
ใกล้วางจำหน่ายไปทุกทีแล้วกับเกม ภารกิจมังกรภาคตำนานผู้กล้าแห่งสายเลือดโรโตะ ที่เป็นการนำเกม Dragon Quest ภาค 1 กับภาค 2 มาทำใหม่ในรูปแบบ HD-2D Remake ในชื่อ Dragon Quest 1 & 2 HD-2D Remake ซึ่งสำหรับคนยุคใหม่ที่เพิ่วติดตามซีรีส์นี้อาจจะดีใจ ที่ได้เห็นเกมเก่าในกราฟิกแบบใหม่นี้ออกมา แต่สำหรับแฟนรุ่นเก่าเก๋าที่เล่นเกมซีรีส์นี้มาตั้งแต่สมัยเครื่อง Famicom คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Remake อีกแล้วหรอ ครั้งที่เท่าไหร่แล้วเนี้ย !! เมื่อไหร่จะไปภาคใหม่ แต่ถึงจะบ่นแต่คนที่บ่นก็ยังซื้อ และในภาคล่าสุดทางทีมพัฒนาน่าจะรู้ว่าถ้า Remake แล้วเอาของเดิมมาทั้งหมดคงถูกด่าแน่ ๆ เลยออกมาบอกว่าในเกมภาคนี้จะมีการเพิ่มฉากเนื้อเรื่องที่เชื่อมกับ Dragon Quest 3 HD-2D Remake ที่ออกมาแล้วด้วย รวมถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามามากมายเรามาดูกันว่ามีอะไรที่เพิ่มเติมบ้างมาดูกัน
โดยเรื่องราวนี้มาจากทาง X ในชื่อบัญชี DRAGON QUEST (มีเครื่องหมายสีฟ้าที่ชื่อ) ออกมาบอกแฟน ๆ ว่า "จะมีการเพิ่มฉากต่าง ๆ มากมายที่เชื่อมโยงกับไตรภาค Erdrick! เพื่อช่วยโลกที่ปกคลุมไปด้วยความมืดมิด คุณจะต้องขอความช่วยเหลือจาก Rubiss ซึ่งปรากฏตัวใน DragonQuest III ด้วย" จากข้อมูลที่เราไปหามาใน DragonQuest l จะมีการเพิ่มคาถาต่าง ๆ เข้ามาอย่าง กิร่า (Sizz) ซึ่งเป็นท่าไฟเผาพลานศัตรูเป็นกลุ่ม และ ไรดีน (Zap) คาถาสายฟ้าประจำตัวผู้กล้าเท่านั้นที่มี ซึ่งเวทมนต์ทั้ง 2 ท่านี้ก็มีถึง 3 ระดับ กับอีกหนึ่งท่าที่ถูกเพิ่มมาใน DragonQuest l นั่นคือท่า Dragon Slash ท่าที่เอาไว้ปราบมังกรโดยเฉพาะ แถมยังมีเนื้อเรื่องที่เชื่อมกับภาค 3 ทั้งทางตรงทางอ้อมที่เกมต้นฉบับไม่มีอีกด้วย
ขณะที่ DragonQuest 2 ที่เป็นเรื่องราวต่อจากภาค 1 หลายร้อยปีก็ได้มีส่วนต่าง ๆ เพิ่มมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่อย่าง Princess of Cannock ที่เธอจะมีความสามารถในการโจมตีที่รวดเร็ว และถนัดเวทมนตร์ เฮียโด้ (Crack) เวทมนตร์น้ำแข็งที่โดนศัตรูตัวเดียว แต่ในขั้นที่ 2 กับ 3 จะโดนเป็นกลุ่มกับโดนทุกตัวในฉาก กับเวทมนตร์ เมร่า (Frizz) ที่เป็นลูกไฟพุ่งใส่ศัตรูตัวเดียว ขณะที่ Prince of Midenhall ที่ในฉบับเก่าจะไม่มีท่าพิเศษอะไร (กดฟันอย่างเดียว) ในภาคนี้จะมีท่า Knuckle Sandwich และ Hatchet Man เพิ่มเข้ามา และยังสามารถเรียนรู้ท่า Forbearance เพื่อปกป้องพันธมิตรได้อีกด้วย

ส่วนของ Prince of Cannock ที่เป็นตัวละครกลาง ๆ ที่สมดุลทั้งทักษะดาบและเวทมนตร์ เขาไม่เพียงแต่โจมตีเท่านั้น แต่ยังเวทรักษาและสนับสนุนพันธมิตรได้อีกด้วย และมีการท่าโจมตีสุดแรงอย่าง กิกาสแลช ที่กวาดล้างศัตรูทั้งหมดด้วยดาบสายฟ้านั้นทรงพลังได้อีก ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยตัวแบกประจำทีมอย่าง Princess of Moonbrooke ที่เธอเชี่ยวชาญเวทมนตร์โจมตีอันทรงพลัง นอกจากนี้เธอยังสามารถสนับสนุนพันธมิตรด้วยเวทมนตร์สนับสนุนและเวทมนตร์รักษาอย่าง ไบคิลโต้ (Oomph) ที่เพิ่มพลังโจมตีให้เพื่อน และ ฟุบาฮา (Insulatle) เพิ่มพลังป้องกันให้เพื่อน แต่แลกมากับการเสียเทิร์นในการโจมตี กับท่าเก่า ๆ ที่สมเป็นตัวแบกอย่างแท้จริง

เรียกว่าเพิ่มมาเยอะกว่าสมัย Dragon Quest 3 HD-2D Remake เสียอีก ซึ่งหลายคนที่ซื้อภาคนั้นไปแล้วก็ไม่ควรพลาดใน Dragon Quest 1 & 2 HD-2D Remake นี้ต่อ และรอเล่น Dragon Quest 7 Remake ต่อในปีหน้า (งานนี้บอกเลยว่ายาว ๆ) ส่วนตัวเกม Dragon Quest 1 & 2 HD-2D Remake จะวางจำหน่าย 30 ตุลาคมนี้ทั้งบน PlayStation 5, Nintendo Switch, Xbox Series X|S และ PC ใครมีเครื่องไหนก็ไปจัดกันได้ และถ้ามีความคืบหน้าเราจะเอามารายงานให้ทราบอีกครั้ง