
เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นรูปปกและคำจั่วหัวของข่าวนี้ ทุกคนคงจะคิดและมองไปทางเดียวกันว่าทาง Naughty Dog ดูจะมั่นหน้ามั่นโหนกอะไรเบอร์นั้น กับเกมใหม่ล่าสุดของค่ายอย่าง Intergalactic The Heretic Prophet (ชื่อเกมยาวเกินไปไหมเพ่) ที่เคยมีผลงานขึ้นหิ้งแต่ก็ถูกสาปส่งจากแฟนเกทอย่าง The Last of Us ทั้ง 2 ภาค และแทนที่จะทำภาคที่ 3 ตามที่แฟน ๆ เรียกร้องต้องการ แต่ทางทีมพัฒนาบอกไม่เราจะไม่ทำตามที่แฟน ๆ ต้องการ แต่เราจะทำเกมใหม่ขึ้นมาโดยอ้างอิงจักรวาลยุค 80 ทั้งบรรยากาศเพลงและเทคโนโลยี บวกกับความสวยงามของผู้หญิงที่ไม่มีจริงบนโลกใบนี้ แต่ทุกคนคือคนสวยในแบบของตน จนรวมออกมาเป็นเกมนี้ ที่พอตัวอย่างแรกของเกมถูกปล่อยออกมาแฟน ๆ ต่างก็แห่ไปชื่นชมที่มีคนกดไม่ชอบไปกว่า 2 แสนครั้ง (ตอนนี้น่าจะเกินและ) แต่ทาง Naughty Dog ก็บอกว่าเรามั่นใจว่าเกมชื่อยาว ๆ นี้จะขายดี และเราจะทำมันเป็นแฟรนไชส์ไปสื่ออื่น ๆ แบบยาว ๆ อีกด้วย
โดยเรื่องราวความมั่นในครั้งนี้มาจากการออกมาพูดถึงของทาง Naughty Dog ผ่านสื่อว่า ทางค่ายต้องการให้เกม Intergalactic The Heretic Prophet เป็นแฟรนไชส์ที่ออกไปตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งทางค่ายก็พิจารณาจากความสำเร็จล่าสุดของสตูดิโอจากซีรีส์ The Last of Us ทางช่อง HBO ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่เกมอื่น ๆ ของค่ายจะถูกนำไปทำเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ทางทีวีอีก อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากผลงานเกมของ Naughty Dog ที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และคนเล่น (บางกลุ่ม) สตูดิโอจึงได้วางรากฐานสำหรับ ภาคต่อ Intergalactic The Heretic Prophet ไว้แล้ว เรียกว่างานนี้กินยาว ๆ กับซีรีส์นี้อย่างแน่นอน

สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เกม Intergalactic The Heretic Prophet จะเป็นเกมแอคชั่นผจญภัยบุคคลที่สาม ที่เน้นการต่อสู้ระยะประชิดด้วยอาวุธคล้ายดาบเลเซอร์ ที่ดำเนินเรื่องในอนาคต 2,000 ปีข้างหน้า โดยจุดเด่นจุดขายคือเทคโนโลยีแบบภาพยนตร์การ์ตูนอนาคตยุค 80 มาเป็นแรงบันดาลใจ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของ จอร์แดน เอ. มุน นักล่าเงินรางวัลในอวกาศ ที่ทำภารกิจปราบกลุ่มอาชญากร ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันดันทำให้เธอติดอยู่บนดาวเคราะห์ลึกลับชื่อ เซมพิเรีย นั่นคือเรื่องราวคร่าว ๆ ของเกมนี้ที่เราได้รู้

แต่ปัญหาจริง ๆ ที่หลายคนต้องมองบนไม่ใช่เพราะตัวเกม ระบบการเล่นหรือเนื้อหาที่ปล่อยออกมา แต่สิ่งที่แฟน ๆ จะมีปัญหามากที่สุดคือความ Woke ของเกมนี้ ที่เราก็ทราบดีว่าตัวเกม Intergalactic The Heretic Prophet ถูกพัฒนาในช่วงที่กระแส Woke กำลังมาแรง และในตอนนั้นก็ยังไม่มีคนต่อต้านเท่าตอนนี้ ทางค่ายเกมจึงคิดว่าถ้าเราเอาใจตลาดส่วนนี้ และคิดว่าถ้าทำแบบนี้เกมน่าจะขายดี แต่เมื่อดูจากเกม Concord ที่ออกไปทาง Woke สุดติ่งกับตัวละครที่ไม่ดึงดูดแม้ตัวเกมจะดีมาก ๆ ก็ตาม มันก็ไม่ช่วยให้เกมนี้อยู่รอดไปได้ และถ้าใครจำได้ตอนที่เกม Concord โปรโมททางทีมพัฒนาก็คิดจะทำเกมนี้เป็นแฟรนไชส์กินยาว ๆ แต่สุดท้ายตัวเกมก็มีอายุน้อยกว่าชีวิตยุงลายเสียอีก พอเป็นแบบนี้หลายคนเลยมองกันว่าตัวเกม Intergalactic The Heretic Prophet ที่ออกมาทางนี้จะไปรอดรึเปล่าเมื่อเกมวางจำหน่าย

และไอ้ความมั่นอกมั่นใจนี้มันจะกลายมาเป็นดาบที่มาทิ่มทาง Naughty Dog เองรึเปล่านั้นคงต้องมารอดูกัน เพราะสมัย The Last of Us 2 ถ้าใครจำได้ในตอนนั้นเกมนี้ก็ Woke แบบสุด ๆ แค่ในตอนที่เกม The Last of Us 2 วางจำหน่าย กระแสตื่นรู้ยังไม่แรงเท่ากับตอนที่ Concord วางขาย และพอตัวอย่าง Intergalactic The Heretic Prophet ออกมาก็ถูกกระแสตีกลับ แต่ทางทีมพัฒนาก็ยังคงมั่นใจว่าเกมตัวเองต้องขายดีขายได้อย่างแน่นอน เรื่องนี้คงต้องมารอดูกันต่อไปว่ามันจะออกมาอีท่าไหน แฟน ๆ เกมทั่วโลกจะเป็นตัวตัดสินเองเมื่อเกมวางจำหน่าย