
ย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่อินเทอร์เน็ตยังเป็นของไกลตัว บ้านไหนมีคอมพิวเตอร์แถมเล่นเกมได้ หรือบ้านไหนที่มีระบบต่อเน็ตในบ้านนั้นคือของแปลก ขนาดร้านเกมในยุคนั้นยังเป็นแค่ร้านเช่าเกมคอนโซลเลยด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าการซื้อเกมแบบดิจิตรอนเป็นสิ่งที่หลายคนคิดไม่ถึง แม้ในตอนนั้น Steam จะเริ่มเปิดตัวแล้วก็ตาม แต่ด้วยความที่บ้านเราในยุคนั้นเป็นประเทศโลกที่ 3 เลยมีหลาย ๆ อย่างล้าหลังกว่าประเทศที่ 1 กับ 2 เราเลยเลือกซื้อเกมแบบแผ่น ต่างกับในตอนนี้ที่การซื้อเกมแบบดิจิตรอน มีมากกว่าซื้อเกมแบบแผ่นแล้วก็ตาม แต่ก็มีการงานวิจัยออกมาบอกว่า การซื้อเกมแบบแผ่นส่งผลเสียต่อโลก มากกว่าการซื้อเกมแบบดิจิทัลถึง 100 เท่า ซึ่งเราก็พอจะทราบดีอยู่แล้ว แต่เห็นว่าผลงานวิจัยนี้น่าสนใจเลยขอหยิบมาพูดถึงหน่อย

โดยเรื่องราวนี้มาจากผลการศึกษาที่จัดทำโดยบริษัท Greenly และเผยแพร่บทความนี้ผ่านทาง GamesIndustry.biz เปิดเผยว่า เกมแบบแผ่นสร้างผลกระทบต่อโลก มากกว่าเกมดิจิทัลถึง 100 เท่า สาเหตุมาจากกระบวนการผลิตวัสดุและการขนส่งเกมไปทั่วโลก จากการศึกษาประเมินว่า การผลิตแผ่นดิสก์หนึ่งล้านแผ่น ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มหาศาลถึง 312 ตัน เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิตเกมดิจิทัลหนึ่งล้านเกม สร้างมลพิษเพียง 3 ตันด้วยซ้ำ ดังนั้นรายงานจึงสรุปว่า เกมแบบแผ่นเป็นอันตรายต่อโลกมากกว่าเกมดิจิทัลถึง 100 เท่าเลยทีเดียว

แต่ถ้าคุณอาจคิดว่าการเล่นเกมดิจิทัลไม่ก่อให้เกิดมลพิษใด ๆ เลย ก็คงต้องบอกว่าไม่เช่นกัน เพราะปริมาณการปล่อยมลพิษ 3 ตันต่อการดาวน์โหลดเกมหนึ่งล้านครั้งนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากพลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้ขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลที่คุณใช้ดาวน์โหลดเกม นี่ยังไม่รวมถึงพลังงานเพิ่มเติมที่คุณจะต้องใช้ที่บ้านเมื่อดาวน์โหลดเกมอีก (เครื่องเกมหรือ PC ที่กินไฟ) แต่อย่างไรก็ตามจากตัวเลขที่แสดงให้เห็น ผลกระทบของเกมดิจิทัลต่อสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่ใกล้เคียงกับผลกระทบของเกมแบบแผ่นที่มีต่อโลกเลย รายงานยังระบุด้วยว่า หากซื้อเกมดิจิทัลก็จะไม่เกิดปัญหาการฝังกลบขยะที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่แผ่นดิสก์และกล่องพลาสติกหลายล้านชิ้นที่ขายไป จะถูกนำไปฝังกลบในหลุมฝังกลบตลอดหลายปีที่ผ่านมา (นี่ยังไม่นับแผ่นเกมเถื่อนบน PC และคอนโซลยุคเก่าที่ผลิตออกมาเยอะมาก ๆ)

หรือถ้าให้สรุปแบบง่าย ๆ การซื้อเกมแบบดิจิตรอนมันก็ทำลายสภาพแวดล้อม แต่มันก็อยู่ในระดับที่เราใช้พลังงานจากเครื่องไฟฟ้า และทางค่ายเกมที่ให้บริการโหลดเกม ก็จะต้องใช้กำลังไฟเลี้ยงเซิร์ฟเวอร์หลัก ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับที่เราใช้มือถือโหลดเกมดูหนัง เพราะทางต้นทางก็ต้องใช้กำลังไฟเลี้ยงเซิร์ฟเวอร์หลักเหมือนกัน ต่างกับตัวแผ่นเกมที่นอกจากการสร้างขยะพลาสติก จากแผ่นกับกล่องเกมที่เราเข้าใจแล้ว มันยังรวมถึงการขนส่งทางรถเรือเครื่องบินรถไฟที่เอาแผ่นเกมไปขายทั่วโลก ยกตัวอย่างเกมผลิตเป็นแผ่นที่จีน 1 ล้านแผ่น พอเสร็จก็ต้องบินไปส่งที่ค่ายเกมในอเมริกา จากนั้นก็กระจายสินค้า (แผ่นเกม 1 ล้านแผ่น) ไปทั่วโลกผ่านการขนส่ง และคิดให้ลึกไปอีกเกม 1 ล้านแผ่นกระจายไปตามร้านเกม คิดเล่น ๆ 1 ร้านมีเกมนี้อยู่ 10 แผ่น คิดดูว่าเกม 1 ล้านแผ่นต้องกระจายไปกี่ร้านค้า นี่ยังไม่นับคนที่เดินทางไปซื้อแผ่นเกมนั้น ที่ต้องนั่งรถนั่งเรือนั่งรถไฟไปซื้อ ซึ่งในงานวิจับนับสิ่งเหล่านี้ไปด้วย

เอาจริง ๆ มันก็ไม่ใช่การออกมาบอกว่าห้ามซื้อแบบแผ่น หรือบางคนบอกว่าไม่ซื้อแผ่นมานานแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าการซื้อเกมแบบแผ่นก็มีข้อดีต่างกับซื้อแบบดิจิตรอน ในแง่ของการเก็บรักษาและเอามาเล่น ที่ถ้าเถียงกันว่าแบบไหนดีกว่ากันคงเถียงกันไม่จบ แค่รู้ว่ามันมีงานวิจัยแบบนี้ด้วยก็พอ และถ้ารักโลกอย่างช่วยโลกก็ซื้อแบบดิจิตรอน ซึ่งมองในแง่ดีการที่เกมดิจิตรอนขายได้เยอะกว่าแบบแผ่น มันก็คือเรื่องดีที่อย่างน้อย ๆ เราก็เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโลกทางอ้อมนั่นคือสิ่งที่งานวิจัยต้องการสื่อ