
"จนกว่าเราจะพบกันใหม่" ประโยคสั้น ๆ แต่ได้ใจความที่ชัดเจนจากอาจารย์นักเขียนมังงะชื่อดังอย่าง มหาเวทผนึกมาร Jujutsu Kaisen ที่บอกเล่าเรื่องราวของตนเกี่ยวกับตอนที่เขียนมังงะเรื่องนี้ในช่วงสุดท้ายว่าเป็นอย่างไร ผ่านมังงะเล่มที่ 30 ของ Jujutsu Kaisen ที่กำลังจะวางจำหน่ายเป็นของขวัญปีใหม่ให้แฟน ๆ ที่ติดตามอ่านมาตลอด 29 เล่มจะได้สะสมครบชุดบนชั้นหนังสือ ซึ่งถ้ามันเป็นแค่เล่มจบของมังงะทั่วไปเราคงไม่หยิบเอามาพูดถึง แต่สิ่งที่น่าสนใจของมังงะเล่มสุดท้ายนี้ คือการพูดถึงความยากลำบากของตัวอาจารย์ อาตากุมิ เกะเงะ หรือที่เรารู้จักในชื่ออาจารย์หุ่น ที่แกได้ระบายความรู้สึกหลาย ๆ อย่างที่เราไม่รู้ผ่านข้อความในมังงะเล่มสุดท้ายนี้

โดยเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยจากผู้ใช้ X นามว่า Myamura (มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า) ได้แปลสิ่งที่อาจารย์หุ่นเกะเงะบอกแฟน ๆ เอาไว้เป็นภาษาญี่ปุ่นในมังงะ Jujutsu Kaisen เล่มที่ 30 ที่มีการพูดถึงบทส่งท้ายของอาจารย์ที่จะมีแค่ในนฉบับรวมเล่มของญี่ปุ่นเท่านั้น โดยในบทส่งท้ายที่ถูกแปลออกมานั้น อาจารย์ได้กล่าวถึงประสบการณ์ของเขาในการสร้างซีรีส์มังงะเรื่องนี้ ตลอดจนการลงพิมพ์เป็นตอน ๆ และดัดแปลงเป็นอนิเมะจนถึงมังงะจบตัวลง ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟน ๆ บางส่วนที่ไม่โอเคกับตอนจบ ซึ่งอาจารย์แกก็ทราบเรื่องนี้ดี โดยหนึ่งในบทส่งท้ายก็พูดถึงเรื่องนี้ด้วย
ซึ่งเราจะไม่ขอแปลมาทั้งหมดแต่จะเอาส่วนสำคัญ ๆ ที่อาจารย์แกพูดถึงตอนที่วาดมังงะเรื่องนี้มาให้เราได้ทราบกัน เริ่มจากตัวอาจารย์แกเองก็แปลกใจมาก ๆ ว่าที่มังงะเรื่องนี้จะโด่งดังได้ขนาดนี้ ซึ่งไม่ใช่แค่ในประเทศญี่ปุ่นแต่ในต่างประเทศซีรีส์ Jujutsu Kaisen ก็โด่งดังไม่แพ้กัน ซึ่งอาจารย์ใช้คำว่า โด่งดังอย่างรวดเร็ว อาจารย์แกเลยพยายามรักษาโมเมนตัมความสนุกของเนื้อเรื่องให้คงที่เวลาหกปี ซึ่งอาจารย์ก็บอกว่าตั้งแต่ที่ซีรีส์โด่งดังเป็นที่จับตา ในแต่ละสัปดาห์เพื่อสร้างตอนใหม่ของ Jujutsu Kaisen มันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดแถมกดดันแบบสุด ๆ (อาจารย์เน้นย้ำตรงจุดนี้มาก ๆ)

ซึ่งอาจารย์เกะเงะบอกว่าการเขียนงานรายสัปดาห์มันส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของอาจารย์เป็นอย่างมาก คำอธิบายนี้สอดคล้องกับเรื่องราวทั่วไปที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตที่เคร่งเครียดของนักวาดการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ในกรณีของอาจารย์เกะเงะจะต่างออกไป ตรงที่แกต้องแบกความคาดหวังของแฟน ๆ ในแต่ละตอนว่าต้องการเนื้อเรื่องแบบไหนออกมาอย่างไร มันจึงเป็นความกดดันที่เลวร้ายกว่านักเขียนคนอื่น ๆ และอาจารย์ก็ยอมรับว่าแกเขียนงานตามสัญชาตญาณมาหลายปี มันเลยทำให้ซีรีส์นี้ต่างไปจากมังงะรายสัปดาห์เรื่องอื่น ซึ่งบางทีมันก็ขัดกับมาตรฐานของ Sonen Jump
อีกสิ่งที่อาจารย์ออกมาบอกเรานั่นคือ ความกดดันจากกองบรรณาธิการ ที่พูดถึงเสียงตอบรับของแฟน ๆ ที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสมาธิของอาจารย์แก โดยอาจารย์บอกว่าแกมักจะขาดสมาธิที่ส่งผลให้บางครั้งอาจารย์แกก็ทำผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ และในหลาย ๆ ครั้งแกก็เริ่มหงุดหงิดกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะกองบรรณาธิการ ที่ต้องให้แก้ไขหรือเสนอแนะสิ่งที่ถูกใจคนอ่าน จนมันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของอาจารย์ที่เราได้เห็นในช่วงท้ายของเรื่อง

สุดท้ายอาจารย์ก็ขอบคุณทีมงานไม่ว่าจะเป็นกองบรรณาธิการกับเหล่าผู้ช่วย ที่อดทนและคอยสนับสนุนที่ถ้าไม่มีพวกเขา Jujutsu Kaisen ในช่วงท้ายคงเสร็จไม่ทันเวลาอย่างแน่นอน อาจารย์แกบอกว่า "ฉันยอมรับว่าความโกลาหลในที่ทำงานทั้งหมด มาจากการกระทำของตัวเอง ซึ่งมันส่งผลกับซีรีส์ในช่วงท้าย และมันคงจะจบได้เลวร้ายกว่านี้อย่างแน่นอน" มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะเข้าใจอาจารย์แกมากขึ้น และคงต้องยอมรับตอนจบที่อาจารย์เขียน ว่ามันคือสิ่งที่อาจารย์แกต้องการ โดยสิ่งที่นักอ่านต้องการตอนนี้คืออยากให้อาจารย์แข็งแรงและเขียนงานใหม่ออกมาเร็ว ๆ แฟน ๆ ทุกคนรอสนับสนุนอยู่ "จนกว่าเราจะพบกันใหม่ Akutami Gege"