
ยิ่งเข้าใกล้คำตอบเนื้อหายิ่งสนุกน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ กับปริศนาแสงสีเขียวที่ทำให้คนกลายเป็นหินมากว่า 3000 ปีในซีรีส์เด็กเบียววิทยาศาสตร์กู้โลกพันปี Dr. stone ที่เดินทางมาถึงซีซันที่ 4 ตอนที่ 16 แล้วกับเรื่องราวการตามหาจุดที่เกิดแสงสีเขียวครั้งแรกว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ตรงนั้นเป็นอย่างไรและจะช่วยแก้ไขปริศนาที่สงสัยได้รึเปล่า ซึ่งการเดินทางของพวก เซ็นคู ก็ใช่ว่าจะราบรื่นตลอดทาง เพราะเขาจะถูก สแตนลี กับพวกไล่ล่าเพื่อเอาตัว ดร.เซโน กลับคืนมา จนกลายเป็นการเดินทางเพื่อแข่งกับเวลาว่าจะถูกอีกฝ่ายตามทันไหม เรามาดูกันว่า Dr. stone ซีซัน 4 ตอนที่ 16 จะมีเนื้อหาวิทยาศาสตร์อะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูกัน

เริ่มต้นตอนมาก็เป็นเนื้อหาของฝั่ง ยูสึริฮะ ที่อยู่ในฐานของดร.เซโน ที่ไปเจอเมดูซ่าเครื่องมือที่ทำให้เป็นหินที่ถูกสแตนลียิงตกน้ำในตอนนั้นกลับคืนมาได้ แต่มันก็หมดพลังงานแล้วแถมถูกยิงจนเป็นรอยอีก ทางกลุ่มยูสึริฮะที่อยู่ในฐานดร.เซโนเลยขอเจรจา ว่าจะแกะเมดูซ่าเพื่อค้นหาความลับของมันว่าเป็นอย่างไร เพราะการแกะมันออกมาดูจะทำให้เรารู้กลไกการทำงานของมัน และสามารถวิศวกรรมย้อนกลับ (กระบวนการค้นหาโครงสร้างฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ หรือระบบหนึ่ง ๆ มักเกี่ยวข้องกับการแยกชิ้นส่วนของอุปกรณ์ออกจากกัน เพื่อดูการทำงานของมัน) แต่การทำแบบนั้นได้ต้องใช้มืออาชีพในการแกะชิ้นส่วนเล็ก ๆ ซึ่งคนที่ทำได้ต้องเป็นช่างนาฬิกาฝีมือดีการค้นหาคนแบบนั้นจึงเริ่มขึ้น

โดยการค้นหาคนแบบนี้ก็ได้เบาะแสจาก ริวเซ ที่เป็นลูกคุณหนูบ้านรวย ซึ่งเขารู้จักโรงงานทำนาฬิกาโรเด็กซ์ (ก็รู้ ๆ กันนะว่ามันคือนาฬิกายี่ห้ออะไรแต่ทางอนิเมะเลี่ยงวลี) ซึ่งพอได้นักภูมิศาสตร์มาก็ทำให้เซ็นคูสามารถรู้ที่ตั้งของโรงงานโรเด็กซ์ได้ ผ่านเครื่องเครื่องแฟกซ์ยุคหินที่ใช้การส่งรหัสมอร์สบอกเส้นหน้าทึบเส้นขีดเพื่อบอกถึงตำแหน่งที่ตั้งโรงงานนาฬิกาโรเด็กซ์ จนได้ตัวละครใหม่นามว่า โจเอล ที่เป็นพวกปากดีกับผู้ชายแต่ใจอ่อนกับผู้หญิง ซึ่งความสามารถของเขานั้นเก่งขนาดสามารถสร้างนาฬิกาทำมือได้ในเวลาไม่นาน บ่งบอกถึงความเทพของพี่แกได้เป็นอย่างดี และที่ลืมบอกไปในเรื่องพวกนี้พูดภาษาอังกฤษกันนะ ซึ่งติ๊งต่างว่าพวกนี้พูดภาษาญี่ปุ่นได้ (บางเรื่องก็ไม่ต้องไปจับผิดมันหรอกแค่บอกให้รู้เพื่อบางคนสงสัย)

และการแกะเมดูซ่าของโจเอล ก็ทำให้รู้ว่าเจ้าเครื่องที่ทำให้เป็นหินนั้น ใช้พลังงานจากเพชรจนมันกลายเป็นสีดำ ที่พอเอาเพชรไปทำความสะอาดเมดูซ่าก็กลับมาทำงานได้อีกครั้ง โดยสิ่งที่โจเอลบอกกับคนดูคือชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเมดูซ่านั้นเหมือนทำมาจากเครื่องปริ้นสามมิติในยุคนี้ และพอเริ่มทดลองการทำงานมันก็ใช้งานได้จริง ๆ จนกลายเป็นว่าฝั่งอเมริกาได้เครื่องมือที่ทำเป็นหินแล้ว และคราวนี้ก็ถึงเวลาแกะมันเพื่อศึกษาการทำงานอย่างจริงจัง เพราะตอนนี้ทั้งสองฝั่งก็เป็นพัธมิตรกัน จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่กลายเป็นหินในการทำสงครามตอนนี้

คราวนี้มาดูเรื่องราวของปรากฏการ์ที่เรียกว่า ลานีญา กันบ้าง โดยในเรื่องจะอธิบายถึงกระแสลมจากอีกซีโลกที่ส่งกระทบกับอีกซีกโลกหรือดั่งคำว่า ฝนที่ตกทางโน่นหนาวถึงคนทางนี้ ก็มีความหมายเดียวกันนั่นคือปรากฏการณ์ลานีญานั่นเอง ที่พอมนุษย์กลายเป็นหิน 3000 ปีสภาพอากาศโลกก็จะเปลี่ยนไปเพราะไม่มีมนุษย์มาทำลายธรรมชาติ เลยทำให้กระแสน้ำและกระแสลมเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งนักภูมิศาสตร์สามารถคำนวนออกมาได้ง่าย ๆ โดยปรากฏการณ์ลานีญาคือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน โดยมีลักษณะเด่นคืออุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนกลาง และตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกในเขตเส้นศูนย์สูตรลดลงกว่าปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลกนั่นเอง ดูการ์ตูนแล้วได้ความรู้ก็เรื่องนี้ละ

ในตอนต่อไปจะเป็นการสร้างกระเช้าลอยฟ้า ที่บอกเลยว่าแต่ละอย่างมันช่างดูโอเว่อร์เกินจริง แต่ก็สามารถทำได้ด้วยพลังของวิทยาศาสตร์ ขณะที่ทางสแตนลีก็ใกล้จะซ่อมเครื่องบินเสร็จแล้ว การไล่ล่าแข่งกับเวลาก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง คงต้องมารอดูว่าฝั่งเซ็นคูจะเอารถข้ามภูเขาไปได้ก่อน หรือฝั่งสแตนลีจะซ่อมเครื่องบินจนไล่ล่าได้ก่อนมารอดูกันในอาทิตย์หน้า ส่วนใครที่สนใจอยากดู Dr. stone ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุดก็ไปดูได้ทาง Netflix ได้เลยจะมาช่วงวันพฤหัสค่ำ ๆ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราววิทยาศาสตร์น่ารู้ในอนิเมะ ที่รู้ว่าใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม แถมเอาไปพูดอวดคนอื่นได้ด้วยแล้วเจอกัน