จากนิยาย "มุมมองนักอ่านพระเจ้า" และมังฮวา webtoon ชื่อดัง "อ่านชะตาวันสิ้นโลก" (Omniscient Reader) สู่ภาพยนตร์จอยักษ์ฉบับคนแสดงในชื่อเดียวกัน 'อ่านชะตาวันสิ้นโลก' "Omniscient Reader: The Prophecy" หนังแอคชัน แฟนตาซี จะเป็นอย่างไรหากนิยายวันสิ้นโลกที่เราอ่านดันเกิดขึ้นจริง!?

'อ่านชะตาวันสิ้นโลก' "Omniscient Reader: The Prophecy" ดัดแปลงจากมังฮวาชื่อดัง webtoon ในชื่อเดียวกัน ส่วนในเวอร์ชันนิยายจะใช้ชื่อว่า "มุมมองนักอ่านพระเจ้า" เรื่องราวของหนุ่มมนุษย์เงินเดือน "คิม ดกจา" ที่ตามอ่านนิยายเรื่องโปรด 'สามวิธีเอาตัวรอดจากหายนะโลก' มาตั้งแต่มัธยมจนเหลือเพียงเขาเป็นผู้อ่านคนเดียว หลังจากที่ผู้เขียนได้โพสต์ตอนจบของนิยาย ดกจาก็ได้รับอีเมลที่แนบเนื้อเรื่องต้นฉบับนิยายมาเป็นรางวัลตอบแทนจากนักเขียนในฐานะแฟนผลงาน ซึ่งจังหวะนั้นเองที่เหตุการณ์จากนิยาย 'สามวิธีเอาตัวรอดฯ' ได้เริ่มต้นขึ้นจริง...
เหตุการณ์หายนะโลก เป็นเสมือนเกมที่มีการไลฟ์สตรีมให้ "กลุ่มดาว" ที่เป็นเทพเจ้าหรือวีรชนตำนานทั้งหลาย รับชมเพื่อความบันเทิง โดยมี "โทแกบี" (ปิศาจก๊อปลินเกาหลี) เป็นผู้ควบคุม "ระบบการถ่ายทอดสดของดวงดาว" (Star Stream) ผ่านช่องทางส่วนตัวของโทแกบีแต่ละตัว โทแกบีจะรับเงินโดเนทหากช่องที่ถ่ายทอดสดได้รับความสนใจจากกลุ่มดาว อีกทั้งยังมีการเปิดขายไอเทมเพื่อเสริมแกร่งให้กับผู้เอาตัวรอดด้วย
ผู้รอดชีวิต จะต้องทำเควสต์ผ่านด่านต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนด เพื่อมีชีวิตรอด และรับการสนับสนุนจากกลุ่มดาว รวมไปถึงการรับไอเทมรางวัล ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญสำหรับใช้อัปสเตตัส อัปสกิล ซื้อขายแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ซึ่งเควสต์ก็จะเป็นแนว ๆ เอาตัวรอดจากสถานการณ์สุดโหดมากมายตามความยากแต่ละ rank ที่เราจะต้อทำให้ได้ เพราะถ้าไม่ผ่านก็เท่ากับต้องตายเท่านั้น

สำหรับเวอร์ชันภาพยนตร์ได้มีการดัดแปลงเรื่องราวไปพอสมควร ดกจาไม่พอใจที่ตอนจบนิยายมีเพียงตัวละครเอก "ยู จุงฮยอก" รอดชีวิตเพียงคนเดียว โดยมีประโยคที่กล่าวว่า "หากคนอื่นต้องตายเพื่อเสียสละให้ ฉัน(ยู จุงฮยอก)รอด ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้" ทำให้ดกจาเขียนอีเมลไปหานักเขียน แล้วต่อว่าด้วยอารมณ์ว่า "ตอนจบนิยายห่วยแตก" ทำให้นักเขียนตอบกลับไปว่า "งั้นมาเขียนตอนจบเอง และจะรอดูว่าสามารถเปลี่ยนตอนจบเป็นแบบที่ต้องการได้หรือไม่" จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์โลกล่มสลายแบบในนิยายขึ้น และเริ่มต้นการเอาตัวรอด เพื่อเปลี่ยนจุดจบเดิมให้ได้
เรื่องราว ดีไซน์ เรื่องราวความเป็นมาของตัวละคร เควสต์ต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนังยังคงเหมือนตามแบบนิยาย/มังฮวา แต่การกระทำของตัวละคร และตอนจบของบางเควสต์มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งหลาย ๆ จุดของการปรับเปลี่ยนไม่รู้สึกว่าแย่อะไร แต่ก็มีที่ไม่เห็นด้วยกับการดัดแปลง เช่น
- ดกจาไม่มีสกิล "กำแพงลำดับที่ 4" และ "มุมมองนักอ่านพระเจ้า" สกิลติดตัวที่สามารถอ่านความคิด การกระทำ และข้อมูลความสามารถของคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งเป็นความสามารถโดดเด่นที่สุดของดกจา
- โทแกบี จากมอนสเตอร์อ้วนขนปุย กลายเป็นโฮโลแกรมอ้วน ๆ ตัวเกลี้ยง ๆ
- ตัวละครคิม นัมอุน ที่โผล่มาในช่วงต้นเรื่อง ในมังฮวาเป็นตัวละครที่น่าเกรงขามและมีบทบู๊ช่วงแรกเยอะมาก แต่ในหนังกลับตายง่าย ๆ ตั้งแต่เควสต์แรก
- อี จีฮเย ตามเนื้อเรื่องต้องใช้อาวุธดาบ ในหนังกลับเปลี่ยนไปใช้งานปืนสไนเปอร์แทน
- จอง ฮีวอน จริง ๆ ก็ต้องใช้ดาบเช่นกัน แต่ในหนังใช้อาวุธมีดสั้นคู่แทน
- กง พิลดู จากเควสต์สถานีชุงมูโร ถูกลดบทบาทและลดทอนการโชว์สกิลป้อมปืนสุดโหดไปพอสมควร
- ในมังฮวา/นิยายเควสต์สถานีชุงมูโร จะมีแค่เหตุการณ์กรีนโซนเท่านั้น มังกรไฟจะเป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นและเกิดขึ้นคนละสถานี ซึ่งคนที่ต้องตายคือ ดกจา ไม่ใช่ยูจุงฮยอก
- ไอเทมศรัทธาที่แตกสลาย ดกจาได้แลกเปลี่ยนกับผู้รอดชีวิตคนอื่น ไม่ใช่ผู้เขียนสามวิธีฯ



จากที่ดูภาพยนตร์มาก็มีการดัดแปลงจากบทมังฮวาเดิมเพื่อให้กระชับมากขึ้น แต่บางจุดก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีการตัดออก อย่าง ความสามารถกำแพงที่ 4 หรือ มุมมองนักอ่านของดกจา การเปลี่ยนปมในใจของดกจา จากเรื่องแม่เป็นเรื่องเพื่อนแทน ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ของตัวละคร หรืออย่างการเปลี่ยนอาวุธประจำตัวของอี จีฮเย ที่ดูจะงงที่สุด เพราะเธอควรจะได้รับอิทธิพลการใช้อาวุธมาจากกลุ่มดาวที่สนับสนุน
สิ่งหนึ่งที่พอจะโอเคของการเปลี่ยนในเวอร์ชันหนัง คือ การที่ดกจาตั้งคำถามกับตอนจบของนิยายที่ว่า 'ทำไมผู้คนมากมายจะต้องยอมเสียสละเพื่อให้คน ๆ หนึ่งรอด ในขณะที่เราอาจมีหนทางอื่นที่สามารถรอดไปด้วยกันได้?' ตรงจุดนี้ถึงจะเปลี่ยนแต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศของเรื่องเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง และเป็นการดัดแปลงที่ดีใช้ได้

หากให้ตอบว่ามีความสนุกหรือไม่? หากตอบในมุมมองของคนที่ไม่เคยอ่านมังฮวาหรือนิยายมาก่อน ก็เป็นหนังแอคชันแฟนตาซีที่สนุกมาก ๆ เรื่องหนึ่ง ทั้งฉากแอคชันจัดเต็ม เอฟเฟกต์ซีจีสวยงามตาแตก ไปจนถึงเหล่านักแสดงนำที่เล่นได้ดี เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจเข้าไปดูในโรง หากช่วงนี้อยากหาหนังดูเพื่อความบันเทิง ไม่อยากรอลงสตรีมมิ่ง หรือ อยากเข้าไปดูเพื่อสนับสนุนผลงานดาราที่ชื่นชอบ
หากให้ตอบในมุมของผู้ที่ติดตามอ่านมาก่อน ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างเปิดกว้างในการดัดแปลงบทภาพยนตร์ จึงไม่ได้มีปัญหาเท่าไหร่นักสำหรับเวอร์ชันนี้ อาจจะมีขัดใจบ้างในบางจุด การปรับเปลี่ยนที่ไม่เห็นด้วยเลยก็มี แต่โดยรวมก็ดูสนุก เพลิน ๆ ดี
แต่สำหรับแฟน ๆ คนไหนที่ตาม "อ่านชะตาวันสิ้นโลก" มาแล้วคิดว่าไม่สามารถทำใจได้กับการดัดแปลงของเวอร์ชันภาพยนตร์ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงหนังเรื่องนี้เสียจะดีกว่า