
ถ้าเปรียบเกม Overwatch 2 เหมือนดาราคนหนึ่งในวงการบันเทิง เราคงจะได้เห็นช่วงชีวิตของเกม Overwatch ที่ผ่านจุดสูงสุดในชีวิต ที่เรียกว่าหันไปทางไหนก็มีแต่คนเล่นเกมและพูดถึงแต่เกมนี้ แถมยังได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมายไปจนถึงการสร้างสินค้าของเกมที่ก็ขายดีขายดิบเหมือนแจกฟรี จนเวลาผ่านไปเกม Overwatch ก็เสื่อมความนิยมเพราะตัวของมันเองจนคนเล่นค่อย ๆ หายไป แต่เกม Overwatch ก็ยังอยู่ได้ไม่ล้มหายตายจากไปจากวงการเกม จนมาถึง Overwatch 2 ที่มีการเพิ่มตัวเลขและเปลี่ยนหลาย ๆ อย่างเข้ามาจนเกมเริ่มจะดีขึ้น แต่ก็มีคู่แข่งรายใหญ่เข้ามาทำให้ Overwatch 2 ต้องปรับตัวและฟังเสียงแฟน ๆ มากขึ้น และล่าสุด Overwatch 2 ได้มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่นั่นคือการตัดโหมด Clash ออกจากโหมดแข่งขันจัดอันดับ ตามเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ ที่ไม่ค่อยชอบโหมดนี้

สำหรับคนที่ไม่รู้จักถ้าจะอธิบายแบบง่าย ๆ ของโหมด Clash มันก็คือการแข่งกันยึดจุดต่าง ๆ ของทั้ง 2 ทีม ที่เราต้องต่อสู้เพื่ออยู่ในจุดนั้นจนครบเวลา เมื่อครบและยึดจุดนั้นได้ก็จะย้ายไปจุดต่อไป โดยจะสลับกลับไปกลับมาในฉาก ที่พอทีมเกมยึดจุดกลางได้ก็จะขยับไปฝั่งทีมบี แต่พอทีมบียึดจุดได้ก็จะขยับมาที่จุดตรงกลางที่เพิ่งเล่นไปก่อนหน้านี้ (งงไหมใครงงไปอ่านอีกรอบ) ใครสามารถยึดจุดได้มากกว่าตามที่เกมกำหนดก็จะชนะ โดยทางคุณ แอรอน เคลเลอร์ ผู้อำนวยการเกม Overwatch 2 ยืนยันว่า โหมดเกม Clash จะถูกลบออกจากการแข่งขันในโหมด Quick Play และ Competitive เพราะมันมีปัญหาอยู่บ้างในบางการแข่งขัน

โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทีมงานลบโหมดนี้ออก เพราะการแข่งขันบางครั้งตัวเกมมันดำเนินไปอย่างรวดเร็วกว่าการแข่งขัน Overwatch ทั่วไป และผู้เล่นบางคนก็สับสนว่าจะต้องไปจุดไหนต่อ และบางทีก็งงว่าทำไมต้องย้อนกลับมาจุดที่เพิ่งผ่านไป พอได้รับเสียงเรียกร้องจากคนเล่นมากเข้า ทาง Blizzard จึงลบโหมด Clash ออกจากโหมดการแข่งขัน Overwatch 2 เสียเลย โดยการตัดนี้จะเริ่มในฤดูกาลที่ 15 ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่มาถึง เพื่อให้ทีมงานใช้เวลาในการดูแผนที่เหล่านี้เพื่อหาทางแก้ไขใหห้มันเล่นสนุกขึ้นต่อไป

เมื่อมีข่าวนี้ออกมาแฟน ๆ บางส่วนก็ไม่ค่อยเห็นด้วยและคิดว่าโหมด Clash แม้จะดูงง ๆ สำหรับผู้เล่นใหม่ แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปมันก็ไม่ได้เข้าใจยากอะไรขนาดนั้น แถมบางเกมก็จบเร็วมาก ๆ ถ้าอีกฝ่ายเก่งกว่า แบบไล่ยึดไปเรื่อย ๆ ต้อนจนอีกฝ่ายจนมุม หรือถ้าทีมไหนมีฝีมือพอ ๆ กันก็จะแข่งกันยึดไปมาที่เล่นแล้วสนุก แต่ผู้เล่นส่วนมากกลับไม่ค่อยชอบ ขณะที่บางส่วนก็บอกว่าถ้าโหมดที่ควรเอาออกจริง ๆ น่าจะเป็นโหมด Flashpoint มากกว่าที่มันเล่นไม่ค่อยสนุก ซึ่งนั่นก็แล้วแต่ความคิดของคนเล่นที่ต่างกัน

และนอกจากนี้ก็มีข่าวว่าทาง Overwatch 2 จะเอาโหมด 6V6 ให้อยู่แบบถาวรเพราะมันได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ซึ่งทาง Overwatch 2 ก็ยังไม่ได้ยืนยันหรือบอกชัด ๆ ว่าโหมด 6V6 นั้นจะไปอยู่ตรงไหนของเกม แต่แฟน ๆ ก็คาดหวังให้โหมด 6V6 นี้มาอยู่ Competitive คู่กับ 5V5 ไปเลยจะดีไม่น้อยเลย ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไป ซึ่งเอาจริง ๆ การขยับเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Overwatch 2 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาใจแฟน ๆ มากขึ้น ซึ่งถ้าตัวเกมทำได้ดีทำถูกจุดก็อาจจะเรียกแฟนเก่า ๆ กลับมาก็ได้คงต้องมารอดูกันต่อไปในอนาคต