
เรียกว่าเดือดระอุปุด ๆ เป็นกาต้มน้ำร้อนกลางแดดเดือนเมษายนกันเลยทีเดียว กับวงการเกมและวงการภาพยนตร์ ที่เหมือนทั้งสองเรื่องนี้เหมือนจงใจนัดกันมา (บังเอิญแหละ) ทั้งการเปิดเผยคะแนนรอบสื่อของเกม Assassin's Creed Shadows ที่มีประเด็นกระแสให้พูดถึงตั้งแต่ที่เกมเปิดตัวออกมา เรียกว่าคนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด กับอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่มีกระแสด้านลบตั้งแต่ที่ประกาศนักแสดงแล้วอย่าง Snow White ที่ตั้งแต่ตัวภาพยนตร์มีภาพหลุดออกมา จนตัวอย่างออกฉายก็ได้รับเสียงตอบรับทางลบแบบรัว ๆ และดราม่าก็มาถึงจุดสูงสุดเมื่อถึงเวลาที่สื่อต่าง ๆ ของทั้งสองเรื่องนี้ปล่อยคะแนนออกมา ซึ่งเป็นเป็นไปในทางบวกอย่างไม่น่าเชื่อ ผิดกับกระแสที่มีก่อนหน้านี้ที่โหมมารัว ๆ จนทำให้หลายคนสงสัยว่าสื่อต่าง ๆ ของทั้งสองฝั่งนี้รับเงินหรือการสนับสนุนมารึเปล่า ขณะที่อีกฝ่ายก็ด่าคนที่ต่อต้านว่าหลอน Woke เกินไปผลงานมันดีจริง ๆ ควรมองข้ามเรื่องนี้ไปได้แล้ว จนเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาในวงการทั้งสองสื่อตอนนี้

สำหรับคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของการถูกด่าของฝั่งเกมอย่าง Assassin's Creed Shadows กับฝั่งภาพยนตร์ Snow White เรามาดูดราม่าของทั้งสองเรื่องนี้กันว่ามันมาจากอะไร เริ่มจาก Assassin's Creed Shadows ที่ถ้าใครไม่รู้จัก เกมนี้คือเกมที่เราจะได้เล่นเป็นคนในยุคปัจจุบัน (อนาคตข้างหน้าของเรา) ที่สามารถย้อนอดีตผ่าน DNA ของคนในยุคอดีต เพื่อไปค้นหาไอเทมที่มนุษย์ต่างดาวทำเอาไว้ ซึ่งคราวนี้จะเป็นการย้อนอดีตไปสมัยญี่ปุ่นโบราณที่จะมีตัวเอก 2 คน นั่นคือนินจาสาวชาวญี่ปุ่น กับชายผิวดำที่เป็นซามูไร ซึ่งตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจริง ๆ ก็เคยมีคนผิวดำอยู่จริง ๆ ซึ่งปัญหามันอยู่ตรงนี้ เมื่อทางค่ายเกมเอาตัวละครผิวดำมากระทืบไล่ฆ่าคนญี่ปุ่นอันนี้ว่าแย่แล้ว แต่ทั้งฉากวัฒนธรรมเนื้อหาต่าง ๆ กลับผิดเพี้ยนไม่มีความเป็นญี่ปุ่นเลย นี่ยังไม่นับการไปจ้างนักประวัติศาสตร์ที่ไม่รู้จริงมาช่วยทำเกม และประเด็นดราม่าอีกหลายอย่างที่คนญี่ปุ่นด่า ที่ถ้าให้เขียนแบบเต็ม ๆ คงยาวมาก ๆ สรุปสั้น ๆ คือตัวเกมมีประเด็นความไม่เหมือนไม่ใช่และไม่ตรงความเป็นญี่ปุ่นเลย
ต่อมาคือ Snow White ที่เริ่มมีกระแสมาตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวนักแสดงอย่าง เรเชล ซีเกลอร์ ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนเธอก็ไม่มีความเหมือน Snow White ตามในการ์ตูนที่เคยดูมาเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ The Little Mermaid ก็เคยมีกระแสต่อต้านไปแล้ว พอมาถึงคิว Snow White ก็เป็นรายต่อไป และแทนที่ทำให้กระแสต่อต้านเป็นประเด็นให้ถูกโจมตีก็คือความปากแจ๋วปากแซบของเรเชล ที่ออกมาด่าว่าตัวละคร สโนว์ไวท์ ว่าเป็นผู้หญิงหัวอ่อนที่ร้องหาแต่ความรักจากผู้ชายที่เธอไม่ชอบ นอกจากนี้เธอยังโพสต์ด่าเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งการเมืองและสิ่งต่าง ๆ อีกเพียบ แถมก่อนหน้านี้ก็มีภาพหลุดออกมาว่าจะไม่คนมีแคระทั้ง 7 ตามต้นฉบับ แต่จะเป็นความหลากหลายทั้ง 7 แทน (ความหลากหลายทางเพศภาษาเชื้อชาติ) ก่อนจะถูกต่อต้านจนต้องเปลี่ยนมาเป็นคนแคระตามต้นฉบับ และเลื่อนฉายมาถึงตอนนี้ที่บอกเลยว่ามีเรื่องประเด้นดราม่าพอ ๆ กับ Assassin's Creed Shadows เลยทีเดียว
เอาละเมื่อเข้าใจตรงกันแล้วคราวนี้เรามาดูคะแนนที่สื่อ (ต่างประเทศ) ให้เกี่ยวกับเกมและภาพยนตร์เรื่องนี้กัน เริ่มจากฝั่ง Assassin's Creed Shadows ก่อนซึ่งคะแนนจากนักวิจารณ์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 81 คะแนนจาก Open Critic และ 82 คะแนนจาก Metacritic โดยทาง George Foster บรรณาธิการข่าวหลักให้คะแนน Assassin's Creed Shadowsไป 4/5 โดยอธิบายว่าเป็น "เป็นการกลับมาสู่ฟอร์ม แม้ว่า Assassin's Creed Shadows จะซ้ำซากและยืดเยื้อจนทำให้ช่วงท้ายเกมน่าเบื่อกว่าส่วนอื่น ๆ ของเกม แต่แนวทางที่กล้าหาญในการสำรวจในโลกที่สวยงาม เรื่องราวส่วนตัวที่ซาบซึ้งใจ และการปรับเปลี่ยนสูตรสำเร็จที่น่าพอใจยังคงทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในเกมโปรดของผมจนถึงตอนนี้ แม้ว่าจะไม่มีใครบอกได้ว่า Shadows จะเป็นเกมยอดนิยมตลอดกาลของ Ubisoft หรือไม่ แต่ผมสามารถพูดได้เลยว่าเกมนี้คุ้มค่าแก่เวลาของคุณมาก"
ส่วนทาง Game Rant ก็ให้คะแนน 9/10 "ในตอนที่เครดิตของ Assassin's Creed Shadows ขึ้น เกมนี้ก็ได้แซงหน้า Odyssey และ Black Flag และกลายมาเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์นี้ไปในทันที และเพียงแค่คิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 40 ชั่วโมงเพื่อทำทุกสิ่งที่เกมมีให้ให้สำเร็จ ก็จะทำให้แฟน ๆ พร้อมที่จะดำดิ่งสู่การผจญภัยอีกครั้ง" ส่วนสื่อที่ให้คะแนนน้อยสุดอย่าง DualShockers ให้คะแนน 5.5/10 บอกว่า "Assassin's Creed Shadows เป็นเกมที่มีภารกิจมากมายแต่มันช่างน่าเบื่อหน่าย แถมเนื้อหาก็ซ้ำซากจำเจจนคุณอาจจะเบื่ออย่างรวดเร็ว ในอนาคตควรสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ แทนที่จะนำเกมที่เคยเล่นในสถานที่ต่าง ๆ มาทำใหม่ ซึ่งมีเกมแนวโอเพ่นเวิลด์อื่น ๆ ที่มีฉากหลังคล้ายกันที่คุ้มค่าแก่เวลาเล่นมากกว่าเกมนี้"

คราวนี้มาดูฝั่งภาพยนตร์ Snow White กันบ้างเริ่มจากทาง Crooked Media บอกว่า "แม้ว่าดิสนีย์จะโดนรุมกระทืบทางอินเทอร์เน็ต แต่การรีเมคสโนว์ไวท์กลับประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ Rachel Zegler เป็นดาราดังตัวจริง เพลงใหม่ส่วนใหญ่ติดหูและร้องได้ไพเราะ ส่วนภาพก็สวยงามและมีชีวิตชีวา Gal Gadot สวมชุดราตรีสวยงาม ส่วนคะแนนที่ให้คือ 3.5/5 คะแนนเต็มเป็นของภาพยนตร์ Cinderella ซึ่งเป็นรีเมคที่ฉันชอบที่สุด แต่ฉันคิดว่าเรื่องนี้อยู่ในระดับเดียวกับThe Little Mermaid" ส่วนทางนิตยสาร Film Hound บอกว่า "ฉันอาจจะเสียใจที่พูดแบบนี้ แต่ SnowWhite เป็นหนังที่ยอดเยี่ยม ฉันสนุกกับเพลงประกอบมาก โดยเฉพาะเพลงเปิดเรื่องและเพลงแดนซ์อันชั่วร้ายของราชินี Zegler เล่นบทนำได้ยอดเยี่ยม และ Gadot ก็เล่นได้สนุก แต่คนแคระที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกต่างหากที่ทำให้หนังเรื่องนี้ผิดหวัง"
และทาง Christopher Rates It ก็บอกว่า "เป็นความประหลาดใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2025 ก็คือ ภาพยนตร์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง และเป็นที่เกลียดชังมากที่สุดแห่งปีกลับเป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่ดี ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันรีเมคที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเวทมนตร์ของภาพยนตร์ในปี 1937 ออกมาได้อีกด้วย Rachel Zegler รับบทเป็น Snow White และเธอแสดงได้อย่างมหัศจรรย์ เพลงประกอบนั้นน่าจดจำนั้นชวนหลงใหล และบทภาพยนตร์ของ Erin Cressida Wilson ก็ทำให้โลกนี้มีความลึกซึ้งขึ้น"

นี่เป็นแค่บางส่วนของสื่อทั้งหมดที่เรารวบรวมมาให้ได้อ่านกัน ซึ่งเกือบทั้งหมดเท่าที่อ่านมาต่างก็ชมว่า Assassin's Creed Shadows เป็นเกมที่ดี Snow White เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งในฐานะของคนที่ไม่ได้เล่นและไม่ได้ดูทั้งสองสิ่งนี้จึงไม่ขอออกความเห็นใด ๆ ในส่วนนี้ แต่สิ่งที่บทความนี้เอามานำเสนอไม่ใช่เพื่อการชี้นำเพื่อจะบอกว่าสื่อไม่เป็นกลางสื่อรับเงินแต่อย่างใด แต่เราต้องการจะบอกว่าบางทีสิ่งที่อยู่ในเกมกับภาพยนตร์เรื่องนี้ มันอาจจะสนุกจะดีจริงก็ได้ อย่าง Assassin's Creed Shadows ตัวเกมอาจจะเล่นสนุกกว่าภาคก่อน ๆ ส่วน Snow White นักแสดงก็เล่นได้ดีบทที่ถูกเปลี่ยนก็โอเคไม่น่าเกลียดก็ได้ ซึ่งสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ถ้าอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไรก็ไปหามาเล่นมาดูเอง ตอนดูตอนเล่นก็วางอคติลงไปก่อนแล้วทำตัวเป็นกลาง คุณอาจจะเห็นมุมมองที่น่าสนใจแบบที่สื่อมองก็ได้ใครจะรู้