
เรียกว่าเป็นช่วงท้ายที่ดูสนุกลุ้นทุกตอนจริง ๆ กับอนิเมะภาคสุดท้ายของ My Hero Academia Final Season โดยในตอนที่แล้วเราได้เห็นความสามารถใหม่ของ ชิการาคิ นั่นคือการดูดอัตลักษณ์คนอื่นมาเป็นของตัวเองได้แบบ ออฟอลวัน ทาง เดกุ ที่ต้องสู้อย่างระวังมากขึ้นก็พยายามวางแผนกับเหล่าวันฟอลออ เพื่อจะเจาะเข้าไปในใจกลางส่วนลึกในจิตใจของชิการาคิ ที่ในอดีตเดกุเคยเห็นเด็กผู้ชายนั่งร้องไห้อยู่ในนั้น ซึ่งตัวของชิการาคิดก็รู้เรื่องนั้นดีว่า ตนเองยังมีความรู้สึกต้องการโหยหาความรักจากคนอื่น แม้จะมีเพื่อนมีสหายแต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการเติมเต็มที่ว่างนั้น จนชิการาคิเลือกที่จะปกปิดมันเอาไว้ และฉาบหน้าด้วยความรู้สึกอยากทำลายล้างแท้ แต่ลึก ๆ จิตใจส่วนความต้องการความรักก็ยังอยู่และเดกุก็มองเห็น นั่นคือเรื่องราวในตอนที่แล้ว เรามาดูกันว่า My Hero Academia Final Season ตอนที่ 6 จะมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจบ้างนั้นมาดูกัน

สิ่งแรกที่เรารู้ในตอนนี้ก็คือความสามารถของ เดกุ นั่นคือการดึงพลังของออฟอลวันรุ่นต่าง ๆ มาใช้ได้ ต่างกับของ ออไมค์ ที่มีความสามารถด้านพละกำลัง แถมตัวของเดกุยังพัฒนาตัวเองไปอีกขั้น นั่นคือการเอาพลังทั้งหมดมาประยุกต์ดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับตนเอง อย่างการใช้เลือดที่เป็น DNA ของรุ่นที่ 2 ที่ชิการาคิบอกว่าเห็นวิญญาณของรุ่นที่ 2 พี่แกเลยจับอัตลักษณ์ได้ และไม่ใช่แค่การดึงอัตลักษณ์มาใช้เฉย ๆ แบบที่ผ่านมา แต่เดกุรู้ว่าตนเองนั้นทำอะไรกับพลังนี้ได้บ้าง แถมเขายังคิดวางแผนมาเป็นอย่างดีก่อนสู้กับชิการาคิ โดยเฉพาะพลังทำลายล้างเมื่อสัมผัสสิ่งของครบ 5 นิ้ว ซึ่งเป็นพลังที่อันตรายที่สุดที่เดกุต้องระวัง แต่เขาก็สามารถสู้ได้ จนแม้แต่ชิการาคิยังต้องหยุดคิดว่าเดกุจะมาไม้ไหนต่อไปเลยทีเดียว

และสิ่งที่เดกุจะทำก็คือการส่งพลังวันฟอลออใส่ใจกลางจิตใจของชิการาคิ โดยตอนแรกรุ่นที่ 2 จะเป็นคนเสียสละเอง แต่มันก็ไม่มากพอที่จะเจาะเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจชิการาคิได้แบบ 100% เหล่าวันฟอลออจึงต้องใช้ทุกคนพุ่งเข้าไป ซึ่งการเจาะครั้งแรกของรุ่นที่ 2 ก็ได้ผล ชิการาคิเริ่มหวั่นไหวดูได้จากการเกาคอ ที่เป็นเอกลักษณ์ของความรู้สึกโหยหาต้องการความรัก จนสร้างมือขึ้นมารอบตัว เหมือนที่วันฟอลออทำมือมาแปะตามตัวชิการาคิในตอนแรกที่เขาปรากฏตัว

และถ้าใครจำได้สาเหตุที่ชิการาคิเป็นแบบนี้ เพราะเมื่อพลังของเขาตื่นมา ก็ได้ฆ่าทุกคนในบ้านโดยไม่ตั้งใจ ส่วนพ่อของตนก็ไม่ยอมรับในตัวของลูกชาย และดุชิการาคิที่รู้เรื่องย่าของตนที่เป็นฮีโร มันเลยทำให้ชิการาคิที่สับสนต้องการคนที่เข้าใจ และพาลไปโกรธยายที่เป็นฮีโรแต่ไม่สนใจหลานตัวเอง บวกกับความกลัวความสับสนตอนที่พลังตื่น ที่ตอนนั้นถ้ามีคนยื่นมือที่อบอุ่นมาช่วยพยุง เราคงไม่เห็นชิการาคิในตอนนี้อย่างแน่นอน

ต่อมาคือตอนที่รุ่นที่ 7 ถูกดีดออกมาช่วงที่เดกุต่อยชิการาคิครั้งที่ 2 ในตอนนั้นรุ่นที่ 7 คิดว่าชิการาคิต่อต้านตนเพราะโกรธที่ย่าเป็นฮีโร แต่ความจริงแล้วรุ่นที่ 7 เองต่างหากที่ผลักตัวเองออกมา เพราะลึก ๆ แล้วรุ่นที่ 7 ก็รู้สึกผิดที่ทิ้งลูก (พ่อของชิการาคิ) และออกมาเป็นฮีโร จนพ่อของชิการาคิเอาความเกลียดชังมาใส่ลูก จนมันกลายเป็นแผลในจิตใจของรุ่นที่ 7 มากกว่าในตัวของชิการาคิ และในตอนท้ายสิ่งที่เราได้เห็นคือรูปของพ่อชิการาคิกับย่า ที่บอกให้รู้ว่าลึก ๆ ของลึก ๆ ในส่วนลึกในจิตใจของชิการาคิ ก็นับถือย่าของตนที่เป็นฮีโรเหมือนกัน

ปิดท้ายกับตอนที่ Denki คุยกับ Momo เรื่องของเดกุที่สู้กับชิการาคิ ในตอนนั้น Denki บอกว่าเขารู้สึกไม่มั่นใจในตัวเดกุเลย ต่างกับที่เขาเชื่อมั่นในตัวของออไมค์ ที่บ่งบอกให้รู้ถึงบารมีความเป็นฮีโร ที่แม้แต่คนดูอย่างเราก็รู้สึกแบบเดียวกับ Denki ว่าออลไมค์นั้นดูมีสง่าบารมีและน่าเชื่อมั่นมากกว่าเดกุจริง ๆ จนหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ออลไมค์คือสัญญาลักษณ์ความรู้สึกปลอดภัย และความรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้เห็นเขา ต่างกับเดกุที่จนถึงตอนนี้เราคนดูก็ไม่มั่นใจว่าเดกุจะชนะชิการาคิได้ไหมแบบที่ Denki พูดจริง ๆ ซึ่งตรงนี้อาจารย์ผู้เขียนสื่อความหมายของสิ่งที่ออลไมค์เป็นได้อย่างแท้จริง
ในตอนต่อไปน่าจะเข้าสู่ช่วงตัดสินแล้ว คงต้องมารอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในอาทิตย์หน้า ส่วนใครที่สนใจอยากดูอนิเมะ My Hero Academia ตั้งแต่ตอนแรกสุดจนถึงภาค Final Season ตอนล่าสุดก็ไปหาดูได้ทาง Netflix ได้เลย แต่จะมีแค่ซับไทยเท่านั้น ส่วนมังงะจบไปนานแล้วใครสนใจก็ไปหา E-Book มาอ่านได้ บอกเลยว่าสนุกคุ้มค่าคุ้มเวลาที่ดูแน่นอน แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้า