
และก็มาถึงตอนที่ 3 ของอนิเมะแนวปวดตับ ที่ขอย้ำคนที่เพิ่งเข้ามาอ่านบทความนี้ครั้งแรก และยังไม่ได้ดูอนิเมะเรื่อง กำเนิดบาปทาโกปี้ ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ใครที่กำลังเครียดจิตตกไม่สบายป่วยหรือเป็นโรคซึมเศร้าห้ามดูอนิเมะเรื่องนี้โดยเด็ดขาด (อันนี้พูดจริงไม่มุก) เพราะอนิเมะเรื่องนี้มีแต่ความกดดันความรุนแรงความเครียดที่ถาโถมใส่ตัวละครและคนดูอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนที่ชีวิตสดใสแฮปปี้มีความสุขทุกอย่างในชีวิตสดใสดี๊ดีโลกช่างสวยงามอันนี้สมควรดู เพราะมันจะถ่วงชีวิตคุณให้สมดุล ส่วนใครที่ดูกำเนิดบาปทาโกปี้ 2 ตอนมาแล้ว มาดูกันต่อว่าตอนที่ 3 ของกำเนิดบาปทางโกปี้ว่าจะมีเนื้อหาอะไรที่น่าสนใจกันบ้างมาดูกัน

เรื่องรางของกำเนิดบาปทาโกปี้ในตอนที่ 3 นี้จะต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ที่ ทาโกปี้ ได้เผลอใช้กล้องย้อนเวลาทุบหัวมารินะจังจนตายคาที่ แต่แทนที่ ชิซุกะจัง จะกลัวหรือตกใจที่มารินะจังตาย แต่กลายเป็นว่าชิซุกะจังกลับยิ้มสดใจและขอบคุณทาโกปี้ที่ช่วยฆ่าคนที่รังแกเธอ หลังจากนั้น อาซุมะคุง ก็ตามมาเห็นทุกอย่างทั้งศพของมารินะที่ถูกฆ่าและทาโกปี้ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเห็นศพแบบนี้เป็นใครก็ต้องตกใจ แต่อาซุมะคุงกลับยอมช่วยชิซุกะจัง เพราะคำขอร้องที่เหมือนจะบอกว่าอาซุมะเป็นที่พึ่ง และด้วยความเป็นเด็กที่ไม่เคยสนิทกับเด็กผู้หญิง เลยทำให้อาซุมะคุงยอมช่วยเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับชิซูกะจัง ส่วนทาโกปี้นั้นก็รู้ ๆ กันว่าพี่แกเห็นชิซูกะจังยิ้มอย่างมีความสุขทาโกปี้ก็ดีใจไปด้วย

คราวนี้มาดูปมของอาซามะคุงกัน ที่เขาจะไม่ชอบพี่ชายตัวเอง ซึ่งถ้ามองดูดี ๆ อาซุมะคุงไม่ได้เกลียดหรือโกรธในตัวพี่ชาย แต่อิจฉาพี่ชายมากกว่า ที่ไม่ว่าพี่ชายจะทำอะไรก็ดูดีไปหมด สอบได้ 100 คะแนนอยากได้อะไรก็ได้ ขณะที่ตนเองต้องถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายตลอด โดยมีแม่คอยกดดันว่าอาซามะคุงต้องทำได้ ทำไม่ทำไม่ได้แบบพี่เขา ส่วนตัวพี่ชายที่ก็เป็นผู้ใหญ่โตแล้ว และไม่เคยถูกกดดันเลยไม่รู้ว่าน้องชายตัวเองเป็นอะไร และการไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงินซื้อแหวนคู่ให้แฟนมันคือสิ่งมีค่า แต่อาซามะคุงกลับคิดว่าจะเสียเวลาไปทำงานพิเศษทำไม ในเมื่อตัวเองเป็นลูกรักของพ่อแม่แค่ขอเงินก็ได้แล้ว อาซามะคุงเลยอิจฉาพี่ชายตัวเอง และรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนสำคัญ จนชิซุกะจังมาของให้ช่วยอาซามะคุงช่วย เลยทำให้อาซุมะคุงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญขึ้นมา หรือพูดง่าย ๆ คือจี้ตรงจุดพอดี

มาถึงตรงนี้เราจะด่าอาซามะคุงว่างี่เง่าแค่นี้ก็ไม่รู้ก็ไม่ได้ เพราะถ้าเราอายุเท่ากับเด็ก 3 คนในเรื่องถ้าเจอแบบนี้ก็คงจะทำไม่ต่างกัน หรือยอมรับมาเสียดี ๆ ว่าตอนเด็กคุณก็เคยน้อยใจพ่อแม่ที่รักพี่สาวน้องสาว ไม่ก็พี่ชายน้องชายตัวเองมากกว่าตน หรือด่าเรื่องผลการเรียนของคุณว่าเรียนแย่ไม่เก่งเหมือนลูกข้างบ้าน ไปจนถึงน้อยใจเรื่องที่ไม่ยอมพาไปเที่ยวซื้อของเล่นให้ มันต้องมีครั้งหรือองครั้งสมัยเด็กที่คุณเป็น ดังนั้นสิ่งที่อาซามะคุงเป็นมันไม่แปลกเลย เดี๋ยวโตขึ้นอาซามะคุงก็รู้เองว่าสิ่งที่ตัวเองคิดในตอนนี้มันคืออารมณ์แบบเด็ก ๆ เท่านั้น ต่างกับของชิซุกะจังกับมารินะจังที่เจอเรื่องโหดร้ายกว่าเยอะ

ตัดมาที่เรื่องของมารินะจังที่เมื่อทาโกปี้มาเป็นมารินะจัง ด้วยความโลกสวยของน้อง เลยเปลี่ยนตัวมารินะจังให้เป็นสาวร่าเริงสดใส สนิทกับชิซุกะจังจนหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จนเมื่อมารินะจังไม่ซิทาโกปี้กลับมาบ้านมารินะจัง ทาโกปี้ก็ได้ค้นพบความจริงว่าทำไมมารินะจังถึงต้องรังแกชิซุกะจัง ก็เพราะมารินะจังต้องทนเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน จากครอบครัวที่เคยอบอุ่นมีความสุข กลับต้องมาแตกแยกเพราะแม่ของชิซุกะจัง พอทางมารินะจังที่ถูกแม่ของตนพูดย้ำทุกวันว่า เป็นเพราะแม่ของชิซุกะจังเป็นคนทำให้ครอบครัวแตกแยก มารินะจังก็เก็ยกดอัดอั้น ซึ่งพอมารินะจังคิดจะต่อต้านตามภาษาเด็ก ที่ไม่โอเคเมื่อพูดแม่พูดย้ำ ๆ ใส่ มารินะจังก็จะโดนแม่ทำร้ายร่างกาย พอทาโกปี้เจอแบบนี้เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมมารินะจังถึงต้องมาทำร้ายชิซุกะจัง เพราะมันคือการระบายของเด็กที่อัดอั้นหาทางออกไม่ได้ จนมาระบายออกกับชิซุกะจังที่ไม่รู้เรื่อง ทำให้ตอนนี้กลายเป็นเราคนดูหันมาสงสารมารินะจังขึ้นมาแล้ว

ในช่วงท้ายของตอนนี้ร่างของมารินะจังที่ถูกฝังมีคนเจอแล้ว ซึ่งถ้ามารินะจังไม่ตายนี่มีเฮเลยนะ (ผู้เขียนยังไม่เคยอ่านจึงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป) คงต้องมารอดูว่าเมื่อแม่รู้ว่ามาริยะจังตายไปแล้วทาโกปี้จะทำอย่างไร แล้วมันจะปวดตับไปกว่านี้อีกไหมมารอดูกันในตอนต่อไป บอกเลยว่างานนี้ปวดตัวยาว ๆ แน่นอนรอติดตามกันได้ทาง Netflix ทุกวันศุกร์ช่วงค่ำ ๆ พอดูจบก็มาอ่านเนื้อหาในนี้ต่อ เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ มากขึ้น แล้วพบกันใหม่ตอนหน้านะปี้