 - สำเนา-250710-172257.png?versionId=M0NzF0P6vCuCUZ9CK0Dun3otM6Rhf3Sn)
หลังจากหยุดไป 1 อาทิตย์เพื่อให้อาจารย์ โอดะ ได้พักสปอยล์ One Piece ตอนที่ 1154 ก็มาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถ้าใครยังจำได้ในอาทิตย์ที่แล้วจะเป็นการย้อนอดีตของ ราชาฮาราลด์ สมัยยังเป็นหนุ่มที่แกได้เจอกับยักษ์สาวนามว่า อีด้า ที่เปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนมุมมองจากยักษ์ป่าเถื่อนมาเป็นคนยักษ์ที่เข้าใจผู้คนเข้าใจโลกมากขึ้น และทำให้ทั้งสองคนได้รักกัน แต่ด้วยความที่อีด้าไม่ใช่คนของเอลบัพทางคนชั้นสูงจึงไม่ยอมรับอีด้าเป็นราชินี ทางราชาฮาราลด์จึงต้องแต่งงานกับอีกคนอย่างเป็นทางการ ก่อนจะให้กำเนิดเป็นโลกิเด็กปีศาจที่แม้แต่แม่ของตนเองก็ไม่ยอมรับ เรียกว่าน่าสงสารแบบสุด ๆ เรามาดูกันว่า One Piece ตอนที่ 1154 จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นมาดูกัน
เรื่องราวใน One Piece ตอนที่ 1154 จะเริ่มต้นบทด้วยสรุปเหตุการณ์สมัยเด็กของบิ๊กมัม จากนั้นเราจะเห็นภัยพิบัติมากมายที่เกิดขึ้นกับเอลบัฟ ทั้งพายุหิมะขนาดใหญ่จนพืชผลเก็บเกี่ยวไม่ได้ตามฤดูกาล แถมยังไม่สามารถออกเรือไปจับปลาหรือล่าสัตว์ได้ ซึ่งนำไปสู่การอดอยากในเอลบัพ ขณะที่ทารก โลกิ ที่ถูกทิ้งลงไปที่ก้นนรกก็สามารถกลับเข้ามาในปราสาทได้ด้วยตนเอง แถมยังพังประตูเข้ามาในห้องแม่อีกด้วย ทั้งที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิด ขณะที่ ราชินีเอสทริด้า ที่เห็นแบบนี้ก็ยิ่งกลัวลูกชายของตน ขณะที่ทารกน้อยพยายามกอดแม่เพื่อขอความรัก แต่ทางราชินีเอสทริด้ากลับเรียกให้ทหารเอาตัวทารกปีศาจออกไป สร้างความเสียใจให้ทารกน้อยเป็นอย่างมาก ราชินีเอสทริด้าตะโกนออกมาว่า "มันเป็นความผิดของแกทุกคน!!! ถ้าเราฆ่ามันไปตั้งแต่ตอนนั้น ประเทศของเราคงไม่ถูกสาปแบบนี้ พามันออกไป อย่าให้สัตว์ประหลาดนั่นเข้าใกล้ข้าอีก และทำลายดวงตาของมันเสีย ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะถูกสาป จุดจบของประเทศนี้กำลังใกล้เข้ามาแล้ว"

หลังจากที่เจ้าชายโลกิกำเนิดขึ้นมา เอลบัพก็มีแต่ภัยพิบัติประชาชนอดอยากอย่างที่เราได้อธิบายไป จึงทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเหล่ายักษ์ชั้นผู้ใหญ่คิดจะฆ่า ฮัจรูดิน กับ ไอด้า สองแม่ลูกทิ้ง เพราะคิดว่าทั้ง 2 คือตัวนำภัยพิบัติมา แต่พระราชาฮาราลด์ก็กลับมาที่เอลบัพได้ทันเวลา พระราชาฮาราลด์ กล่าวว่า "พี่น้องของข้า อย่าทำร้ายกัน ในตอนนี้ข้าได้พูดคุยเรื่องนี้กับประเทศที่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับเรา และพวกเขาก็ส่งเรือบรรทุกอาหารมาให้เราโดยไม่มีคำถามใด ๆ มนุษย์ทุกคนตัวเล็กเมื่อเทียบกับเรา แต่หลายประเทศก็ร่วมมือกันและส่งมอบอาหารที่เพียงพอสำหรับยักษ์ใหญ่ให้พวกเรา พวกเรารับอาหารด้วยความขอบคุณกันเถอะ และสักวันหนึ่งเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเรา เราจะให้ความช่วยเหลือพวกเขาเช่นกัน โลกของเรานั้นเล็กและเราทุกคนต้องช่วยเหลือกัน"

ไม่นานหลังจากนั้นเรือของมนุษย์จำนวนมากก็มาถึงเอลบัฟ ทุกคนขนส่งถุงอาหารขนาดใหญ่เพื่อช่วยเหลือคนยักษ์ จนสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดไปได้ หลังจากนั้นไม่นานราชินีเอสทริด้าก็เสียชีวิตช่วงที่พระราชาฮาราลด์เดินทางไปเมืองอื่น ทางด้านไอดาก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่ในเมือง (บาร์ที่ โคลอน ปรากฏตัวครั้งแรก) ขณะที่ราชาฮาราลด์ยุ่งอยู่กับการพัฒนาถนน เพื่อเชื่อมต่อหมู่บ้านเอลบัพและยุติการต่อสู้ทั้งหมดในประเทศ ส่วนโลกิก็เติมโตขึ้นมาด้วยการเลี้ยงดูของน้องชายราชินีเอสทริด้า หรือก็คือน้าของตนที่ตอนนี้ตัวละครนี้ยังไม่มีชื่อ ซึ่งตัวของคุณน้านั้นก็ฝึกและกลั่นแกล้งเจ้าชายโลกิ ที่เป็นต้นเหตุให้พี่สาวของตนเองตาย แต่ต่อมาไม่นานน้าชายก็ถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย และด้วยดวงตาที่ดูน่ากลัวของเจ้าชายโลกิ เหล่าคนยักษ์ชนชั้นสูงจึงสั่งให้เจ้าชายโลกิปิดดวงตาตัวเอง โดยอ้างกับประชาชนว่าเขามีโรคทางดวงตา

วันเวลาผ่านมาอีก 56 ปีราชาฮาราลด์กับ ท่านยาร์ล คุยกันถึงความขัดแย้งระหว่างเผ่ายักษ์กับรัฐบาลโลกที่กำลังตึงเครียด ซึ่งราชาฮาราลด์ก็ได้เข้าไปประชุมกับรัฐบาลโลกด้วย โดยไปในฐานะทหารของราชามนุษย์ที่ตนเองรู้จัก แต่การประชุมนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น และราชาฮาราลด์ก็เกือยจะถูกจับโชคดีที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นเขาเลยหนีออกมาได้ นอกจากนี้ทางท่านยาร์ลก็ได้ถามราชาฮาราลด์ถึง กัลเลย์รา กลุ่มคนยักษ์ในตำนานที่มีแต่ความโหดเหี้ยม ซึ่งมันเป็นแค่ตำนานเท่านั้น แต่ทางท่านยาร์ลบอกว่าไม่พวกนั้นมีตัวตนอยู่จริง ในอดีตพวกนี้ล่องเรือออกไปไกลจากเอลบัพ ก่อนจะส่งจดหมายกลับมาที่นี่ เนื้อหาของจดหมายนั้นมีใจความประมาณว่า 'พวกเราทุกคนถูกจับแล้ว' ลองคิดดูว่านักรบคนยักษ์มากกว่า 100 คน รวมถึงยักษ์ใหญ่โบราณถูกจับโดยใครบางคนที่เป็นมนุษย์ ราชาฮาราลด์คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของรัฐบาลโลก แต่ท่านยาร์ลบอกว่าไม่น่าจะใช่แบบนั้น และมีเหล่าคนยักษ์บางส่วนก็ถูกแช่แข็งอยู่ในพังค์ ฮาซาร์ดนั่นเอง

วันเวลาผ่านมาอีก 48 ปีต่อมาเจ้าชายโลกิที่เริ่มโต ก็ปล่อยสัตว์ร้ายที่เป็นเพื่อน ๆ ของตนในยมโลกเข้าไปในหมู่บ้านของเหล่าคนยักษ์ และได้เห็นเหล่าคนยักษ์ช่วยปกป้องฮัจรูดินคนที่เขาอยากฆ่า ในตอนนั้นเจ้าชายโลกิก็เกิดปมในใจ ว่าทำไมใคร ๆ ถึงเกลียดเขาไม่มีใครรักเขาแบบฮัจรูดินบ้าง เจ้าชายโลกินทิ้งตัวเองลงมาจากโลกแห่งแสงอาทิตย์ลงไปยังนรกแต่ก็ไม่เป็นไร พี่แกถอดผ้าปิดตาออกและร้องไห้ออกมา พร้อมกับพูดว่า "ข้าคงตายไม่ได้ซินะ" ระหว่างนั้นเองภูเขาก็ถูกผ่าออกเป็นสองซีก พร้อมร่างมนุษย์ตัวจ้อยหลายคน ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มพวกหนวดขาวสมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่น่าจะหลงทางมายังเอลบัพนั่นเอง ซึ่งถ้าใครจำได้ทางโลกิเคยจะขอไปเป็นลูกเรือโจรสลัด แต่ถูกชายปริศนากระทืบจนน่วมมาก่อน และหนึ่งในคนปริศนาที่อยู่ในกลุ่มนี้ที่ในตอนนั้นยังไม่รู้ คราวนี้เราก็ได้เห็นตัวตนของเขาแบบชัด ๆ ว่าคือ ร็อคส์ ดี. เซเบค ที่ในเนื้อหาต้นทางบอกว่าเขามีรูปร่างคล้าย หนวดดำ มาก ๆ

เนื้อหาในบทบรรยายบอกว่า "ราชาฮาราลด์ได้พบกับชายคนนี้ที่เลเวลี่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ในระหว่างนั้นชายคนนี้หลบหนีหลังจากฆ่าพลเรือเอกของกองบัญชาการทหารเรือ และปัจจุบันถูกตามล่าโดยรัฐบาลโลกที่มีค่าหัวสูง" ทางซีเบคถามเข้าชายโลกิสองข้อ "ข้อแรกสถานที่นี้คือประเทศคนยักษ์ที่เรียกว่าเอลบัพใช่ไหม ข้อสองฮาราลด์อยู่ที่นี่รึเปล่า" เรื่องราวจบลงตรงนี้ ส่วนใครที่สนใจก็ไปอ่านต่อได้ที่เว็บไซต์ Manga Plus ได้เลยที่ลิงค์ด้านล่าง ส่วนตอนที่ 1154 จะมาช้าหน่อยอ่านสปอยล์ในนี้ไปก่อนพอตัวจริงมาก็ค่อยไปอ่านอีกครั้ง แล้วพบกันใหม่อาทิตย์หน้าเหล่าโจรสลัดทั้งหลาย