
เดินทางมาถึงตอนที่ 22 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ Kaiju No. 8 กับเรื่องราวของเหล่ามนุษย์ที่ต่อกรกับเหล่าไคจูสัตว์ประหลาดปริศนาที่มาบุกโลก โดยสิ่งที่เรารู้มาจากตอนที่แล้วคือ ไคจูนั้นบุกโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว จนถึงปัจจุบันมนุษย์ก็ยังคงเจอการบุกของเหล่าสัตว์ประหลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ในตอนนี้เหล่ามนุษย์ต้องเจอศึกใหญ่ เพราะไคจู หมายเลข 9 ที่ปรากฏตัวออกมานั้นมันต่างกับไคจูทั่วไป ตรงที่มันมีสมองความคิดสติปัญาและรู้จักวิวัฒนาการตัวเอง แถมยังสามารถสร้างไคจูเก่ง ๆ ที่เลียนแบบไคจูระดับสูงที่เป็นต้นแบบออกมาได้ ขณะที่ฝั่งมนุษย์ก็พยายามพัฒนาตัวเองเพื่อเอาชนะเหล่าไคจู โดยการเอาเหล่าไคจูมาสร้างเป็นอาวุธไปต่อกร และในคราวนี้ก็ถึงเวลาที่เหล่าไคจูพร้อมใจกันมาบุกโลกพร้อม ๆ กันแล้ว เรามาดูกันว่า Kaiju No. 8 ตอนที่ 22 จะมีเนื้อหาอะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูกัน

เปิดเรื่องมาก็เป็นเรื่องราวของลุง คาฟก้า ที่บอกตามตรงว่าพี่แกง้องแง๊งมาก ๆ ด้วยความที่พี่แกเป็นพวกชอบคิดถึงแต่ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าตัวเอง เลยกลายเป็นพวกบ้าที่พุ่งเข้าไปโดยไม่คิด หรือทำไปก่อนเพื่อช่วยคนที่เหลือช่างมัน พอเสร็จค่อยมาคิดทีหลังว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา และด้วยความที่พี่แกเป็นพวกชอบคิดเองเออเอง เลยทำให้คิดไปว่าทุกคนต้องเกลียดที่แกเป็นไคจูแน่ ๆ ซึ่งเราก็รู้ว่ามันไม่ใช่ และถ้าถามว่าจะมีฉากพวกนี้ไปเพื่อออะไร การใส่ฉากนี้ของคนเขียนอนิเมะ เพื่อเป็นการปลอบใจตัวละครให้เขามีกำลังใจในการเติบโต เพราะอย่าลืมว่าการแปลงร่างของคาฟก้าต้องมีพลังใจ และความเสี่ยงที่จะกลายเป็นไคจูทุกครั้งที่แปลงร่าง การเพิ่มพลังใจในการอยากปกป้องเสี่ยงชีวิตจึงสำคัญ ฉากโทรศัพท์กับข้อความจึงต้องมีนั่นเอง

ต่อมาคือเรื่องราวภายในจิตใจของไคจูหมายเลข 9 ที่มีจิตของผู้บัญชาการ ชิโนมิยะ อิซาโอะ ที่บอกเราตั้งแต่ตอนนี้เลยว่า ตัวของเขาจะไม่สามารถช่วยเหลือหรือต่อกรกับตัวไคจูหมายเลข 9 ได้ นั่นหมายถึงตอนสู้กัน จะไม่มีฉากที่ผู้บัญชาการควบคุมจิตแย่งร่างหมายเลข 9 คืนมาอย่างแน่นอน และการมีฉากของผู้บัญชาการ ก็เพื่อบอกว่าคนดูว่าตอนนี้หมายเลข 9 พร้อมแล้ว และเตรียมตัวส่งไคจูมาบุกญี่ปุ่น แถมพวกที่ส่งมานี้ก็มีสติปัญญาไม่บุกมั่ว ๆ และมีพละกำลังความเก่งที่มากกว่าไคจูทั่วไป ที่เหมือนเป็นการบอกคนดูว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ขณะเดียวกันฝั่งมนุษย์ก็ไม่ยอมอยู่เฉย ทางนั้นก็เริ่มฝึกและค้นหาคนที่เขากับชุดของไคจูหมายเลขต่าง ๆ ให้เตรียมพร้อมในศึกใหญ่ ซึ่ง คิโครุ ก็ได้ชุดของแม่เธอที่เป็นชุดหมายเลข 4 อย่างที่หลายคนคิดเอาไว้ ขณะที่ลุงคาฟก้าเราก็กำลังฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเอง เพราะเขาจะหวังพึ่งแต่ร่างไคจูอย่างเดียวไม่ได้ ในทางกลับกันถ้าร่างมนุษย์แข็งแกร่ง เขาก็สามารถเอาความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาใช้กับร่างไคจูได้ เราคงต้องมารอดูว่าฝั่งมนุษย์ที่ต่อสู้กับไคจูจะเป็นอย่างไร

อีกส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือการได้พูดคุยกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ ของลุงคาฟก้ากับ อาชิโระ มินะ ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของลุงคาฟก้า ที่เราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่ลุงแกมาเป็นหน่วยปราบไคจู เพราะไปสัญญากันในสมัยเด็กว่าจะสู้เคียงข้างกัน และด้วยความที่เธอยศสูงมาก ๆ การทำตัวสนิทสนมกับเพื่อนสมัยเด็กมันดูไม่ควร เจ๊แกเลยดูเก็ก ๆ ทั้งที่แกก็แอบดีใจและแอบผิดหวังที่เห็นลุงแกมาถึงที่นี่ ซึ่งถ้าใครจำได้เจ๊แกแอบดีใจที่ลุงแกสอบไม่ผ่านเพราะไม่อยากให้ลุงแกมาตุย แต่พอรู้ว่าแกคือไคจูหมายเลข 8 ที่เป็นกำลังหลักในการต่อสู้ เจ๊แกเลยเปลี่ยนความคิด และมั่นใจในตัวคาฟก้าว่าจะไม่หันหน้ามาสู้กับมนุษย์ในฐานะไคจูแน่นอน และอยากให้ลุงแกสู้ต่อไป ฉากการคุยกันนี่ก็เหมือนเป็นการเพิ่มพลังใจให้ลุงคาฟก้า ก่อนศึกใหญ่ที่กำลังจะมาในตอนต่อไป

ถ้ามองกันตามการคิดการแต่งเรื่อง การใส่เนื้อหาในช่วง 2 ตอนนี้ ก็เพื่อให้เวลาเหล่ามนุษย์ได้เติบโตทั้งทางร่างกายและจิตใจ ประหนึ่งให้เวลา โกคู ไปฝึกในห้องกาลเวลา ก่อนจะเปิดศึกใหญ่ที่จะเป็นการกระจายบทในตัวละครต่าง ๆ ได้เฉิดฉาย ที่เรียกว่าอีเว้นท์ใหญ่ประจำเรื่อง ซึ่งบอกเลยว่าสนุกน่าสนใจและน่าติดตามแน่นอนรอดูได้เลย ส่วนใครที่สนใจอยากดู Kaiju No. 8 ก็ไปดูได้ทาง Netflix ได้เลยแต่จะมีแค่ซับไทยเท่านั้น ส่วนมังงะก็มีทาง MANGA Plus ให้อ่านแบบฟรี ๆ ช่วยกันสนับสนุนช่องทางลิขสิทธิ์กันมาก ๆ เราจะได้มีมังงะอนิเมะดี ๆ ให้อ่านเรื่อย ๆ และพบกันใหม่อาทิตย์หน้า