แพทช์ใหม่ของ RoV ที่เพิ่งอัพเดตเข้ามานั้น ถือเป็นการอัพเดตที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ชนืดที่จะเรียกเป็น RoV ภาคสองก็ยังได้ โดยหนึ่งในไฮไลท์ที่สำคัญสำหรับแพทช์นี้ก็คือ ระบบพลังแฝง ซึ่งจะเข้ามาเป็นส่วนเสริมใหม่ๆ ทำให้ฮีโร่ตัวเดียวกันโดดเด่นที่ต่างกันไปตามคนเล่น แต่สุดท้ายแล้วระบบนี้จะเปลี่ยนการเล่นมากหรือน้อยแค่ไหน วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันครับ

สำหรับระบบผลังแฝงอธิบายคร่าวๆได้ว่า มันคือการเพิ่มพลังพื้นฐานของตัวละคร ด้วยสเตตัสที่มีมาให้เลือก 4 ประเภท เป็นค่าที่นำมาใช้ร่วมกับ Rune เพื่อเพิ่มพลังเริ่มต้นให้กับตัวละคร โดยที่ระบบ Rune ของเดิมก็ยังมีอยู่ เพียงแต่จะเปลี่ยนไปใช้เป็นระบบอัพเกรดเลเวล 1 - 3 เพื่อให้ตัวเกมดูมีมิติมากขึ้นแทน

การมาของค่าพลังแฝง ทำให้ไอดีใหม่เริ่มต้นได้ง่ายขึ้น
การที่ฮีโร่ทุกตัวมีพลังแฝง แม้ตัวเกมจะเพิ่มความซับซ้อนในการเล่นและการปรับแต่งฮีโร่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้เล่นใหม่เริ่มเล่นยากขึ้น ด้วยระบบพลังแฝงที่ให้เท่ากันมาตั้งแต่ต้น และระบบรูนที่อนุญาติให้เปิดใช้ช่องรูน ทุกช่องตั้งแต่เลเวล 7 ไม่ใช่เลเวล 30 เหมือนแต่ก่อน ส่งผลให้ผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นที่เลเวลน้อยสามารถก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับผู้เล่นมากประสบการณ์ได้มากขึ้น ในขณะที่ผู้เล่นเก่าจะได้เปรียบในเรื่องจำนวนรูนที่ไม่จำเป็นต้องอัพเกรดมากนัก เพราะเก็บมาตั้งแต่การเล่นก่อนหน้านี้แล้ว
ระยะเวลาการจบเกม ที่ยังสมดุลเช่นเดิม
การที่ตัวเกมมีระยะเวลาในการจบเกมแบบนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว และดูจะเป็นระยะเวลาในการเล่นที่สมดุลที่สุดในปัจจุบัน ผู้เล่นสามารถจบการเล่นตามเวลามาตรฐานได้ ในขณะเดียวกันผู้เล่นระดับสูงก็สามารถคุมระยะเวลาในการจบเกมให้ช้าหรือเร็วได้เช่นเดียวกัน
ต้นเกม กลางเกม ท้ายเกม ระบบผลังแฝง ส่งผลกับช่วงไหนของเกมมากที่สุด
พลังแฝงจะส่งผลในช่วงไหนมากที่สุด ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้ของพลังแฝงและฮีโร่ที่เข้ากันได้ด้วย แต่พลังแฝงจะแสดงออกมาเด่นชัดที่สุดในช่วงต้นเกม เพราะพลังแฝงคือการเตรียมความพร้อมให้กับฮีโร่ คล้ายๆกับการมีไอเทมติดตัวออกมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงของสกิลที่เพิ่มขึ้นของบรรดาสายเมจและแครี่ การเคลื่อนที่ที่เพิ่มความเร็วมากขึ้นบริเวณแม่น้ำ หรือแม้กระทั่งพลังแฝงที่จะช่วยลดคูลดาวน์ของสกิลต่างๆ พลังแฝงจะส่งผลให้เราต้องเล่นอย่างละเอียดมากขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเกม ซึ่งจะส่งผลต่อช่วงท้ายเกมในตอนสุดท้าย
เพิ่มพลัง แต่ไม่เปลี่ยนแนวการเล่น
กลับกลายเป็นว่าพลังแฝงจะส่งเสริมกับแนวทางการเล่นดั้งเดิมของฮีโร่ที่มีอยู่แล้ว มากกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่น พลังแฝงจะเข้าไปเสริมให้ฮีโร่นั้นๆ เล่นได้ดีกว่าที่เคยเป็น เช่นฮีโร่ตัวไหนมักจะต้องเคลื่อนที่ไปในเลนต่างๆตลอดเวลา ก็สามารถเคลื่อนที่ได้ไวมากขึ้น หรือฮีโร่ตัวไหนที่ตีช้า ก็จะไปเสริมในเรื่องพลังโจมตี ส่วนฮีโร่ที่ตีไวอยู่แล้ว ก็จะไม่ได้ตีไวเพิ่มขึ้น แต่จะไปเสริมด้านอื่นๆ อย่างตีครบจำนวนครั้งแล้วได้เกราะเพิ่มขึ้นแบบนี้มากกว่า นับว่าเป็นระบบที่เพิ่มเข้ามาเพื่ออัพเกรด แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งผู้เล่นเก่าและใหม่งุนงงแต่อย่างใด
ผลกระทบของพลังแฝงที่มีต่อเมต้า
แต่ก็มีฮีโร่บางตัวที่มีโอกาสจะกลับเข้าเมต้าเพราะพลังแฝงเช่นเดียวกัน เพราะบางตัวได้รับการเติมเต็มให้เก่งขึ้นจากพลังแฝง ที่สังเกตุได้ชัดที่สุดน่าจะเป็นฮีโร่ในที่จะเก่งในช่วงท้ายเกม อย่าง Violet หรือ Liliana ที่พลังแฝงทำให้ดาเมจของตัวละครเหล่านี้รุนแรงขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเกม และมีโอกาสที่จะถูกนำกลับมาเล่นกันมากขึ้น หรือแม้กระทั่งฮีโร่ที่ได้รับความนิยมน้อย เมื่อได้พลังแฝงไปแก้ใขในบางจุด ก็อาจจะกลับมาได้เช่นเดียวกัน ยิ่งรวมกับระบบที่ต้องการให้เล่นฮีโร่ที่หลากหลายอย่าง Global Ban - Pick ในการแข่งขันระดับสูง ระบบพลังแฝงถือว่าสำคัญต่อระบบนี้มาก
ถึงแม้ว่าระบบพลังแฝงจะกลายมาเป็นระบบที่สำคัญของ RoV ในปัจจุบัน และดูเป็นระบบที่ยุ่งยากในตอนแรก แต่หากลองเล่นและศึกษาไปเรื่อยๆ จะพบว่าระบบนี้ค่อนข้างเป็นมิตรต่อผู้เล่นใหม่และผู้เล่นทั่วไป ตัวระบบไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเกมมากนัก แต่จะไปส่งผลต่อความสามารถของตัวฮีโร่และผู้เล่นซะมากกว่า รวมถึงทางตัวเกมยังได้ตั้งค่าระบบพลังแฝงเบื้องต้นมาให้กับตัวละครทุกตัวตั้งแต่แรกอีกด้วย ถึงแม้จะไม่แตกต่างจากคนอื่นมาก แต่ก็ถือว่าค่าเริ่มต้นทำมาได้ดูดีทีเดียว และพร้อมให้เราสนุกไปกับระบบนี้โดยที่ไม่ยุ่งยากอีกด้วย เล่นได้ทุกเพศทุกวัยแน่นอน