
เมื่อพูดถึงเกมดีที่ไร้ซึ่งภาคต่อและหลายคนอยากให้มีแต่ไม่เคยเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นก็น่าจะมีเกมคนเหลี่ยมสังคมหล่อหลอมอย่าง Bully ติดอันดับด้วยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะชื่อชั้นอย่าง Rockstar ที่ขึ้นชื่อว่างานดีรายละเอียดเยอะ และทำเกมออกมาก็เป็นของดีมีคุณภาพทั้งสิ้น บวกกับเทคโนโลยีสมัยนี้ที่สามารถสร้างกราฟิกและหลายสิ่งที่สมจริงออกมาได้สมจริง เกม Bully ที่เป็นเกม GTA เวอร์ชันที่ไม่ค่อยมีความรุนแรงจึงเหมาะสมกับเวลาที่ควรเอามาทำภาค 2 ได้แล้ว เพราะเกมภาคแรกนั้นทั้งระบบการเล่นเนื้อเรื่องไปจนถึงตัวละครจัดว่ายอดเยี่ยมจนสามารถเอามาสร้างภาค 2 ต่อได้สบาย จนล่าสุดทีมงาน Rockstar ก็ได้ออกมาบอกว่าทำไมทีมงานถึงไม่ยอมเข็นภาค 2 ออกมาเสียทีเรามาดูเหตุผลกัน
โดยเรื่องราวนี้มาจาก แดน เฮาเซอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Rockstar ได้ให้สัมภาษณ์กับ IGN ในงาน Los Angeles Comic Con 2025 ว่าโปรเจกต์ที่ผ่านมาของเขากับ Rockstar Games มันมีหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าอาจจะมีภาคต่อของ Bully 2 (สัญลักษณ์การพูดถึงบอกใบ้ที่แฟน ๆ มโนกันไปเอง) แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นจริง เมื่อถูกถามว่าทำไม Bully 2 ถึงไม่เกิดขึ้น เฮาเซอร์ตอบว่า "ในเวลานั้น Rockstar ไม่มีเวลาหรือทรัพยากรเพียงพอที่จะรับโปรเจกต์ใหญ่ ๆ อีก ทางสตูดิโอจึงหันไปทุ่มเทให้กับเกมอย่าง LA Noir, Red Dead Redemption, Max Payne 3 และ Grand Theft Auto 5 แทน หลังจากโปรเจกต์เหล่านั้นแล้ว Rockstar ต้องการให้ความสำคัญกับการพัฒนาโปรเจกต์ใหญ่ ๆ ทีละโปรเจกต์ (GTA 6) ทำให้ความเป็นไปได้ในการพัฒนาภาคต่อสำหรับหลาย IP พร้อมกันนั้นเป็นไปได้ยาก" เฮาเซอร์จึงมองว่าการที่ Bully 2 หายไป นั้นเป็นเพราะปัญหาแบนด์วิดท์ ที่มาจากการขาดทีมพัฒนาที่จะแบ่งออกมาสร้างเกมเหล่านี้ นั่นจึงเป็นเหตผลที่ทำให้ไม่มี Bully 2 ออกมาเสียที
สำหรับคนที่ไม่รู้จักเกม Bully คือเกมที่มีระบบการเล่นคล้าย ๆ GTA (Grand Theft Auto) ที่ลดความรุนแรงลงไป ไม่มีการตายหรือทำร้ายใคร (แบบรุนแรง) รวมถึงการใช้อาวุธปืนในเกม เพราะเรื่องราวทั้งหมดใน Bully จะเกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนผ่านเด็กชายที่เป็นคนดีนามว่า จิมมี่ แต่ด้วยหน้าตาและท่าทางที่ยียวนเลยทำให้พี่แกถูกหาเรื่อง และถูกสังคมชี้หน้าว่าเป็นเด็กเลว ซึ่งตัวของจิมมี่เรานั้นก็ทำไปเพื่อปกป้องตัวเอง แต่สุดท้ายเขาก็ถูกมองว่าเป็นคนผิด (ขนาดแม่ยังมองว่าลูกชายตัวเองไม่ดี) จนถูกย้ายโรงเรียนมาเรื่อย ๆ จนมาถึงที่โรงเรียนประจำชื่อดังอย่าง Bullworth Academy ซึ่งเมื่อมาถึงจิมมี่ก็เจอคนมายุ่งมาหาเรื่องเหมือนเดิม แต่คราวนี้จิมมี่บอกตัวเองว่า เขาจะทำในสิ่งที่ถูกเพื่อไม่ให้สัมคมคราหน้าเขาอีก นั่นคือเรื่องราวคร่าว ๆ ของเกมนี้

ในส่วนของระบบการเล่นเราจะมีอิสระในรั้วโรงเรียน ที่สามารถรับภารกิจต่าง ๆ จากเพื่อนทั้งการช่วยเหลือผู้คนแกล้งครู และเข้าเรียนในวิชาต่าง ๆ ตามที่เกมกำหนด ซึ่งการเข้าเรียนในแต่ละครั้งเราก็จะได้ค่าพลังที่สูงขึ้นในการทำภารกิจ แต่สิ่งที่เป็นจุดขายจริง ๆ ของเกมนี้คือเนื้อเรื่อง ที่มีทั้งเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด การหักมุมของเนื้อหา ตัวละครมีมิติน่าสนใจ ไปจนถึงเรื่องราวหลักที่เป็นการพิสูจน์ตัวเองของจิมมี่ที่ต้องการบอกว่า คนหน้าตาดูไม่ดีอย่างเขาก็เป็นคนดีได้ ส่วนคนหน้าตาดีท่าทางดีก็เป็นคนเลวได้ บอกเลยว่าเนื้อเรื่องดีกว่า GTA บางภาคเสียอีก และด้วยความที่เกมไม่มีความรุนแรง แต่ก็ยังระบบต่อสู้ใส่มาซึ่งมันก็ทำให้เกมสนุกน่าสนใจ จนหลายคนยกให้เป็นเกมที่ชื่นชอบอีกเกมเลยทีเดียว แต่ด้วยความซ้ำซ้อนกับเกม GTA และเนื้อหาที่ไม่สดใหม่แบบในอดีตทาง Rockstar Games จึงไม่คิดจะทำภาคต่อออกมา

ใครที่สนใจอยากเล่นเกม Bully ก็ไปหามาเล่นกันได้บน Steam ราคา 300 กว่าบาทเท่านั้น ลองไปหามาเล่นดูแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมหลายคนจึงอยากให้มีเกม Bully 2 ออกมาเสียที ซึ่งแฟน ๆ ก็หวังว่าในอนาคตทาง Rockstar Games น่าจะมีเวลาว่างมาทำให้แฟน ๆ ดีใจเสียที (คงต้องรอ GTA 6 เสร็จสมบูรณ์นั่นละ) ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับเกมนี้ เราจะเอามารายงานให้ทราบอีกครั้ง ติดตามเอาไว้ได้เลย