
แน่นอนว่าในช่วงนี้ในวงการเกมคงไม่มีอะไรจะถูกดึงดูดความสนใจ มากไปกว่าเครื่องเกมตัวใหม่ของทาง Nintendo อย่าง Nintendo Switch 2 ที่มีการเปิดตัวไปตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน (นี่ถ้าเปิดตัววันที่ 1 เมษายนคงฮากว่านี้) ที่มาพร้อมกับการเปิดตัวเกมใหม่ของทาง Nintendo เอง พร้อมสิ่งต่าง ๆ ที่เราจะได้รู้มากมายเกี่ยวกับ Nintendo Switch 2 ตัวนี้ แต่หนึ่งในสิ่งที่ทาง Nintendo เงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่พูดถึงและข้าม ๆ ไปนั่นคือเรื่องของ Joy-Con ของ Nintendo Switch 2 ที่ถ้าใครเคยมี Nintendo Switch รุ่นแรกน่าจะได้เจอสิ่งที่เรียกว่าจอยดริฟท์หรืออาการจอยค้างเดินเอง ซึ่งเป็นปัญหาบน Joy-Con ของ Nintendo Switch รุ่นแรก ที่พอมาถึง Nintendo Switch รุ่น 2 หลายคนก็คาดหวังว่ามันจะดีขึ้น แต่จนแล้วจนรอด Nintendo ก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้ จะมีแค่รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และการเผยแพร่ของ Nintendo of America ออกมาชม Joy-Con ของ Nintendo Switch 2 รัว ๆ อย่างเดียว
โดยเรื่องราวความเนียลไม่รู้ไม่พูดไม่เอ่ยถึงครั้งนี้ มาจากการสนทนาเชิงโปรโมทใน Nintendo Life กับรองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และการเผยแพร่ของ Nintendo of America คุณ Nate Bihldorff ได้ออกมาพูดถึง Joy-Con ของ Nintendo Switch 2 เมื่อถูกถามว่า "นักพัฒนาได้รับแรงบันดาลใจมาจากจอยสติ๊ก Hall Effect หรือไม่" คุณ Bihldorff ก็ตอบว่า "คอนโทรลเลอร์ของ Joy-Con 2 ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้น มันไม่ใช่จอยสติ๊กแบบ Hall Effect แต่ให้ความรู้สึกที่ดีจริง ๆ ผมพยายามใช้เวลาเป็นอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่ามันเงียบ ผมไม่รู้ว่าคุณลองขยับแท่งควบคุมจริง ๆ หรือเปล่า แต่ว่ามันเงียบจริง ๆ ผมนึกถึงสมัยเล่นเกม Smash Brothers ที่คุณแค่ขยับมัน Joy-Con 2 เป็นหนึ่งในคอนโทรลเลอร์ที่เงียบที่สุดที่ผมเคยเล่นมา"

โดยการพูดถึงครั้งนั้นไม่มีการกล่าวถึงการป้องกันหรือปฏิเสธการดริฟต์ของ Joy-Con บน Nintendo Switch 2 เลย แต่ Bihldorff ทางโดยกลับบอกว่า แท่งควบคุมด้านซ้ายและขวาของ Joy-Con บน Nintendo Switch 2 นั้นเงียบและไม่ส่งเสียงแม้จะขยับไปที่ขอบอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้แกน Joy-Con ยังเคลื่อนไหวได้นุ่มนวลมาก ๆ ซึ่งการตอบคำถามนั้นไม่ตรงกับสิ่งที่แฟน ๆ ต้องการเลย โดยบางคนบอกว่าในฐานะที่ต้องเปลี่ยน Joy-Con สามตัวเนื่องจากอาการดริฟท์ พวกเราไม่สนใจหรอกว่า Joy-Con แบบใหม่จะเงียบแค่ไหน และไม่มีใครบ่นเรื่องเสียงดังของ Joy-Con เลย เราแค่ต้องการรู้ว่าปัญหาการดริฟท์ได้รับการแก้ไขแล้วหรือยัง และทำไมทำไม Nintendo จึงไม่ใช้เทคโนโลยี Hall Effect ในการแก้ไขปัญหานี้ ทั้งที่คอนโทรลเลอร์ของบริษัทอื่นจำนวนมากได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้แล้ว

มาถึงตรงนี้คงต้องมารอดูกันว่าทาง Nintendo จะยังแก้ปัญหาการดริฟต์ของ Joy-Con บน Nintendo Switch 2 รึเปล่า คงต้องมารอลุ้นกันตอนเครื่องวางจำหน่าย และถ้าจำไม่ผิดในบทสัมภาษณ์หนึ่งของประธาน Nintendo ในอดีตเคยบอกว่า ทาง Nintendo จะไม่ขายเครื่องเกมแพงเกินไปแต่จะเน้นขายเกม (แต่ตอนนี้ดูจะขายเครื่องแพงส่วนเกมก็ขายแพงด้วย) ส่วนเครื่องเกมเราก็จะเลือกใช้วัสดุที่ถูกที่สุดในการสร้างเพื่อลดต้นทุน และการที่จอย Joy-Con ของ Nintendo Switch พังง่ายอาจจะเป็นหนึ่งในการตลาดของ Nintendo ก็ได้ใครจะรู้