
หลังจากที่รอคอยมานานในที่สุดอนิเมะคนเบียวปราบผีลุยมนุษย์ต่างดาวอย่าง Dandadan Season 2 ตอนที่ 1 ที่ฉายเป็นที่เรียบร้อยบน Netflix พร้อมเสียงพากย์ไทยที่ดีงามตามมารฐานเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความสนุกกับปริศนา ที่กว่าเราคนดูอนิอเมะจะรู้คำตอบก็รอนานหลายเดือนเลยทีเดียว โดยเรื่องราวในซีซันที่ 2 ของ Dandadan นี้จะสานต่อจากตอนที่ 12 ของซีซัน 1 ทันที ซึ่งถ้าใครจำได้ในตอนท้ายของซีซัีน 1 จะเป็นฉากตอนที่ โมโมะจัง กำลังอาบน้ำพุร้อนอยู่ จู่ ๆ ก็มีเหล่าคุณลุงที่ไม่น่าไว้วางใจมาอาบน้ำและเหมือนจะทำมิดีมิร้ายกับโมโมะจัง เรื่องราวในซีซัน 1 จบลงตรงนั้น เรามาดูกันว่าในซีซันที่ 2 ของ Dandadan จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเรามาดูกัน

เริ่มจากสิ่งแรกที่หลายคนอาจจะไม่รู้ ว่าน้ำพุร้อนในประเทศญี่ปุ่นเกิดจากทางน้ำใต้ดินกับภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ มันเลยทำให้เกิดบ่อน้ำร้อนตามธรรมชาติ สถานที่เหล่านั้นเลยเป็นเหมือนแหล่งท่องเที่ยวไปในตัว ซึ่งในบ้านเราไม่มีภูเขาไฟแบบญี่ปุ่นเราเลยไม่มีบ่อน้ำร้อนแบบเขานั่นเอง ต่อมาคือการช่วยเหลือของ ยายแก่เทอร์โบ ที่ช่วยโมโมะ นั่นก็เพราะยายแก่เทอร์โบลึก ๆ แกเป็นคนดี (แบบลึกจริง ๆ) และแกก็มักจะเป็นห่วงเด็กสาวอย่างในซีซันแรกที่แกไปอยู่ในอุโมงค์ที่มีวิญญาณเด็กสาวถูกฆ่าหั่นศพที่นั่น ทั้งที่ยายแกจะไปที่อื่นก็ได้แต่ยายแกก็เลือกจะปักหลักและเชื่อมวิญญาณกับเหล่าวิญญาณในอุโมงค์นี้ ก็เพราะยายแกต้องการอยู่ปลอบใจเป็นเพื่อวิญญาณเด็กสาวที่ทุกข์ทรมานเหล่านั้นให้สงบ จึงไม่แปลกที่ยายแก่เทอร์โบจะมาช่วยโมโมะ

ต่อมาคือสิ่งที่โมโมะได้ไปดูที่ศาลเจ้าที่เธอพูดว่ามันคือ สึจิโนโกะ ที่ถ้าใครไม่เคยดูหรืออ่านการ์ตูน Doraemon คงไม่รู้จักเจ้าสัตว์ในตำนานตัวนี้ของญี่ปุ่น โดยตัว สึจิโนโกะ นั้นมันคืองูที่กระโดดได้ ใช่คุณอ่านไม่ผิดมันคืองูกระโดดได้เป็นสัตว์ในตำนานของญี่ปุ่น ประมาณเดียวกับพญานาคหรือบิ๊กฟุตอะไรแบบนั้น ตัวของสึจิโนโกะได้รับการบรรยายว่า มีความยาวระหว่าง 30 และ 80 เซนติเมตร มีรูปร่างยาวคล้ายงูแต่ลำตัวอ้วนป้อมกว่าหัวและหาง มันมีเขี้ยวกับพิษคล้ายกับงูพิษ บางรายงานระบุว่าสึจิโนโกะสามารถกระโดดไกลถึง 1 เมตรเพื่อล่าเหยื่อ แต่ในเรื่อง Dandadan คราบนี้ไม่ใช่สึจิโนโกะแต่เป็นคราบมหานาคาแต่เจ้าอาวาสให้เรียกสึจิโนโกะเพื่อเรียกนักท่องเที่ยว

ต่อมาคือปริศนาของบ้านที่ จิจิ อยู่ ที่พอทุกคนถูกดูดลงไปในบ่อทราย ก็เห็นว่ามีบ้านหลายหลังอยู่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่าทุกครั้งที่มหานาคาที่ความจริงแล้วคือ หนอนมรณะมองโกเลีย กินคนมันจะกลืนบ้านทั้งหลังลงไป พอบ้านหายไปเพราะมหานาคา (หนอนมรณะมองโกเลีย) กินอิ่มทางคน ตละกูลคิโต้ ก็จะมาสร้างบ้านหลังใหม่และหลอกคนมาเป็นเครื่องสังเวยมหานาคา (หนอนมรณะมองโกเลีย) ต่อไป เพราะคนในตละกูลคิโต้เชื่อว่าการให้มหานาคา (หนอนมรณะมองโกเลีย) กินอิ่มก็จะไม่เกิดภูเขาไฟระเบิด บ้านหลังนี้ก็คือแท่นบูชานั่นเอง

คราวนี้มาต่อกันที่ หนอนมรณะมองโกเลีย หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Mongolian Death Worm เป็นสัตว์ที่อยู่ในความเชื่อของชาวมองโกล มีชื่อในภาษามองโกลว่า олгой-хорхой หรือชื่อ olgoi-khorkhoi โดยคำว่า olgoi หมายถึงลำไส้ใหญ่ และ khorkhoi หมายถึงหนอน เนื่องจากชาวมองโกลเชื่อว่ามันจะอยู่ในลำไส้ใหญ่ของวัวกับแพะ โดยหนอนมรณะมองโกเลียเป็นที่รู้จักครั้งแรกของชาวตะวันตก เมื่อปี ค.ศ. 1926 เมื่อนักสำรวจและนักบรรพชีวินวิทยาชาวอเมริกันชื่อ รอย แชพแมน แอนดรูว์ เขียนไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ On the Trail of Ancient Man บอกถึงหนอนมรณะมองโกเลียนี้ ตามที่เขาได้ยินมาจากชนพื้นเมือง
ลักษณะทั่วไปของหนอนมรณะโกเลียมันมีความยาวประมาณ 2–5 ฟุต หรือยาวและใหญ่ได้มากกว่านั้นได้อีก มันมีสีแดงคล้ายเลือด ลำตัวคล้ายไส้กรอกและเป็นปล้อง ๆ และเป็นสัตว์ดุร้ายกินสัตว์อื่นด้วยการพ่นกรดกำมะถันสีเหลืองใส่เหยื่อ และว่ากันว่ามันสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้า เพื่อสังหารเหยื่อคล้ายปลาไหลไฟฟ้าที่พบในลุ่มแม่น้ำอเมซอนในอเมริกาใต้ได้อีกด้วย ซึ่งเจ้าหนอนมรณะโกเลียก็เหมือนสึจิโนโกะที่ยังไม่มีคนพบตัวจริงแต่หลายคนก็บอกว่าเคยเห็น

แต่สิ่งที่น่าสนใจจริง ๆ ไม่น่าจะอยู่ที่หนอนมรณะโกเลียตัวนี้ แต่น่าจะเป็นวิญญาณร้ายที่สิงในบ้านนี้มากกว่าที่น่าสนใจ ซึ่งในตอนท้ายของซีซัน 2 ตอนที่ 1 เราจะเห็น โอคารุน กำลังกลายร่างเป็นยายแก่เทอร์โบแบบโดนสิง ที่ไม่ใช่แบบโอคารุนหดหู่ว่ะอย่างที่เราเห็นทุกครั้ง คงต้องมารอดูตอนที่ 2 ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งทุกคนสามารถติดตามดูได้ทุกวันพฤหัสช่วยหัวค่ำทาง Netflix ที่บอกเลยว่าสนุกน่าสนใจมาก ๆ และถ้าในตอนต่อไปมีข้อมูลอะไรน่าสนใจอีก เดี๋ยวเราจะเอามาอธิบายให้ได้อ่านกันติดตามเอาไว้ได้เลย