จากรายงานอัปเดตของทีมพัฒนาเกมบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Call of Duty พบว่า มีบัญชีผู้เล่นของ Call of Duty กว่า 350,000 บัญชี ถูกลงโทษแบน จากการตั้งชื่อในแนวเหยียดเชื้อชาติ และพฤติกรรมสุด Toxic ระหว่างเล่นเกม โดยมีทั้งจากในเกม Call of Duty: Warzone, Black Ops Cold War, Modern Warfare และ Call of Duty: Mobile
มหกรรมการแบนครั้งใหญ่นี้ เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นการแบนจากรายงานที่ผู้เล่นด้วยกันส่งเข้ามา และการตรวจสอบฐานข้อมูลชื่อผู้เล่นอย่างละเอียด และจากรายงานนี้ ทางทีมงานได้เพิ่มเติมว่า “เราสัญญาว่าจะมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สนุกสนานสำหรับผู้เล่นทุกคน จะไม่มีที่ให้กับผู้เล่นที่มีพฤติกรรม Toxic, สร้างความเกลียดชัง หรือการคุกคามรูปแบบต่าง ๆ ในเกมและในสังคมเกมของเรา”
นอกจากการสั่งแบนผู้เล่นแบบปกติแล้ว ทางทีมงานได้ติดตั้งตัวกรองใหม่ในเกม เพื่อตรวจจับชื่อ Clan และโปรไฟล์ผู้เล่น อีกทั้งข้อความในแชทที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย โดยเมื่อก่อน Activision ต้องทำงานเชิงรุก เพื่อดูแลชุมชนเกม Call of Duty อีกทั้งทีมพัฒนาได้มีบัญชีที่จับตามองไว้ เพื่อป้องกันผู้เล่นชาวโกงเข้ามาป่วนใน Warzone มาในเดือนกุมภาพันธ์ มีอัปเดตว่ามีผู้เล่นที่ถูกลงโทษไปแล้ว 60,000 บัญชี และเมื่อร่วมกับบัญชีที่ตรวจสอบแล้ว มีถึง 300,000 บัญชีที่ถูกจับแบนถาวร
ทางทีมพัฒนาของ Call of Duty ได้กล่าวเพิ่มไว้ว่า “ยังมีงานอีกมากมายให้ไปสะสาง อีกทั้งการเพิ่มขีดจำกัดในการดูแลผู้เล่น รวมไปถึงการสอดส่อง Voice Chat ในเกม เพื่อในการรับมือกับพฤติกรรม Toxic ของผู้เล่นในเกมที่เกิดขึ้น” ถือว่าได้ว่าเป็นจำนวนที่น่าตกใจสำหรับ 1 ปี ที่ทาง Activision ได้ทำงานเพื่อปรับปรุงสัมคมเกมให้น่าอยู่ ท่ามกลางผู้เล่นจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน