
ในช่วงปี 2024 ในงานประกาศรางวัลออสการ์ที่ผ่านมา ได้มีแอนิเมชันเรื่อง Flow หรือในชื่อไทยอย่าง Flow มีเหมียว มีกัน วันน้ำท่วมโลก ที่เป็นหนึ่งในอนิเมชันม้ามืดที่จู่ ๆ มาจากไหนไม่รู้มาแย่งซีนแอนิเมชั่นชื่อดังตัวเต็งไปจนหมด จนทำให้ Flow เป็นภาพยนตร์อิสระเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม (ปกติแอนิเมชั่นที่ได้รางวัลนี้จะมาจากค่ายใหญ่ ๆ ทั้งสิ้น) และเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องที่สองที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (จะเข้าชิงได้ก็ไม่แปลกเพราะเรื่องนี้เป็นภาษาสัตว์ที่คนทั้งโลกดูเข้าใจได้) และเห็นเขาว่ามันดีนักดีหนา พอมาลงบน Netflix ทีมงานเลยไม่พลาดจะเอามาดู และรีวิวแนะนำทุกคนให้มาดูกัน เรามาดูกันว่า Flow มีเหมียว มีกัน วันน้ำท่วมโลก จะดีงามจริงไหมมาดูกัน
เรื่องราวของ Flow มีเหมียว มีกัน วันน้ำท่วมโลก จะบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวแมวเทาตัวเมีย (น้องไม่ใช่แมวดำอย่างที่หลายคนคิด) ที่ใช้ชีวิตคนเดียวในโลกที่จู่ ๆ มนุษย์ก็หายตัวไปหมด และจู่ ๆ ก็เกิดน้ำท่วมโลกขึ้นมา น้องเหมียวเลยต้องหาทางเอาชีวิตรอดก่อนที่จะจมน้ำกับหิวตาย นั่นคือเรื่องราวการเดินทางของน้องในโลกที่มีแต่น้ำกับเหล่าสัตว์ตัวอื่น ๆ ที่พยายามเอาชีวิตรอดเหมือนกัน โดยตัวภาพยนตร์นั้นจะไม่มีเสียงพากย์บทบรรยายตัวหนังสือ หรือสิ่งที่บ่งบอกความเป็นมนุษย์อยู่ในนี้เลย นอกจากบ้านและข้าวของนิดหน่อย จึงไม่แปลกที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม เพราะในเรื่องมีแค่เสียงร้องของสัตว์ กับท่าทางที่เราดูเข้าใจได้ทันว่าว่าน้องต้องการสื่ออะไร ยิ่งคนที่เลี้ยงแมวบอกเลยว่าใจฟูแน่นอน

ในส่วนของเนื้อเรื่องจะถูกแบ่งออกเป็นช่วง ๆ ผ่านมุมมองของน้องเหนียวตัวนี้ ที่เริ่มจากการอยู่ตัวเดียวโดยที่เนื้อหาไม่ได้บอกว่าทำไมจู่ ๆ มนุษย์ก็หายไป แต่เราก็รู้ว่าเจ้าเหมียวนั้นน่าจะเคยอยู่กับเจ้าของที่เป็นช่างแกะสลัก และดูเหมือนเจ้าของจะรักน้องมาก เพราะมีรูปปั้นแกะสลักน้องเต็มรอบบ้านและภูเขา โดยในช่วงแรกจะเป็นการหนีตายจะระดับน้ำที่ท่วมขึ้นมาอย่างมาก จนน้องเหนียวต้องหนีตายขึ้นที่สูงที่ให้เราลุ้นเอาใจช่วยน้อง พอต่อมาเมื่อรอดจากระดับน้ำก็ต้องมาลุ้นว่าน้องจะหาอะไรกินได้ไหม จากนั้นก็เป็นการเดินทางในโลกกว้างที่มีแต่น้ำท่วม ผ่านสายตาเจ้าเหมียวและเพื่อน ๆ สัตว์ ที่โชคชะตานำพามาเจอกันและต้องเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งจะมีตัวไหนบ้างนั้นไม่ขอบอกไปดูกันเอาเอง ไม่อยากสปอยเพราะที่มาที่ไปของแต่ละตัว กว่าจะมาเป็นเพื่อนกันมันน่าสนใจดี เลยอยากให้ไปดูเอาเองจะดีกว่า และสัตว์แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์นิสัยที่ต่างกันดูแล้วแอบอมยิ้มหลายฉากเลยทีเดียว

มาดูส่วนที่ดีของแอนิเมชันเรื่องนี้กัน เริ่มจากตัวเนื้อเรื่องที่ดูง่ายเด็ก ๆ ดูได้คนรักแมวทาสแมวดูจะลุ้นเป็นพิเศษ เพราะจะมีฉากหวาดเสียวให้ลุ้นว่าน้องจะรอดไหม น้องจะหลงทางรึเปล่าอยู่หลายครั้ง และเรายังได้เห็นความน่ารักของน้องที่เล่นเอาทาสแมวใจละลายได้เลย นอกจากนี้ฉากต่าง ๆ ในเรื่องก็สวยงามเนื้อหาย่อยง่ายดูเพลิน ๆ ไม่ต้องคิดเยอะ แต่ก็ในเรื่องก็แอบซ่อนความหมายผ่านตัวละครต่าง ๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะน้องเหมียวที่เริ่มจากแมวขี้กลัวออกไปทางซึน ๆ ไม่เขาพวกแต่พอเจอเพื่อน ๆ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยกันมา น้องกลับเป็นสัตว์ที่รักเพื่อนที่สุด ทั้งที่น้องเป็นตัวแรกที่ไม่อยากรวมกลุ่มและไม่ไว้ใจใครที่สุด ซึ่งถ้าจะดูเอาสนุกมันก็คือเพลินมาก หรือจะดูเอาสาระตรรกะก็มีแง่คิดมากมายให้คิดตาม เรียกว่าได้หมดตามแต่ที่เราจะตีความเลย

มาที่ข้อเสียกันบ้างนั่นคือความสมจริง ถ้าคุณจะดูเอาความสมจริงว่าทำไมแมวทำแบบนั้นได้ แมวทำแบบนี้ได้ไงอย่างการดำน้ำ แล้วทำไมสัตว์ตัวนั้นเป็นแบบนี้ มีคำถามเรื่องความสมจริงก็อย่าไปดูเลย เหมือนที่เราดู The Lion King ก็อย่าไปตั้งคำถามเลยว่าทำไม เพราะมันคือการ์ตูนอันนี้ไม่ใช่ข้อเสียแต่ดักไว้ก่อน คราวนี้มาดูข้อเสียเต็ม ๆ กัน คือช่วงท้ายมันดูไม่รู้เรื่อง ซึ่งไอ้ที่ไม่รู้เรื่องคือการตีความบางอย่างที่ลึกไป ยกตัวอย่างฉากที่น้องเหมียวขึ้นไปบนบอดเขา ตอนนั้นเหมือนท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีและพาน้องลอยขึ้นไป ก่อนจะพาน้องลงมาเหมือนเป็นปรากฏการณ์ของพระเจ้า หรืออะไรบางอย่างที่ก็ไม่รู้ว่ามีทำไม และต้องการสื่ออะไรคือไม่เข้าใจจริง ๆ และทำไมน้องตัวนั้นถึงต้องจากไปและน้องไปไหนด้วยอันนี้คืองงมาก

และที่ขัดใจที่สุดคือตอนจบ คือกำลังดูเพลิน ๆ หลังจากที่ทุกตัวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย เราก็หวังว่าจะมีจุดพีคจุดที่ทำให้เราลุ้น แบบเจอสัตว์ประหลาดเจอไอ้เข้เจอตัวนั่นนี่มาทำร้าย จนทุกตัวต้องหนีต้องสู้อะไรแบบนั้น ที่สุดก่อนจะจบแบบสวย ๆ อิ่มเอมหัวใจ (หรือผู้เขียนคิดเองว่ามันควรเป็นแบบนั้น) แต่มันเรียบง่ายมาก จุดพีคสุด ๆ ก็แค่น้องตกน้ำกับหลงทางกับเพื่อนเท่านั้น และพอมันจะจบก็คือจบเลยจบแบบดื้อ ๆ แบบนี้เนี้ยนะ ไม่บอกไม่กล่าวไม่มีจุดพีค แต่ส่วนตัวเข้าใจความหมายของตอนจบว่าคืออะไร แต่ที่ไม่เข้าใจคือมันจบแค่นี้เนี้ยนะ จบแบบนี้จริงดิ เรายังสนุกยังอินยังเพลินอยู่เลยจบแล้วอันนี้แอบน่าเสียดาย

โดยรวมชอบมาก ๆ โดยเฉพาะตัวน้องเหมียวที่ไม่ต้องมีบทพูด แค่แสดงท่าทางกับแววตาก็ทำให้เรารับรู้นิสัยของน้องได้แล้ว รวมถึงเหล่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่ทุกตัวก็มีนิสัยเอกลักษ์ที่เฉพาะตัว ที่ดูแล้วรู้เลยว่าตัวไหนนิสัยเป็นอย่างไร ดูไปก็เพลินดีลุ้นดี แต่ถ้าถามว่าอิ่มไหมไม่อิ่มมันดูขาด ๆ ไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าโอเคไม่แย่แต่ก็ไม่ดีขนาดว๊าวต้องไปดูให้ได้ แต่ทาสแมวควรดูบอกเลย ส่วนคะแนนขอให้ 6.8 เต็ม 10 ไม่แย่แต่ก็ดีไม่สุดดูเพลิน ๆ ยามว่างได้ดีมาก ๆ ใครสนใจไปดูทาง Netflix ตอนนี้ได้เลย