วันนี้เราจะมาพูดถึงอาวุธปืนระยะใกล้ หรือว่าลูกซองในเกม Valorant กันครับ ในเกมนี้จะมีปืนลูกซึ่งอยู่สองชนิดด้วยกัน นั่นก็คือ Bucky และ Judge ซึ่งถือได้ว่าเป็นปืนระยะใกล้ที่มีประสิทธิภาพสูง แถมยังมีราคาที่ถูกกว่าปืนอื่นๆ โดย Bucky มีราคาอยู่ที่ 900 ส่วน Judge นั้นมีราคาอยู่ที่ 1600 เท่านั้น ทั้งคู่เป็นปืนที่มีราคาประหยัดมากๆ และในรอบที่เราต้องการจะเล่นแบบ eco ซึ่งการใช้ลูกซองในการดักหรือซุ่มยิงศัตรู เป็นแผนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
-201012-172050.png?versionId=TjxoLpnn_sedjVl0d1BOFwit24AQo0bR)
อย่างไรก็ตามลูกซองทั้งสองแบบนั้น มีหลักการและเทคนิคการใช้ที่แตกต่างกัน ซึ่งเว็บไซต์ Win.gg ก็ได้ลงบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับความแตกต่างของปืน 2 กระบอกนี้เอาไว้ ว่าหลักการและและการได้เปรียบเสียเปรียบของปืนสองกระบอกนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
จุดเด่นและข้อดีของ Bucky

Bucky เป็นปืนที่ราคาสุดถูกแค่ 900 เท่านั้น ถือว่าเป็นอาวุธหลักที่ถูกที่สุดแล้วในเกม รวมถึงเป็นอาวุธที่ดีในระยะใกล้ และแม้ว่ากระสุนจะมีเพียงแค่ 5 นัดซึ่งน้อยมาก แต่ก็สามารถจะจัดการกับศัตรูทั้งทีมได้ ถ้าเราสามารถยิงแบบ Head Shot ได้นั่นเอง โดยดาเมจที่ทำใส่ศัตรูในระยะไม่เกิน 7 เมตรนั้นก็คือ ขา19/ตัว23/หัว 46 ส่วนในระยะไกลขึ้นที่มากกว่า 7 เมตรดาเมจจะลดลงเหลือแค่ ขา11/ตัว14/หัว28 แต่ด้วยความเป็นลูกซองแล้วนั้น ถ้าในระยะที่ใกล้มากๆ ขอเพียงแค่ลั่นไปโดนเต็มๆร่างของศัตรูแค่ 1 นัด ก็เพียงพอต่อการส่งศัตรูไปสวรรค์ได้เลย
จุดเด่นและข้อดีของ Judge

Judge เป็นปืนลูกซองแบบ Full-Auto หรือก็คือการยิงได้แบบรัวๆนั่นเอง และด้วยราคาแค่ 1500 เท่านั้น มันจึงดีมากๆสำหรับคนที่ชอบต่อสู้ในระยะใกล้ๆ และด้วยสไตล์การเล่นที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะชอบไปนั่งแอบตามมุม ตามซอก เพื่อดักยิงศัตรูโดยที่พวกศัตรูนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว แต่การทำดาเมจนั้นน้อยกว่า Bucky คือ ขา14/ตัว17/หัว34 ในระยะสั้น และ ขา11/ตัว13/หัว26 ในระยะไกล แต่ด้วยความเร็วการยิงที่ยิงได้แบบต่อเนื่อง และกระสุนที่มีมากกว่าคือมี 7 นัด ทําให้รู้สึกว่าอาจจะได้เปรียบในการยิงต่อเนื่องมากกว่าปืน Bucky ถ้าเรายิงพลาดนัดแรกไป ก็ยังพอจะสามารถตามด้วยนัดที่สอง สาม สี่ ได้เรื่อยๆ เพื่อหวังผลในการฆ่าได้ทันที ก่อนที่ศัตรูจะยิงสวนเรากลับมา ยิ่งในระยะใกล้ๆแล้วเพียงแค่ 1-2 นัดก็น่าจะเพียงพอต่อการจัดการกับศัตรูได้ไม่ยาก ยิ่งการที่เราจะแอบอยู่ตามมุม และออกมากราดยิงศัตรูด้วยการใช้ประโยชน์ของอัตราความเร็วในการยิงของปืนได้อีกด้วย
จากข้อมูลที่เราได้เห็นไปแล้ว สรุปได้คร่าวๆว่า ปืนลูกซองอย่าง Bucky นั้น น่าจะเหมาะในการตั้งเป้ารอศัตรูที่จะเดินเข้ามาเราได้ดีมากกว่าเนื่องจากกระสุนที่น้อย ยิงได้ทีละหนึ่งนัด และต้องชักปืนใหม่ โอกาสที่เราจะเล่นแบบเดินยิงนั้นจะทำให้เราเสียเปรียบ ส่วนในฝั่งของปืน Judge นั้น ด้วยอัตรายิงแบบต่อเนื่อง จะเหมาะกับการทำเกมรุกใส่ศัตรูมากกว่า สามารถเดินใส่ ไล่ยิงศัตรูได้แบบไม่ยั้งถึง 7 นัดเลยทีเดียว นี่จึงน่าจะเป็นโอกาสเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ค่อยได้ใช้ลูกซองในรอบที่เราต้องการประหยัดเงิน ให้ได้หันมาลองใช้ และนำเทคนิคตรงนี้ไปใช้จริง เพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจกลับมานั่นเองครับ