
หลังจากที่รอคอยให้หลายคนค้างคามานานกับตอนจบของ Alice in Borderland หรือ อลิซในแดนมรณะ ซีซัน 2 ที่ตอนจบจะจะมีการบอกใบ้ว่าไพ่ในสำรับที่เราเห็นนั้นยังเหลือไพ่ 2 ใบสุดท้ายนั่นคือ Joker ที่เหมือนจะบอกใบ้กลาย ๆ ว่าเกมมรณะยังไม่จบจะมีต่อในอนาคต ซึ่งแฟน ๆ ต่างก็รอคอยว่าเมื่อไหร่จะมา จนล่าสุดทาง Netflix ก็จัดการฉาย Alice in Borderland ซีซัน 3 ออกมาแบบทีเดียว 6 ตอนรวด และนี่จะเป็นตอนจบที่ไขปริศนาหลาย ๆ อย่างที่ค้างคาในซีซันที่แล้วจนครบแบบไม่มีอะไรติดค้าง ตัวเรื่องราวของ Alice in Borderland ซีซัน 3 จะสนุกสมการรอคอยไหม จะดราม่าตัวละครมีปมขนาดไหน และ Joker คืออะไรตัวซีรีส์จะคุ้มค่าเวลาไปนั่งดูไหมมาดูรีวิวไปพร้อม ๆ กันเลย
ขอเริ่มจากเนื้อเรื่องก่อน ถ้าใครจำได้ในช่วงท้ายของซีซัน 2 ทุกคนที่กลับมาจากเกมมรณะ ล้วนแล้วแต่จำสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนั้นไม่ได้ แม้แต่ อาริสุ กับ อุซางิ ก็เช่นกัน ทุกคนใช้ชีวิตกันตามปกติเหมือนได้โอกาสที่สองในการมีชีวิตไปต่อ ขณะที่ทุกคนกำลังก้าวไปข้างหน้า แต่อุซางิยังคงคิดถึงและมีปมเรื่องการเสียชีวิตของพ่อเธออยู่ จนวันหนึ่งก็มีชายนั่งรถเข็นมาชี้ทางเธอให้สามารถแก้ปมในใจเรื่องพ่อได้ เธอเลยกลับไปยังโลกแห่งความตายอีกครั้ง ขณะที่อริสุที่แต่งงานกับอุซางิที่รู้ว่าภรรยาตัวเองไปโลกหลังความตาย อริสุที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ไม่มีทางเลือกจึงตามไปที่โลกนั้น จนความจำทุกอย่างกลับมา โดยทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นคือฝีมือของ Joker ที่มีเป้าหมายบางอย่าง อริสุจะได้เจอกับอุซางิไหมเรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปดูทาง Netflix ได้เลย

เรื่องราวในตอนแรกเราจะได้เห็นชีวิตอันสดใสของอาริสุกับอุซางิ ที่มีชีวิตมีครอบครัวที่ดีการงานดี ขณะที่ตัวละครใหม่อย่าง ริวจิ ชายนั่งรถเข็นที่พยายามทำงานวิจัยเกี่ยวกับโลกหลังความตาย เขาพยายามสอบถามเรื่องรางของเหล่าผู้รอดชีวิตอุกกาบาตตกในชิบุย่า ซึ่งทุกคนมีจุดร่วมเดียวกันคือเห็นพลุและเหมือนหลุดไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ทุกคนก็จำไม่ได้ว่ามันคืออะไร นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่นำพาอาริสุกับอุซางิให้กลับมาในเกม โดยในซีซันที่ 3 นี้จะมีการเฉลยปมหลาย ๆ อย่างที่หลายคนสงสัยในซัซันที่ 1 กับ 2 ว่าคืออะไร เพื่อมาคลายปมทั้งหมดในตอนนี้ ยกตัวอย่างในซีซันที่ 1 ตอนที่ 1 ช่วงที่อริสุกับเพื่อน ๆ เจอชายพนักงานบริษัทที่เนื้อตัวมอมแมม ตะโกนบอกพวกอาริสุว่าจะไม่เล่นเกมบ้านี่แล้วเล่นไปก็ไม่จบ ตอนนั้นหลายคนคงสงสัยว่าทำไมลุงแกดูเหมือนคนเล่นเกมมานาน ขณะที่ทุกคนเพิ่งจะเข้ามาในโลกนี้ไม่นาน อันนี้ก็จะมีคำตอบว่ามันคืออะไร

ในส่วนของเกมในภาคนี้จะมีความแตกต่างจากเกมใน 2 ภาคก่อนหน้านี้ ที่ตัวเกมจะไม่เน้นความโหดโรคจิตหรือดูยากจนบังคับให้คนต้องตายแบบไม่มีทางเลือก (มันก็มีแต่มีเกมเดียว) แต่เกมจะเน้นไปที่การร่วมมือถ้าคิดวิเคราะห์แยกแยะดี ๆ ก็สามารถผ่านเกมได้และรอดทุกคนแบบชิว ๆ ซึ่งส่วนมากเกมที่อาริสุเจอจะไปทางนี้หมด ขณะที่เกมของอุซางิจะไปทางใช้ความสามารถเฉพาะตัว เหมือนผู้สร้างเกมจงใจเลือกให้ทั้ง 2 คนเจอเกมที่ต่างกัน ฝั่งอาริสุใช้สมองฝั่งอุซางิใช้กำลัง โดยเรื่องราวส่วนมากจะไปทางอาริสุผ่านเกมที่เล่นกับจิตใจคนที่ดูไม่ยากเมื่อเทียบกับเกมในซีซันก่อน ซึ่งด้วยความใจดีของผู้สร้างเกมถ้าเล่นจริง ๆ และจับจุดเกมได้ก็สามารถผ่านได้ง่าย ๆ (ถ้าเชื่อาริสุ) แต่คนพวกนี้ไม่เชื่อไม่ฟังสุดท้ายก็ตุยกันเอง โดยเฉพาะเกมซอมบี้ที่จัดเป็นเกมที่สนุกที่สุดในซีซันที่ 3 นี้แล้ว

ในส่วนของเกมท้าย ๆ แทนที่ตัวเรื่องจะพีคแบบใน 2 ซีซันก่อนหน้านี้ ที่ตัวเอกต้องเจอเกมที่เล่นกับจิตใจหลอกคนดูไปมาว่ามันคืออะไร แต่ในซีซันที่ 3 เกมสุดท้ายมันมีแต่ดราม่าเย้นเย้อไร้สาระแบบทำเกมมาตั้งเยอะสุดท้ายมาแพ้เสียงในหัวกันเนี้ยนะ ซึ่งถ้าให้สปอยล์นิด ๆ ก็คงจะเป็นการเลือกประตูต่าง ๆ ผ่านการทอยเต๋า ที่กำแพงรอบ ๆ จะฉายภาพอนาคตความเป็นไปได้ของทุกคนว่าประตูนี้จะมีแต่เรื่องดี ๆ ประตูนี้จะมีแต่เรื่องแย่ ๆ ซึ่งซีรีส์ต้องการบอกว่า คนเราต่างก็อยากผ่านประตูที่มีแต่ชีวิตดี ๆ ทั้งนั้น แต่มันก็เป็นแค่ภาพอนาคตที่ฉายบนทีวีปะ ถ้าคิดตามดี ๆ อนาคตเราเราเป็นคนกำหนด ทำไมต้องให้ภาพอนาคตที่ฉายเรื่องดีกับเรื่องแย่มากำหนดชีวิตด้วย เพราะอย่าลืมว่าทุกคนกว่าจะมาถึงเกมนี้ได้ผ่านความตายเสียเพื่อนไปเยอะขนาดไหน แค่ภาพอนาคตหลอก ๆ ฉายบนกำแพงไม่น่าทำให้คนจิตใจหวั่นไหวได้ (แต่ในซีรีส์ทำได้) ซึ่งมันดูอ่อนไม่ดึงดูดคนดูให้คล้อยตามเลย นี่ยังไม่นับคนที่ถูกลงโทษให้เจออนาคตแย่ ๆ ผ่านวิดีโอบนผนังกับเสียงดัง ๆ แบบเอ็งเจ็บปวดกับวิดีโอพวกนี้จริงดิ ถ้าหนวกหูอันนี้ไม่เถียง เมื่อเทียบกับเกมในซีซั่นก่อนแล้วบอกเลยว่าห่างชั้นกันสุด ๆ

ต่อมาคือตัวละครที่ต้องขอชมว่าตัวละครในซีซันนี้ก็ยังดีงามเหมือนซีซันที่ผ่านมา ตัวอาริสุก็ยังเทพเหมือนเดิม ซึ่งเกมในซีซันนี้ไม่อยากเลยและดูจะใจดีกับคนเล่นด้วยซ้ำ แต่ตัวละครทำตัวงี่เง่าเองจนบางคนเราถึงกับบอกว่า เออตุยไปก็ดีแล้ว ขณะที่บางตัวละครที่ไม่น่าตุยก็ตุย แบบบทปูมาดีตัวละครดูเจ๋งแต่มาตุยเฉย ขณะที่บางตัวไม่น่ารอดกลับรอดเฉย และที่ต้องขอบ่นที่สุดคือตัวร้าย ซึ่งถ้าใครดูตัวอย่างมาคงจะรู้ว่าคนที่เป็น Joker ในเกมนี้คือคนที่ขออยู่ในโลกนี้ต่อ และเป็นคนคิดเกมเหล่านี้ขึ้นมา แต่เป้าหมายจริง ๆ ของพี่แกมีแค่เนี้ย แบบลงทุนเล่นใหญ่เพื่อทำแค่เนี้ย ขณะที่ตัวละครริวจิถ้าคุณอ่านการ์ตูนหรือดูซีรีส์มาเยอะ คุณจะรู้ทันทีว่าริวจิเป็นตัวร้ายแบบนั้นแหละ แบบนั้นเลยตามสูตรเป๊ะ ๆ ที่ถ้าเดาดูเหมือนคนทำซีรีส์คงไม่ได้คิดถึงซีซัน 3 แค่กะจบแบบปลายเปิดทั่วไป แต่กระแสมันดีเลยต้องแถไปต่อแบบเดียวกับ Squid Game ที่จริง ๆ มันจบไปแล้ว แต่ต้องมาแถไปต่อมันเลยดูขาด ๆ เกิน ๆ อย่างที่เห็น

ถ้าให้สรุป Alice in Borderland ซีซัน 3 ถ้าคุณชื่นชอบ 2 ซีซันก่อนหน้านี้ก็ควรไปต่อ แต่ต้องทำใจว่ามันอาจจะไม่สนุกอย่างที่หวังมาก เนื้อเรื่องเน้นดราม่ามากไปจนเกินพอดี และเย้นเย้อจนกดข้ามไปหลายวิได้เลย โดยเฉพาะตอนประตูอนาคตดูไปเฮ้อไป และหลายฉากก็แอบชัดใจอย่างการมาโลกนี้ของอุซางิ ที่เกี่ยวกับปมในใจเกี่ยวกับพ่อของตน พอมาโลกนี้และได้เจออาริสุความทรงจำในตอนเล่นเกมกลับมา จู่ ๆ นางก็ลืมพ่อเฉย แล้วคุณพรี่จะมาโลกนี้หาพ่อหรอ ซึ่งดูจากเนื้อเรื่องก็ไม่ได้บอกมาแบบนั้นแล้วพรี่จะมาเพื่อ ส่วนริวจิเอ็งมาเพื่อแค่นี้เนี้ยนะเอาจริงดิ แบบดูไปเห้อไป จะดีหน่อยก็ช่วงตอนใกล้จบกับการจบแบบทิ้งท้ายแบบเดียวกับ Squid Game ที่พอเถอะไม่ต้องไปต่อแล้ว

ในส่วนของข้อดีแบบที่ต้องชมคือ หมออัน น่ารักไม่เปลี่ยน ช่วงก่อนท้ายจบได้ดีจนแอบอมยิ้มเล็กน้อยเลย ช่วงเกมซอมบี้ดูสนุกลุ้นมาก ตัวละครมีมิติน่าสนใจ เสียงพากย์ไทยดีงามสมมาตรฐานและใช้นักพากย์ชุดเดิมกับชุดใหม่มาให้เสียงที่คงมาตรฐานดีงาม 10 เต็ม 10 เหมือนเดิม ซึ่งถ้าจะให้คะแนน Alice in Borderland ซีซัน 1 ขอให้ 7.5 ซีซัน 2 ขอให้ 8.2 ส่วนซีซัน 3 ขอให้ 5.5 เต็ม 10 ดีตรงเรื่องอธิบายในสิ่งที่สงสัยในหลาย ๆ ส่วนแต่เกมไม่ลุ้นไม่ท้าทายเมื่อเทียบกับภาคก่อน ๆ ตัวร้ายดูงี่เง่า แต่หมออันน่ารักอันนี้คือ 5 คะแนนที่ให้ ใครสนใจไปดูได้ทาง Netflix ได้เลย ช่วยกันสนับสนุนช่องทางลิขสิทธิ์เราจะได้มีซีรีส์พากย์ไทยดูเยอะ ๆ แล้วเจอกันใหม่ในซีซันที่ 4 นะ Alice