
ยังคงเส้นคงวาความอาถรรพ์ไม่เปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่เรียกว่า ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกม ที่ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ที่มาจากเกมหลายเรื่องก็แก้อาถรรพ์นี้ไปแล้วอย่าง Sonic the Hedgehog กับ Super Mario Bros รวมถึง Minecraft แต่อาถรรพ์ก็ใช่ว่าจะลบล้างออกไปง่าย ๆ โดยล่าสุดก็มีภาพยนตร์ที่ทำมาจากเกมที่ออกฉายไล่เลี่ยกัน 2 เรื่องเลยนั่นคือ Until Dawn กับ Home Sweet Home Rebirth ซึ่งในตัวอย่างภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้ก็บอกให้เราให้รู้เลยว่าจะไม่ยึดตามในเกม แต่จะเอามาแค่ชื่อเกมกับตัวละครบางตัวเท่านั้น พอรู้แบบนั้นตอนดู Home Sweet Home Rebirth ก็พยายามถอดฟิวเตอร์แฟนเกมออกไป และดูในฐานะภาพยนตร์เรื่องหนึ่งอย่างเดียว ผลที่ได้คือความไม่สนุกไม่สมเหตุสมผล และไม่ดียิ่งกว่าที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้อีก เรามาดูกันว่า Home Sweet Home Rebirth เป็นอย่างไรมาดูกัน
เริ่มจากเนื้อเรื่องกันก่อน Home Sweet Home Rebirth จะกล่าวถึงครอบครัวพ่อแม่ลูก 3 คนที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาเยี่ยมคุณยาย โดยที่คุณพ่อเป็นตำรวจที่ลาพักร้อน แต่ก่อนที่จะไปหาคุณยายทั้ง 3 ก็ไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ซึ่งเนื้อเรื่องก็ตื่นเต้นตั้งแต่ต้นเรื่องเมื่อลูกสาวหายตัวไประหว่างที่ 2 คนจูบกัน เดือดร้อนให้ทั้ง 2 คนวิ่งตามหาประหนึ่งลูกถูกลักพาตัวไป (แค่ลูกเดินไปที่อื่น) ต่อมาทั้ง 2 ก็ไปเที่ยวห้างและมีฝรั่งเมายามาไล่ยิงคนในห้าง ก่อนที่พระเอกของเราจะรักในความยุติธรรมไปจัดการคนร้าย (ตามในตัวอย่างเลย) พอคนร้ายระเบิดก็เหมือนประตูมิติเปิดคนไล่ฆ่ากันเอง ส่วนพระเอกเราก็ไปอยู่ที่นิวรณ์เขตแดนระหว่างนรกกับโลกมนุษย์ตามในเกม โดยมี Ancient One ที่ไม่ได้มาฝึกหมอแปลกแต่มาช่วยพระเอกเราไปหาครอบครัว ส่วนคุณแม่ก็ต้องพาลูกหนีตายจากฝูงซอมบี้มาที่โรงแรม เพื่อรอคุณพ่อกลับมานั่นคือเรื่องราวคร่าว ๆ ของเรื่องนี้

สำหรับคนที่ไม่รู้และสงสัยว่าเนื้อเรื่องของ Home Sweet Home Rebirth ทำไมไม่เอาในเกมมา ก็ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องของภาพยนตร์นั้นมาจากเกมในชื่อเดียวกันอย่าง Home Sweet Home Rebirth ที่ทางทีม Yggdrazil Group กำลังสร้าง (มั้งนะ) ซึ่งหลายคนไม่รู้เรื่องนี้ (รวมถึงผู้เขียนด้วย) พอเป็นแบบนั้นหลายคนที่รู้เรื่องแค่ในเกมหลัก 2 ภาคกับเกมออนไลน์ของ Home Sweet Home เลยไม่เข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นจึงขอตัดเรื่องที่ไม่ตรงในเกมออกไป เพราะตัวเกม Home Sweet Home Rebirth ที่เป็นเนื้อเรื่องในเกมยังสร้างไม่เสร็จ งั้นเรื่องที่จะด่าว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างไม่ตรงกับเกมก็คงจะว่าได้ครึ่งเดียว ว่าทำไมไม่เอาเนื้อเรื่องในเกม 3 ภาคหลักที่คนรู้จักมาสร้าง แต่กลับเอาเนื้อเรื่องในเกมที่สร้างไม่เสร็จมาสร้างเป็นหนัง คนที่เขาอยากเห็นเนื้อเรื่องในเกมก็ผิดหวังกันพอดี
คราวนี้มาดูตัวหนังกันบ้างเริ่มจากข้อดีของภาพยนตร์กันก่อน ตัวนักแสดงหลักในเรื่องทุกคนเล่นดีมาก ๆ สมมาตรฐานเล่นดีได้อารมณ์ โดยเฉพาะ ญาญ่า ที่เล่นได้ดีแบบสุด ๆ โดยเฉพาะนักแสดงชายตอนถอดเสื้อแบบหุ่นดีมาก ยกเว้นเหล่าตัวประกอบคนไทยที่เล่นได้หน้านิ่งแข็งมาก ๆ เหมือนเอาคนที่มายืนดูแถวนั้นมาถ่ายแบบไม่มีอารมร์ร่วมแบบสุด ๆ โดยเฉพาะเหล่าซอมบี้ (คนคลั่ง) ก็เล่นแข็งไม่สมจริงที่ดูแล้วแอบหงุดหงิด ตัวเนื้อเรื่องรวม ๆ ถือว่าโอเคที่เกี่ยวกับการเปิดประตูนรก ที่โชคชะตากำหนดเอาไว้ว่าพระเอกเราต้องเป็นคนเปิดและปิดมัน กับเรื่องราวการเอาตัวรอดของสองแม่ลูกที่สลับไปมาได้อย่างลงตัว ซึ่งตรงนี้ถือว่าโอเคในแง่ของตัวเนื้อเรื่อง แต่สิ่งที่ควรโดนด่าน่าด่าที่สุดก็อยู่ที่เนื้อเรื่องอีกนั่นละ เรามาดูกันทีละจุดกันเลยว่ามันน่าต่อว่าขนาดไหน

เริ่มตั้งแต่ฉากแรกที่ลูกสาวหายตัวไปที่เราพูดถึงตอนแรก ที่แบบแค่ลูกสาวเดินหายไปแถวตลาดน้ำ แต่เนื้อเรื่องกลับจริงจังวิ่งหาตื่นเต้นยังกับลูกถูกลักพาตัว ซึ่งเนื้อเรื่องตรงนี้ถูกทำมาเพื่อให้เรารู้จักพระมีคิ้วที่เอาผีเสื้อมาล่อเด็กให้มาหา อันนี้เข้าใจแต่ไม่ต้องตัดภาพให้ตัวละครตื่นเต้นก็ได้มันเว่อร์เกินความจำเป็นไป ต่อมาคือช่วงซอมบี้คนคลั่งที่ทำออกมาได้ไม่น่าสนใจเลย ยกตัวอย่างตอนที่ 2 แม่ลูกลงบันไดที่มีซอมบี้มาขวาง คนแม่เอาลูกใส่ไว้ระหว่างบันไดเลื่อนที่เป็นเหมือนสไลเดอร์ ส่วนแม่ก็ลงบันไดสู้ซอมบี้ไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นก็รู้สึกแปลกใจ ที่ว่าถ้าคุณแม่ส่งลูกลงสไลเดอร์ไปแล้วข้างล่างไม่มีซอมบี้หรอคุ๊ณแม๊ คิดได้ไงส่งลูกลงไปข้างล่างก่อน นี่ยังไม่นับตอนรถเมล์ตัวคุณแม่ต้องลงไปเอากุญแจรถอันนี้คือเข้าใจว่าผู้ชายไม่กล้า แต่พอคุณแม่จะขึ้นรถและถูกซอมบี้ดึง ชายบนนถเมล์ก็มาช่วยปกป้องคุณแม่ แต่พอคุณแม่ขึ้นรถมาได้เธอบอกคนขับว่า ออกรถเลยค่ะ คือไม่คิดช่วยลุงที่ช่วยคุณแม่หน่อยหรอ นี่ยังไม่นับตอนที่รถเมล์บอกจะเลี้ยวกลับทางเดิมทิ้ง 2 แม่ลูกเฉยคืองงมากฉากนี้

ยังไม่หมดยังมีฉากที่พระเอกกับพระมีคิ้วกำลังรีวิวิ่งเพื่อไปยังทางเปิดประตูมิติ ตอนนั้นพระเอกได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ พระมีคิ้วก็บอกว่าเราไม่มีเวลาแล้วต้องรีบไปนะ พระเอกเราก็ดึงดันจะไปช่วยคนให้ได้ พอช่วยเสร็จแทนที่จะไปต่ออย่างที่พระแกบอกว่ารีบ เปล๊า (เสียงสูง) ทั้งสองคนมานั่งคุยกันเฉย แล้วไหนท่านบอกว่ารีบไงทำไมตอนนี้มานั่งคุยกันเฉย หรือช่วยคนมันเสียเวลาแต่มานั่งคุยกันไม่เสียเวลา หรือจะเป็นตอนต่อจากนี้ที่ทั้งคู่เจอกับปีศาจอีกาปากเหล็ก ตอนนั้นพระมีคิ้วเราช่วยปกป้องต่อสู้อย่างดี พอสู้เสร็จปลอดภัยแล้ว พระแกคงเพิ่งจะคิดออกบอกว่าท่านมีปืนกับมีดที่ใช้สู้ปีศาจได้ อ้าวแล้วทำไมไม่เอามาให้ตั้งแต่ตอนนั้นละหลวงเพ่ !! ถ้าให้เร็วกว่านี้เราคงได้เห็นฉากต่อสู้สนุก ๆ แน่นอน และอีกหลายฉากที่ดูแล้วขัดใจแบบสุด ๆ

นอกจากนี้ตัวเนื้อเรื่องไม่สมเหตุสมผล ตัวร้ายแทนที่จะรุมพระเอกกลับยืนเต้นไปมารอบ ๆ พระเอก เหมือนกีกี้ในไอ้มดแดงที่รอกระทืบเรียงตัว กับกราฟิกผีที่ทำออกมาได้โดดไม่สมจริงเอาเสียเลย ไม่ว่าจะมองในมุมของหนังสยองขวัญหนังแอ็กชันหรือหนังจากเกมเรียกว่าสอบตกหมดทุกอย่าง ตัวหนังไม่สนุกดูไปลุ้นไปว่าจะจบตอนไหน ตัวร้ายอย่างกับถอดมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นที่เบียวจะครองโลกเพราะตำราที่ฝ่ายขาวเก็บไว้ ซึ่งถ้ามองในมุมของฝ่ายขาว ถ้าตำรานั้นมันสร้างหายนะได้ขนาดทำลายโลก ก็ควรทำลายมันทิ้งไปให้จบ ๆ หรือซ่อนเอาไว้ในที่ที่หาไม่เจอ ไม่ใช่วางเอาไว้บนโต๊ะให้คนหยิบไปง่าย ๆ แบบนี้ เรียกว่มีอะไรให้ด่าเยอะบอกเลย

และปิดท้ายก็ขอชมหน่อยในส่วนที่เหมือนในเกม นั่นคือประตูเลือดที่ผีใช้ข้ามมิติกับผีนางรำราตรีที่เหมือนในเกมมาก ๆ (มีผีราตรีร่าง 2 ด้วย) นอกนั้นคือไม่ใช่ไม่ตรงไม่เหมือนในเกมเลย โดยเฉพาะผีน้องเบลที่ผิดหวังสุด ๆ ทั้งในแง่หนังที่สร้างจากเกมและความเป็นหนังของตัวเอง ส่วนคะแนนขอให้ 4.5 เต็ม 10 ให้คะแนนนักแสดงกับโครางเรื่องหลักที่น่าสนใจเท่านั้น แถมยังทิ้งท้ายภาค 2 ด้วยนะ (แต่คิดว่าน่าจะไม่ได้ไปต่อ) ถ้าใครยังไม่ได้ดูหรือคิดภาพตามไม่ออกว่าภาค 2 จะเป็นยังไง ก็ให้คิดถึง DLC ของ Resident Evil Village แบบนั้นเลย ใครสนใจไปดูกันได้ที่โรงภาพยนตร์ ส่วนผู้เขียนขอรอบเดียวพอมายเกรนจะขึ้น