไม่ได้ชัวร์เท่า Kraber ก็ตาม

Charge Rifle: นี่ถือเป็นปืน Sniper Rifle ที่ยิงได้ง่ายที่สุดในทุกกระบอกเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ผู้เล่นต้องพยายามคุมปืนให้ลากไปโดนในช่วงระเบิดสุดท้ายให้ได้เพื่อความแรงสูงสุด แม้จะโดน Nerf ไปบ้าง แต่ในระยะไกลมาก ๆ Charge Rifle ก็ถือเป็นปืนที่ดีสำหรับสายซุ่ม
C Tier

Longbow DMR: แม้จะถูกถอด Skullpiecer ออกไป แต่ความแรงเข้าหัวที่ปรับขึ้นมาก็พอจะทำให้ Longbow มีที่ทางบ้างใน Season นี้ แต่สำหรับปืนเคาะที่ยิงไม่ได้ต่อเนื่องมาก ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่หันไปใช้ G7 Scout มากกว่าแม้จะยิงไกลสู้ไม่ได้ก็ตาม แต่อย่างไรเสียใน C Tier นี้ Longbow ก็ยังเป็นปืนที่ใช้งานได้ ไม่ได้ถึงกับแย่ซะทีเดียว

Mastiff: หลังถูก Nerf จนแทบไม่ได้ผุดได้เกิดใน Season ที่แล้ว Mastiff ก็กลายเป็นปืนหลังเขาที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นโดยไม่เหลียวแล แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดที่ว่าใช้ไม่ได้ เพียงแต่มันช้าลงมากจนอาจกลายเป็นเป้านิ่งได้เมื่อยิงไม่โดน ซึ่งคำแนะนำของเราคือ เมื่อเจอปืนที่ดีกว่าก็เปลี่ยนเถอะ

Alternator: พอไม่มี Hop Up Disruptor Rounds แล้ว ก็ดูเหมือนว่า Alternator จะกลายเป็นปืนที่ถูกลืมในทันที แต่อย่างไรเสีย ด้วยความแม่นที่ค่อนข้างนิ่ง อัตราการยิงก็พอใช้ได้ ทำให้มันยังพอเอามาใช้เล่นอยู่ได้ในช่วงต้นเกม อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลยน่ะ

RE-45: เช่นเดียวกับ Alternator แม้จะยิงได้เร็วกว่า แต่ความแรงต่อนัดก็ค่อนข้างน้อย ถ้าเจอปืนที่ดีกว่าก็เปลี่ยนเถอะ

L-Star: แม้มันจะดูดีในเรื่องของการยิงแบบต่อเนื่องไม่ต้องรีโหลด แต่ L-Star ก็ยังมีปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องของวิถีกระสุนที่สว่างมากจนอาจจะทำให้มองเป้าหมายไม่เห็น ยิ่งถ้ายิงจากระยะไกล ๆ ก็มีโอกาสหลบได้ง่ายขึ้นด้วย แต่สำหรับช่วงต้นเกมที่นัวกันแบบติดตัว มันก็เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้อยู่
D Tier

Mozambique: แม้มันจะถูก Buff ให้มีเม็ดกระสุนมากขึ้น เกาะกลุ่มมากขึ้น และกระสุนจาก 4 เป็น 6 นัด นั่นก็ไม่ค่อยช่วยให้ Mozamzique โดดเด่นขึ้นมาจากเดิมเลย แต่เอาน่า อย่างน้อยการเล็งยิงแบบ ADS ในช่วงต้นเกมก็ดีกว่าใช้หมัดต่อยเป็นไหน ๆ

P2020: พอไม่มี Hammerpoint Rpunds แล้ว P2020 ก็กลายเป็นปืนธรรมดาที่ทุกคนอยากกำจัดมันออกไปจากตัวมากที่สุด ถ้าไม่มีปืนอื่นอยู่จริง ๆ ค่อยหยิบมันมาใช้ละกัน
ทั้งหมดนี้คือ Tier List ของอาวุธประจำ Apex Legnds Season 9 นี้ ใครมีความเห็นอย่างไรก็เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้เหมือนเคยเลย!