
คุณเคยได้ยินมุกตลกที่บอกว่า "ตรูนอนตายของตรูอยู่ดีดีดี๊ไปขุดตรูขึ้นมาเผาซ้ำอีก" ประโยคนี้ใช้ได้เลยทีเดียวกับภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง Dragonball Evolution ที่พี่แกก็นอนตายนิ่ง ๆ ในหลุมอยู่ดี ๆ พอภาพยนตร์เรื่อง Snow White ออกฉายแล้วได้คะแนน IMDB ที่ต่ำมาก ๆ จนคนเอามาเปรียบเทียบกับ Dragonball Evolution ที่เรียกว่าต่ำแล้วภาพยนตร์ Snow White กลับต่ำกว่า จนทำให้หลายคนที่ลืมภาพยนตร์เรื่อง Dragonball Evolution ไปแล้ว ได้กลับมาฝันร้ายอีกครั้งกับความพยายามที่ไม่พยายามจะสร้างภาพยนตร์จากการ์ตูนระดับตำนานนี้ให้ดี และวันที่ 10 เมษายน 2025 ก็เป็นวันครบรอบ 16 ปีวันฉายภาพยนตร์ Dragonball Evolution ในอเมริกา เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้กันว่ามันแย่ขนาดไหนและแย่เพราะอะไรมาดูกัน
สำหรับคนที่ไม่รู้จักภาพยนตร์ Dragonball Evolution คือภาพยนตร์คนแสดง ที่อ้างอิงตัวละครเรื่องราวเนื้อหาที่มาจากมังงะอนิเมะในตำนานอย่างซีรีส์ Dragonball มานำเสนอในรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนเนื้อหาทุกอย่างที่คุณรู้จักในซีรีส์ Dragonball ปกติจะไม่มีอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย จะมีแค่ชื่อตัวละครเท่านั้นที่ตรงกัน โดยจะบอกเล่าเรื่องราวของเด็กชาย โกคู ที่เป็นนักเรียนธรรมดาที่อยู่กับปู่ พอไปโรงเรียนก็ถูกเพื่อนแกล้ง แต่เขาไม่สามารถตอบโต้ได้เพราะปู่สอนว่าห้ามใช้พลังในทางที่ผิด ขณะที่ราชาปีศาจพิโกโร่ก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับตามหาดราก้อนบอล โกคูที่มีลูกแก้ว 4 ดาวก็บังเอิญเอาดราก้อนบอลไปอวด จีจี้ คนที่ชอบในโรงเรียน (ใครเขาเอาลูกแก้วสีส้มไปอวดสาวกัน) พอราชาปีศาจพิโกโร่มาถึงก็จัดการฆ่าปู่โกคู ทางโกคูที่กลับมาบ้านเลยจะออกแก้แค่โดยเจอกับ บลูม่า ที่กำลังตามหาดราก้อนบอลพอดี การเดินทางต่อสู้กับราชาปีศาจพิโกโร่จึงเริ่มขึ้น นั่นคือเนื้อหาคร่าว ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้

พออ่านเรื่องย่อจบหลายคนคงจะบ่นว่า "นั่นมัน Dragonball ตรงไหน" ซึ่งคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่คนที่รู้จัก Dragonball ทั่วโลกพูดประโยคเดียวกัน เพราะทุกอย่างที่เราได้เห็นได้รู้จักในภาพยนตร์เรื่องนี้มันไม่มีความเป็น Dragonball อยู่เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว โดยเรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2002 ตอนนั้นทาง 20th Century Fox ได้ซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ Dragon Ball จาก Shueisha ผู้จัดพิมพ์ซีรีส์มังงะต้นฉบับ Dragonball โดยทาง Mark Schilling รายงานว่าอาจารย์ Toriyama ได้รับการว่าจ้างจาก 20th Century Fox ในฐานะที่ปรึกษาด้านความคิดสร้างสรรค์ (เป็นแค่ในนาม) โดยในการสัมภาษณ์กับ Asahi Shimbun เมื่อปี 2013 อาจารย์ Toriyama เปิดเผยว่า เขารู้สึกว่าบทภาพยนตร์ไม่ได้ใช้องค์ประกอบตัวเรื่องในมังงะของเขามาใช้เลย ตัวบททั้งจืดชืดและไม่น่าสนใจ อาจารย์เลยเสนอแนะให้เปลี่ยนแปลงบท แต่ผู้อำนวยการสร้างฮอลลีวูดไม่ได้ใส่ใจคำแนะนำของอาจารย์แก ผลลัพธ์คือภาพยนตร์ที่อาจารย์แกไม่สามารถเรียกว่าเป็น Dragon Ball ได้ด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่อาจารย์ Toriyama บอกกับสื่อในตอนนั้น

และในปี 2016 ครบรอบ 30 ปีใน Dragon Ball Chōshishū Super History Book อาจารย์ Toriyama ก็เขียนถึง Dragonball Evolution ว่า "ผมลืม Dragonball Evolution ไปเลยว่าภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันเรื่องนี้ทำให้ผมหงุดหงิดมากเพียงใด..." และในปีเดียวกัน Ben Ramsey คนเขียนบทภาพยนตร์ Dragonball Evolution ได้ออกมาขอโทษที่ไม่ได้ขอโทษแต่ก็ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "การที่มีชื่อของผมในฐานะคนเขียนบทมันเลยทำให้ผมถูกแฟน ๆ จากทั่วโลกด่า มันช่างช่วยหดหู่ใจจริง ๆ ผมได้รับอีเมลแสดงความเกลียดชังจากทั่วโลก ผมเริ่มต้นโครงการนี้เพราะเงินก้อนโต ไม่ใช่ในฐานะแฟนของแฟรนไชส์ Dragonball แต่ในฐานะนักธุรกิจที่รับมอบหมายงาน ผมได้เรียนรู้ว่าเมื่อคุณลงมือทำงานสร้างสรรค์โดยขาดความหลงใหล คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก และบางครั้งก็เป็นขยะ ดังนั้นผมจะไม่โทษใครสำหรับ Dragonball Evolution แต่ขอโทษผ่านตัวผมเองที่ทำงานนี้" นี่คือการขอโทษที่ไม่ได้ขอโทษแต่ก็ขอโทษของคุณ Ramsey

ภายหลังการเสียชีวิตของ Toriyama Akira เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2024 Justin Chatwin (คนที่แสดงเป็น โกคู) ได้แสดงความเสียใจพร้อมทั้งขอโทษสำหรับคุณภาพของภาพยนตร์ Dragonball Evolution นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Spike TV Scream Award ประจำปี 2009 ในสาขาภาพยนตร์จากการ์ตูนยอดเยี่ยม แต่ก็แพ้ให้กับ Watchmen (ก็สมควรแพ้) ส่วนทางเว็บไซต์ JoBlo.com ได้เสนอชื่อภาพยนตร์ Dragonball Evolution เข้าชิงรางวัล Golden Schmoes Awards ในประเภทภาพยนตร์ยอดแย่แห่งปี 2009 แต่แพ้ให้กับ Transformers Revenge of the Fallen ไปได้อย่างน่าเสียดาย นั่นคือเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์ Dragonball Evolution ที่เราหยิบมานำเสนอให้คุณได้รู้ ส่วนใครที่สนใจก็ลองไปหามาดูเองแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมแฟน ๆ Dragonball ถึงได้สาปส่งภาพยนตร์เรื่องนี้กัน