The Exit 8 ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเกมอินดี้ชื่อเดียวกัน ที่เชื่อว่าเมื่อตอนประกาศสร้างหนัง ทุกคนต้องงงว่า มันจะออกมาอีท่าไหน? เพราะตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวของการติดลูปอยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดินของญี่ปุ่น โดยมีเพียงกฏไม่กี่ข้อที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัดนั่นก็คือ การมองหาสิ่งผิดปกติ หากไม่เจอสิ่งผิดปกติ หรือ สิ่งแปลกปลอม ให้เดินต่อไป แต่ถ้าเจอสิ่งที่ผิดปกติจะต้องหันหลังเดินย้อนกลับทันที หากไม่เดินย้อนกลับไปก็จะต้องติดอยู่ในลูปไปเรื่อย ๆ แต่วันนี้หนังได้พิสูจน์แล้วว่า ทำได้ แล้วทำออกมาดีเกินคาดเสียด้วย !

หลังจากนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์
The Exit 8 เวอร์ชันภาพยนตร์เต็มไปด้วยบรรยากาศของความไม่น่าไว้ใจ ความหม่น และอึดอัด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าหนังที่ดัดแปลงมาจากเกมจะสามารถสร้างเรื่องราวได้มากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เกมมันไม่มีอะไรเลยนอกจากมองหาสิ่งผิดปกติ แล้วตัดสินใจไปต่อหรือหันหลังกลับ เพื่อให้ไปถึงทางออกหมายเลข 8 ให้ได้ ต้องบอกเลยว่า เวอร์ชันหนังทำออกมาได้ดี น่าทึ่ง และเหนือความคาดหมาย ต้องยอมใจจริง ๆ กับงานเขียนบทของ คุณ Genki Kawamura โปรดิวเซอร์และนักเขียนมากฝีมือ
ในช่วงต้นเรื่อง หนังพาเราไปสำรวจผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่งเหมือนกับมุมมองภายในเกม ทำเอารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเลยสำหรับผู้เขียนที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนหน้าแล้ว ประกอบกับเทคนิคมุมกล้องต่าง ๆ เพลงประกอบที่ทำให้คนดูมีความรู้สึกไม่ไว้ใจ รู้สึกหวาดระแวงร่วมไปกับตัวละคร พลางช่วยมองหาสิ่งผิดปกติตามฉากต่าง ๆ จนทำเอารู้สึกลุ้นจนแอบเผลอบีบแขนตัวเองเบา ๆ ว่า "พี่ไม่เห็นสิ่งอะไรแปลก ๆ ตรงนั้นบ้างเหรอ?"

หนังมีการใช้ตัวละคร 4 ทั้งหมด 3 ตัวในการบอกเล่า และ 1 ตัวละครในการจุดประเด็นให้เกิดเรื่องราวขึ้นมา ซึ่ง 3 ตัวละครหลักเราได้จะเห็นกันบ่อย ๆ คือ The Lost Man ชายที่เดินหลงทาง (พระเอก) The Walking Man ลุงที่เดินสวนเราในทางเดินลูป และ The Boy (รับบทโดย Hirota Otsuka) เด็กชายปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นมาระหว่างที่หาทางออก
อดีตแฟนสาวของชายหนุ่มหลงทาง (รับบทโดย Nana Komatsu) เป็นตัวจุดประเด็นกับพระเอก ทำให้เกิดมิติลูปภายในเรื่อง ด้วยการบอกว่ากำลังตั้งครรภ์กับเขา ทำให้ชายหนุ่มที่มักจะตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ เลือกไม่ถูก และมักหนีปัญหา ถามตัวเองซ้ำ ๆ ว่า "ผู้ชายอย่างเขาจะสามารถเป็นพ่อที่ดีได้จริง ๆ หรือ?" ทำให้เขาต้องติดอยู่ในลูปความคิดนั่นเอง

นอกจากนี้หนังยังพาเราไปสำรวจถึงความเชื่อผ่านตัวละครเด็กสาวนักเรียนมัธยม (รับบทโดย Kotone Hanase) ที่ติดลูปเช่นกัน ว่า หากมนุษย์มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำ ไม่ได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือการทำสิ่งใดซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ จะรู้สึกทรมานวนลูปอย่างไม่สิ้นสุดราวกับอยู่ในนรกหรือไม่? ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่คมคายอย่างมาก อีกทั้งยังเชื่อมเข้ากับความเป็นมนุษย์ได้อย่างดี แถมยังตอบโจทย์เบา ๆ ไปอีกว่า ทำไมพระเอกของเราถึงเป็น ชายหนุ่มหลงทาง และทำไมถึงมาติดอยู่ในมิติลูป Anormaly นี้ได้
ซึ่งการแสดงคุณ Kazunari Ninomiya นักร้องแห่งวง Arashi มารับบทเป็นพระเอกของเรื่องต้องบอกว่าเอาอยู่จริง ๆ เก็บทุกอารมณ์จนทำเอารู้สึกสิ้นหวังแตกสลายไปพร้อม ๆ กับตัวละครได้
ส่วนที่เซอร์ไพรส์เบา ๆ ก็คงจะเป็นลุงซาลารีมัง (รับบทโดย Yamato Kochi) ที่มีเรื่องราวมากกว่าที่คิด เราไม่คิดว่าจะได้เห็นการแสดงของเขานอกจากมาเดินสวนทางเฉย ๆ แถมยังเล่นดีจนทึ่ง โดยเฉพาะฉากยิ้มสุดหลอนจนขนลุก ลุงเป็นตัวละครที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์พื้นฐานที่ต้องเลือกระหว่างตัวเองรอดไปคนเดียว หรือ ช่วยให้คนอื่นรอดไปด้วยกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วมันตอกย้ำถึงการหนีปัญหาไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จบ



จัดว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ถูกหยิบไปดัดแปลงสร้างสรรเป็นภาพยนตร์ที่ดีอย่างมาก นอกจากจะเก็บรายละเอียดจากเกมมาครบแล้ว ยังเพิ่มเรื่องราวทรงพลังที่แฝงความคิดน่าสนใจเอาไว้เบื้องหลัง ไม่ทำให้เนื้อเรื่องรู้สึกติดขัด แถมยังลื่นไหลเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างลงตัวชนิดที่ว่าไม่เคยเล่นเกมมาก่อนก็สามารถอินและเพลิดเพลินไปกับหนังเรื่องนี้ได้ แต่ถ้าได้เล่นเกมมาก่อนก็จะยิ่งอินมากขึ้นไปอีก
The Exit 8 ฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์