
จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับความปวดตับของซีรีส์เหลือเพียงเราสองอย่าง The Last Of Us ในตอนที่ 7 กับเรื่องราวเนื้อหาที่ค่อนข้างหนักสำหรับคนดูซีรีส์ ซึ่งคนเล่นเกมอย่างเรา ๆ น่าจะทราบกันดีว่าเนื้อหาในเกมนั้นมันชวนปวดตับขนาดไหน ซึ่งเอาจริง ๆ ในซีรีส์ที่ถ่ายทอดออกมานั้นก็ตัดความรุนแรงหลาย ๆ ส่วนออกไป ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ฆ่าฟันระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ไปจนถึงการต่อสู้กับเหล่าซอมบี้หัวเห็ดที่โหดดิบกว่านี้ ซึ่งคนเล่นเกมหลายคนที่ได้ดูซีรีส์นี้ต่างก็บ่นว่าไม่ควรตัดเนื้อหาหลาย ๆ ส่วนออกไป แต่ก็มีบางส่วนที่ทางซีรีส์ตัดออกไปและคนเล่นเกมต่างเห็นด้วยในเรื่องนี้ นั่นคือฉากการฆ่าหมากับม้าในเรื่อง ที่ในเกม The Last Of Us 2 บอกเลยว่าทั้งน้องหมาและน้องม้าตายเป็นว่าเล่น โดยทางผู้กำกับคนเขียนบทบอกว่ามันดูรุนแรงเกินไปที่ใส่ลงมา เรามาดูกันว่าฉากฆ่าหมากับม้าที่ว่าโหดนั้นมันคือตอนไหน และทำไมต้องตัดออกไปเรามาดูกัน

สำหรับคนที่ดูซีรีส์ The Last Of Us ซีซัน 2 มาแล้วและไม่เคยเล่นเกม คงจะไม่รู้ว่าภายในเกม The Last Of Us 2 นั้นมีฉากที่เราต้องฆ่าน้องหมาอยู่ด้วย โดยน้องหมาที่ถูกฆ่านั้นจะเป็นหมาของฝั่ง WLF ซึ่งน้องหมาเหล่านี้มันสามารถดมกลิ่นและเห่าเรียกเจ้าของให้ตามเราเจอ แถมยังกัดได้รุนแรงจนถึงตายได้เลย สิ่งที่เราต้องทำเป็นอย่างแรกเมื่อเจอคนเลี้ยงหมาคือต้องฆ่าหมาก่อนเจ้าของ ซึ่งนั่นว่าโหดแล้วคราวนี้มาดูเนื้อเรื่องในซีรีส์กันบ้าง ที่ถ้าใครดูตอนที่ 7 มาแล้วจะเห็นฉากที่ เอลลี่ มาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในซีแอตเทิล ในเกมฉากที่เอลลี่มาถึงที่นี่ เธอจะถูกหมาตัวหนึ่งมากัด เอลลี่จึงต้องฆ่ามันทิ้งเพื่อปกป้องกันตัว ก่อนจะไปเจอ โอเว่น และ เมล ตามที่เราได้ดู แต่สิ่งที่ชวนปวดตับก็คือ พอตัวเกมเปลี่ยนมาเล่าเรื่องราวของ แอ๊บบี้ ในซีแอตเทิลวันที่ 1 เราได้รู้จักน้องหมาที่ถูกฆ่าตัวนั้นว่าชื่อ อลิซ

ซึ่งไอ้ความปวดตับมันก็อยู่ตรงนี้ เพราะในเนื้อเรื่องของแอ๊บบี้ เราจะได้เดินทางร่วมกับน้องอลิซในหลาย ๆ ฉาก ซึ่งน้องอลิซในเนื้อเรื่องของแอ๊บบี้นั้นก็น่ารักมาก ๆ ช่วยเราต่อสู้และก็มีเนื้อเรื่องให้เราปาตุ๊กตาเล่นกับน้องที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จนเรารู้สึกผูกพันกับน้องแบบสุด ๆ แต่ยิ่งเราผูกพันและรักน้องมากขนาดไหน ภาพของน้องที่ถูกเอลลี่ฆ่าในเรื่องก่อนหน้านี้ก็ยิ่งฉายเข้ามา จนคนเล่นเกมรู้สึกปวดตับแบบสุด ๆ ประมาณว่าเราจะรู้อนาคตว่าน้องจะต้องตายเพราะเอลลี่ แต่เกมดันให้เรารักและผูกพันกับมันเฉย เรียกว่าจิตใจโหดเหี้ยมแบบสุด ๆ ไปเลย

อีกหนึ่งฉากที่ในเกม The Last Of Us 2 ใส่ลงมานั่นคือฉากน้องม้าที่เอลลี่กับ ดีน่า ขี่มาตั้งแต่เริ่มเรื่องที่ชื่อ แชมเบอร์ ที่ในซีรีส์ เจสซี่ จะบอกเราว่าแชมเบอร์ปลอดภัยดี จนคนที่เคยเล่นเกมต่างโล่งอกที่รู้ว่าน้องไม่ตุยขณะที่ชะตากรรมของแชมเบอร์ในเกมนั้นจะต่างออกไป เพราะน้องจะโดนกับระเบิดจากฝ่าย WLF ที่วางเอาไว้ ระหว่างทางที่เอลลี่กับดีน่ามาซีแอตเทิล แบบกำลังขี่ม้าเดิน ๆ คุย ๆ กันอยู่ก็ตูมแชมเบอร์โดนระเบิดขาขาดก่อน WLF จะมายิงซ้ำ ส่วนเอลลี่กับดีน่าก็เกือบไม่รอดเรียกว่าโหดแบบสุด ๆ ฉากนี้

และพอเราไม่เห็นฉากนี้ในเกมเลยมีคนไปถามผู้กำกับอย่าง เครก มาซิน ซึ่งเขาได้บอกกับแฟน ๆ ผ่านทาง Comicbook.com ว่า "เนื่องจากเป็นซีรีส์คนแสดง ความรุนแรงจึงมีความชัดเจนมากกว่าในเกม มันไม่ใช่แค่กราฟิกแต่มันคือสิ่งมีชีวิตจริง ๆ มันเลยน่ากังวลมากที่จะใส่ฉากเหล่านี้ลงไป" คุณมาซินอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับช่วงเวลาหนึ่งในกองถ่ายของเชอร์โนบิล ที่เขาพูดคุยกับทีมงานว่าควรแสดงภาพเหยื่อที่ถูกรังสีเผาไหม้หรือไม่ หรือควรแสดงเพียงบางส่วนเท่านั้นเพราะมันดูสะเทือนใจไป เขากล่าวต่อว่า "ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังทรมานผู้ชม จนเกือบจะกลายเป็นเรื่องความรุนแรงโหดร้าย ดังนั้นเราจึงไม่อยากให้คุณรู้สึกแย่ไปกับฉากเหล่านั้น คุณคงไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองถูกละเมิดเส้นบางอย่างดังนั้นเราจึงไม่ใส่มันลงไป"

และถ้าคุณคิดว่านี่ปวดตับแล้ว ในเกมพอฆ่าน้องหมาก่อนเจ้าของ เราจะได้เห็นความเสียใจของเจ้าของหมาที่นั่งร้องไห้เรียกชื่อหมาที่ตาย เจ้าของหมาบางคนก็โกรธ จนตะโกนและวิ่งหาเราแบบบ้าคลั่งเพราะเราไปฆ่าหมาเขาตาย และถ้าเราฆ่าเจ้าของก่อนหมาจะครางเสียใจเฝ้าศพตรงนั้น แต่หมาบางตัวจะพุ่งมากัดเรา เรียกว่าโหดสะเทือนใจสุด ๆ ซึ่งดีแล้วที่ซีรีส์ไม่ใส่พวกนี้ลงไป ไม่อย่างนั้นคงโดนกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์อย่าง PETA เล่นงานแน่ ๆ และคนรักหมารักม้าคงไม่อยากเห็นอะไรแบบนี้แน่นอน ส่วนคนที่เล่นเกมก็มีบ้างที่รู้สึกแย่ไม่แพ้กันบอกเลย