
ถ้าพูดถึงเกมแนว 18+ หรือเกมทั่วไปที่มีฉากวาบหวิวโชว์นั่นนิดโชว์นี่หน่อย ในยุคนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว โดยเฉพาะในบ้านเราที่ไม่มีการจัดเรตคนซื้อคนเล่นแบบในต่างประเทศ ที่จะมีการกำหนดอายุคนที่ซื้อและเล่นเกมต่าง ๆ ประมาณเดียวกับเด็กต่ำ 18 ปีห้ามซื้อเหล้าบุหรี่อะไรแบบนั้น แต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วสมัย PlayStation 2 ตอนนั้น เกมที่มีฉากโชว์นิด ๆ หน่อย ๆ หรือมีฉากร่วมเพศมันคือสิ่งแปลกใหม่มาก ๆ และมีคนต่อต้านไม่เห็นด้วย ที่จะใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปในเกม แต่ก็มีเกม ๆ หนึ่งที่คิดจะแหกกฎที่ว่าด้วยการใส่มินิเกมจีบสาว ที่เราสามารถพาเธอไปสะบะระฮึ่มที่บ้านได้ นั่นก็คือเกม GTA San Andreas กับมินิเกม Hot Coffee ที่พอตัวเกมออกมา แม้โหมดนี้จะไม่มีในเกมหลัก แต่ก็มีมือดีไปเจอจนเอาออกมาเผยแพร่ทำให้ Rockstar งานงอกเป็นเรื่องใหญ่โตที่ตอนนี้ผ่านมา 20 ปีแล้วเรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวนี้กัน
สำหรับคนที่ไม่รู้หรือจำไม่ได้ ในเกม Grand Theft Auto San Andreas มันคือเกม GTA ที่ให้อิสระในการเล่นกับเราเยอะมาก ๆ ทั้งการปรับตัวละครการทำภารกิจต่าง ๆ ไปจนถึงการจีบสาว โดยในตัวเกมภาคนี้จะมีโหมดมินิเกมหลายอันให้เล่น หนึ่งในนั้นคือมินิเกมที่เรียกว่า Hot Coffee ที่เราสามารถจีบตัวละครสาวที่เป็น NPC ในเกมนี้ โดยการให้ดอกไม้พาไปเที่ยวกินดื่มเหมือนออกเดททั่วไป ก่อนจะปิดท้ายกับฉากสะบะระฮึ่มตามแบบกราฟิกแบบจัดเต็มในยุค PlayStation 2 ให้เราได้ดู (ในวิดีโอด้านล่างทางเจ้าของช่องเซ็นเซอร์ไว้) และปิดท้ายด้วยการดื่มกาแฟร้อมย้อมใจหลังเสร็จภารกิจ

โดยตัวมินิเกมนี้ไม่ได้อยู่ในตัวเกมหลัก เพราะทาง Rockstar กลัวว่าถ้ามีมินิเกมนี้ตัวเกมคงถูกขายในเรต AO (18 ปีขึ้นไป) ที่ขายยากเพราะแค่เรต M (16 ปีที่ขึ้น) ที่ได้ก็ลากเลือดแล้ว ทาง Rockstar เลยตัดมินิเกมนี้ออกไป พอเกมวางจำหน่ายก็ดันมีมือดีไปค้นไฟล์เกม จนเจอมินิเกมนี้และเอามาเผยแพร่ เท่านั้นละวงการเกมก็ลุกเป็นไฟ ซึ่งถ้าเป็นยุคนี้มันคงจะชิว ๆ และบอกว่าแค่เนี้ย แต่เมื่อ 20 กว่าปีก่อนมันเรื่องใหญ่ระดับชาติเลยนะ โดยทางสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐดำเนินการสอบสวน เกี่ยวกับส่วนประกอบมินิเกม Hot Coffee โดยวัตถุประสงค์ของการสอบสวนครั้งนี้ คือเพื่อค้นหาว่า Rockstar และ Take-Two ได้หลอกลวง ESRB ให้จัดเรต M เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเรต AO ซึ่งจะทำให้เกมถูกถอดออกจากร้านค้าหรือไม่ นั่นคือประเด็นในเรื่องนี้

แต่กระแสต่อต้านมันกลับเป็นคนละแบบ คนส่วนมากมองว่าการใส่ฉากแบบนี้ในเกมมันไม่ควร จนกลายเป็นกระแสต่อต้านขึ้นมา ซึ่งผลการตรวจสอบของ FTC ได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2006 สรุปว่า Rockstar ควรแจ้ง ESRB ว่า San Andreas มี "ตัวละครหญิงเปลือยที่อาจดูได้และมีมินิเกมเซ็กส์ที่อาจเล่นได้" กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้พัฒนาเกมและผู้จัดจำหน่ายต้องรับผิดชอบเนื้อหาที่มีอยู่ในแผ่นเกม ซึ่งโดยทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Mod เท่านั้นก็ตาม (แต่มันมีอยู่ในไฟล์เกมก็เท่ากับมันคือของ Rockstar) นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่า Rockstar ได้ใช้เงิน 24.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเรียกคืนและเปลี่ยนแผ่นเกมในร้านค้า เพื่อที่จะได้เรต M กลับคืนมา นี่ยังไม่นับการฟ้องร้องจากผู้ปกครองที่อ้างว่าลูกชายไปเล่น Mod เกมนี้ใน GTA San Andreas จนเรียกร้องค่าเสียหายอีก เรียกว่าอ่วมสุด ๆ

ถ้าให้สรุปเรื่องของ Hot Coffee ในเกม GTA San Andreas มันแยกเป็น 2 กรณีคือ หนึ่งการมีฉาก 18+ ในเกมซึ่งคนในยุคนั้นรับไม่ได้ กับสองการโกหกของทาง Rockstar ที่มีฉาก 18+ แต่จงใจหลอก ESRB เพื่อให้ได้เรต M แทนเรต AO ซึ่งแม้ทาง Rockstar บอกว่ามันไม่มีในเกมหลักมันเป็น Mod แต่ตราบเท่าที่มันมีในแผ่นเกมไฟล์เกม ก็เท่ากับว่ามันคือสิ่งที่คนสามารถหยิบมาเล่นได้ เลยสรุปว่า Rockstar ผิดไปเต็ม ๆ จนเสียค่าปรับจุก ๆ กันไป แต่ทางศาลก็ใจดีให้ GTA San Andreas ขายแบบเรต M ต่อไป แต่ต้องเรียกคือแผนที่ขายไปคืนมา และเอาเกมที่วายขายตามร้านไปลบไฟล์มินิเกมนี้ออกถึงจะขายในเรต M ได้ต่อไป ซึ่งตอนนี้แผ่น GTA San Andreas บน PlayStation 2 เอามาขายราคาพุ่งอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการเกมเมื่อ 20 ปีที่แล้วที่เรามาบอกกัน