VALORANT แพทช์ใหม่ 2.03 ที่นอกจากจะมีการเพิ่มสกินปืน และรวมถึงการปรับสมดุลต่างๆ แต่ว่ายังมีอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนต่างจับตามองในแพทช์ใหม่นี้ของตัวเกมก็คงหนีไม่พ้นการที่ Riot Games เอาใจผู้เล่นสาย Casual มากขึ้นด้วยการเพิ่มโหมดใหม่สุดล้ำฉีกทุกกฎของเกม VALORANT อย่าง ESCALATION เข้าสู่ตัวเกม ซึ่งใครที่ยังไม่รู้ว่าโหมดใหม่นี้มีวิธีการเล่นอย่างไรละก็ ทางเราจะอธิบายคร่าวๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันก่อนไปเจอของจริงในเกม
รายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับโหมด VALORANT ESCALATION
โดยโหมด ESCALATION นี้ผู้เล่นจะต้องเนรมิตการใช้อาวุธและสกิลที่ระบบเกมสุ่มมาให้แตกต่างกันในแต่ละรอบในการสังหารฝ่ายตรงข้าม โดยถ้าให้นึกภาพง่ายๆ ละก็คุณจะเป็น Jett ที่สามารถใช้สกิล Resurrection อัลติเมทของ Sage ในการชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมได้นั่นเอง และนี้ถือว่าเป็นการสานต่อมีมในตำนานสุดโด่งดังของ VALORANT อย่าง jett revive me ให้สามารถเกิดขึ้นจริงๆ ได้สักที ซึ่งก็ไม่รู้ว่า Riot Games มีแนวคิดมาจากมีมนี้หรือเปล่า (ฮา)

ปัจจัยในการเอาชนะของโหมด ESCALATION
โหมดนี้ผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นฝ่ายละ 5 คนตามปกติ โดยโหมดนี้แม้จะเป็นโหมด Arcade แต่บอกเลยว่าจะต้องเน้นทีมเวิร์คในการเล่นเป็นหลัก เพราะว่าในโหมด ESCALATION VALORANT นี้จะคิดผลแพ้-ชนะ ก็ต่อเมื่อทีมใดทีมนึงสามารถเก็บเลเวลถึง 12 ก่อน ซึ่งการที่จะอับเลเวลได้นั้นผู้เล่นในทีมทุกคนจะต้องช่วยกันเก็บแต้มในการสังหารศัตรูเพื่อก้าวผ่านในแต่ละเลเวลไปให้ได้
โดยยิ่งเมื่อเลเวลเยอะขึ้นตัวละครของเราก็จะจะมีความสามารถมากขึ้นตาม แต่ถึงแม้โหมดนี้จะเล่นเป็นทีมแต่ถ้าคุณทำอะไรไม่ได้เลยเลเวลของคุณก็จะไม่ขึ้นและไม่สามารถพัฒนาตัวละครให้เก่งขึ้นได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นคุณต้องสังหารศัตรูให้ได้ 1 ตัวตลอดเวลาเพื่อเพิ่มเลเวลให้ตัวเองและเลเวลให้กับทีม

กฏกติกาสำหรับโหมด ESCALATION VALORANT
- โหมดเกม 5v5
- Escalation ทั้ง 12 เลเวล (แต่ละเลเวลจะมีอาวุธหรือสกิลเฉพาะของแต่ละเลเวล)
- ทีมแรกที่มาถึงเลเวล 12 หรือไปได้ไกลที่สุดใน 10 นาทีจะเป็นผู้ชนะ
- ทั้งทีมต้องทำคะแนนได้ 7 แต้มในแต่ละเลเวลเพื่อข้ามไปสู่เลเวลถัดไป
- สังหารอีกฝ่ายที่เลเวลเท่ากันจะได้ 1 แต้ม
- สังหารอีกฝ่ายที่เลเวลต่ำกว่าจะได้ 0.5 แต้ม
- ผู้เล่นแต่ละคนจะมีเลเวลอาวุธของตัวเองที่ต้องผ่านขึ้นไปให้ได้
- คุณจะต้องใช้อาวุธสังหารให้ได้อย่างน้อย 1 ครั้งเพื่อปลดล็อกอาวุธในเลเวลถัดไป
- ทีมของคุณสามารถไปต่อยังเลเวล Escalation ถัดไปได้แม้ว่าคุณจะมีอาวุธที่เลเวลต่ำกว่าอยู่
- ตัวอย่าง: ทีมของคุณสามารถไปถึงเลเวล 4 ได้แต่คุณก็สามารถ“ติดอยู่” ที่อาวุธเลเวล 1 (สมมติว่าเป็น Vandal) จนกว่าคุณจะใช้อาวุธนั้นทำการสังหารได้ 1 ครั้ง จากนั้นคุณได้เปลี่ยนเป็นอาวุธเลเวล 2 ไม่ใช่ข้ามไปอาวุธเลเวล 4 เลย
- แต่ละเกมจะใช้เวลาเล่นประมาณ 7–9 นาที
- ไม่มีสกิลที่เป็นท่าเฉพาะของแต่ละเอเจนท์ตัวละครที่คุณเลือก แต่จะมีเฉพาะสกิลพื้นฐานที่ผู้เล่นทุกคนจะเห็นได้ในตลอดการแข่งขัน (ดูที่ส่วน อุปกรณ์สวมใส่ ด้านล่าง)
- เกิดใหม่ได้ไวขึ้น (มีสถานะคงกระพัน 5 วินาทีแรกหลังเกิด)
ความสามารถในแต่ละเวลของโหมด ESCALATION VALORANT
เลเวล 1: จะเป็น Showstopper ของ Raze หรือ Vandal/Phantom เสมอทุกครั้ง
เลเวล 2: จะเป็น Vandal หรือ Phantom ทุกครั้ง
เลเวล 3–11: อาวุธและสกิลต่าง ๆ มากมาย
เลเวล 12: อาจเป็น Shorty, Classic, Knife, Shock Dart...หรือแม้แต่เครื่องยิงหิมะก็ได้
พลังชีวิต: ทุกครั้งที่เอเจนท์ตายจะมี Health Pack ดรอปมาให้ และจะหายไปใน 10 วินาที
และที่สำคัญเลยก็คือโหมดนี้จะให้ XP ที่เยอะมากพอสมควรเรียกว่าเอาไว้เล่นเก็บแต้ม VALORANT Battlepass ได้แบบชิวๆ โดยจบเกมจะได้รับ 800XP และทีมชนะจะได้รับเพิ่มอีก 200XP ซึ่ง
โหมด ESCALATION VALORANT ของ VALORANT จะยังเป็นโหมดที่เปิดแบบจำกัดระยะเวลาอยู่ แต่เชื่อเถอะถ้าผลตอบรับจากผู้เล่นดีละก็ Riot Games อาจจะนำโหมด ESCALATION เข้าสู่ตัวเกม VALORANT แบบถาวรก็เป็นไปได้