
มาถึงตอนที่ 4 กันแล้วกับจุดเริ่มต้นการเดินทางของ เอลลี่ และ ดีน่า ใน The Last Of Us ซีซัน 2 โดยในตอนก่อนหน้านี้เราจะได้เห็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของเรื่องในภาคนี้ นั่นคือการเดินทางแก้แค้นของเอลลี่ให้กับ โจเอล ที่ถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของ แอ๊บบี้ (จำชื่อนี้เอาไว้เพราะในช่วงต่อ ๆ ไปจะเป็นการเล่าเรื่องของเธอบ้าง) ซึ่งถ้าใครเล่นเกมมาแล้วจะทราบดีว่านี่คือเนื้อหาของเกมช่วงไหน ซึ่งจัดว่าเร็วมาก ๆ ถ้ามองในแง่ของซีรีส์ที่เล่าตามเกม เพราะในเกมเราต้องสำรวจหาทางไปต่อ แค่ฉากในร้านขายยากับร้านดนตรีก็ที่ซีรีส์เล่าไม่นาน แต่ในเกมเราอาจจะต้องวนอยู่ในฉากใหญ่ ๆ นี้เป็นชั่วโมงเพื่อหาของและทางไปต่อ โดยสิ่งที่น่าสนใจของซีรีส์ The Last Of Us ซีซัน 2 ตอนที่ 4 ก็มีอยู่พอสมควรเลย แถมยังเอาส่วนที่ไม่ได้เล่าในเกมมาขยายด้วย เรามาดูกันว่าในตอนนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย

เปิดเรื่องมาจะเป็นการย้อนอดีตเมื่อหลายปีก่อนที่ในซีรีส์ไม่ได้พูดถึง เกี่ยวกับกองกำลัง WLF (Washington Liberation Front) กับ Fedra สมัยที่การติดเชื้อเริ่มมาได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งสำหรับคนที่ไม่รู้ Fedra คือกลุ่มทหารที่ดูแลประชาชน ที่ที่เอลลี่กับโจเอลเคยอยู่ในซีซันแรก ส่วน WLF คือพวกทหารหนีทัพที่ทนการกดขี่ของ Fedra ไม่ไหวจนเกิดการต่อสู้กัน จนสุดท้าย WLF ก็ชนะแล้วยึดซีแอตเทิลเป็นฐานโดยการร่วมมือกันระหว่าง ไอแซค กับ แอนนา แฮนด์ ที่ต่อไปในอนาคตไอแซคจะเป็นผู้นำกองกำลัง WLF ส่วนแอนนา แฮนด์ก็กลายเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่เรียกตัวเองว่า Seraphites แต่ทาง WLF เรียก Seraphites เหยียด ๆ ว่าพวก Scars ซึ่งตรงนี้ในเกมไม่ได้พูดถึงว่าทั้งคู่เคยร่วมมือกันและมาแตกคอกันทีหลัง

ต่อมาสิ่งที่เราได้รู้เพิ่มเติม (แต่คนเล่นเกมรู้อยู่แล้ว) เกี่ยวกับ Seraphites คือพวกนี้คิดว่าทุกชีวิตนั้นเท่าเทียมกัน และพยายามให้มนุษยชาติสามารถดำรงชีวิตบนผืนดินได้อีกครั้ง โดยละทิ้งความสุขทางโลกและพึ่งพาเทคโนโลยีออกไป (เลยใช้แค่ธนูกับอาศัยแบบชาวป่า) นอกจากนี้ผู้นำทางจิตวิญญาณก็ยังเป็นนักสู้ที่สามารถเอาชนะผู้ติดเชื้อจำนวนมากและปกป้องชุมชนได้ และด้วยคำเทศนาที่สอนว่าการติดเชื้อ Cordyceps ในสมองเป็นการลงโทษที่เกิดจากบาปของมนุษย์เอง และเป็นโอกาสครั้งที่สองสำหรับมนุษยชาติในการไถ่บาปของตนเอง ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้สมาชิกในชุมชนจนทำให้เกิดศาสนา Seraphites ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งคนเหล่านี้ก็เชื่อและนับถือคำสอนแบบสุด ๆ ชนิดที่ยอมตายเพื่อปกป้องศาสนาเลยทีเดียว

และในตอนนี้คุณคงรู้แล้วว่าทำไมฝั่ง WLF ถึงไม่เผาผีพวก Seraphites ขนาดเด็กก็ฆ่าทิ้งแบบไม่ไยดี เพราะทางฝั่งพวก Seraphites เองก็โหดสลัดใช่ย่อย โดยทางฝั่ง Seraphites จะไม่จับตัวประกันแต่จะแขวนคอเหยื่อและกรีดท้องจนไส้ไหลจนตาย พร้อมกับแขวนศพประจานให้ WLF รู้ ซึ่งในเกมก็มีฉากกรีดท้องให้ดูด้วย ที่ถ้าใครเล่นเกมมาจะรู้ดีว่าฉากในสถานีโทรทัศน์นั้นโหดขนาดไหน รวมถึงฉากรถไฟใต้ดินที่เป็นการมัดรวมสองฉากมาใส่รวมกัน (ในเกมสองฉากนี้อยู่คนละที่กันเลย) ที่บอกเลยว่าลุ้นพอ ๆ กับตอนเล่นเกมเลยทีเดียว

ต่อมาคือฉากที่เอลลี่รู้ว่าดีน่าท้องส่วนดีน่าก็รู้ว่าเอลลี่นั้นถูกกัดไม่ติดเชื้อ ซึ่งในเกมจะต่างออกไปมาก ๆ ในฉากนี้ ในส่วนของเกมนั้นดีน่าจะรู้ว่าเอลลี่ไม่ติดเชื้อ ตอนที่หน้ากากเอลลี่แตกช่วงรถไฟใต้ดินไม่ได้โดนกัด ส่วนดีน่าที่บอกเอลลี่ว่าท้องตอนนั้นเอลลี่ดิ่งแบบสุด ๆ เรียกว่าด่าอุทานต่อว่าแรงมาก ๆ ไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้ แถมในตอนนี้ดีน่าจะป่วยเพราะอาการแพ้ท้องจนเดินทางต่อไม่ไหว ซึ่งนับจากตรงนี้ไปในเกมเราจะได้เล่นเป็นเอลลี่คนเดียวในการเดินทาง แต่ในซีรีส์จะเป็นการเอาดีน่าเพิ่มไปด้วย

คราวนี้ตัดมาที่เรื่องราวของเกมกับซีรีส์บ้าง ซึ่งถ้าใครเล่นเกมมาแล้วจะรู้ดีว่าในซีรีส์ได้ข้ามส่วนสำคัญมาก ๆ ไปหลายฉาก ซึ่งมันเกี่ยวกับสาเหตุที่เอลลี่ไปสถานโทรทัศน์ได้ยังไง รวมถึงการได้เจอหนึ่งในพวกของแอ๊บบี้ระหว่างทาง แต่ซึรีส์ก็เลือกจะตัดตรงนั้นไป ซึ่งถ้าให้เดาส่วนที่ว่ามาอาจจะถูกเล่าทีหลังก็ได้ แต่ถ้าถามว่ามันควรมีไหม เอาจริง ๆ ไม่มีก็ได้แต่ถ้ามีก็จะดีมาก ๆ รวมถึงการตัดส่วนของตัวละครที่จะปรากฏตัวในอนาคต ที่ซีรีส์เลือกจะเก็บเอาไว้ไม่บอกเราในตอนนี้ ซึ่งอันนี้ถือว่ารับได้ และถ้าใครได้เห็นฉากเล่นกีตาร์บอกเลยว่าฟินสุด ๆ เพราะมันตรงในเกมทั้งหมดชนิดที่เทียบฉากต่อฉากได้เลย

นั่นคือเรื่องราวต่าง ๆ ที่คนไม่เคยเล่นเกมควรจะรู้ว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง ซึ่งต่อไปจากนี้จะเป็นการเดินทางของเอลลี่กับดีน่าที่จะเจอกับพวก WLF ต่อด้วย Seraphites ที่ทั้งคู่ดันไปอยู่ตรงกลางระหว่างสงครามของทั้งสองฝั่งโดยไม่ตั้งใจ (เอลลี่บอกฉันฆ่าหมดทั้งสองฝ่าย) ซึ่งถ้าให้เดาในซีซันที่ 2 ช่วงแรกที่ออกมาน่าจะเล่าเฉพาะส่วนของเอลลี่ยิงยาวจนไปถึงศึกใหญ่ระหว่าง WLF กับ Seraphites ในอนาคต แล้วพอในซีซันที่ 2 ส่วนที่ 2 ก็จะเริ่มต้นย้อนกลับมาเล่าเรื่องราวของแอ๊บบี้ตั้งแต่ที่ฆ่าโจเอล ไปแล้วจนถึงศึก WLF กับ Seraphites เลย เพราะเนื้อหาจะมาบรรจบกันตรงนี้พอดี (อันนี้เดา) ซึ่งถ้า The Last Of Us ซีซัน 2 ตอนที่ 5 มาเมื่อไหร่เราจะเอามาพูดคุยกันอีกครั้งติดตามเอาไว้ได้เลย