
เรียกว่าเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่ประจำปลายปี 2024 กันเลยทีเดียว แถมเป็นข่าวใหญ่ทั้งของวงการเกมและฝั่งอนิเมะมังงะ กับการประกาศการซื้อกิจการของของ Sony ที่ขอซื้อบริษัท Kadokawa ที่ทางฝั่งวงการเกมเราน่าจะรู้จักในชื่อค่ายเกม FromSoftware ที่สร้างเกมระดับตำนานอย่าง Bloodborne กับ Elden Ring ส่วนฝั่งมังงะอนิเมะทาง Kadokawa ก็มีทั้งอนิเมะชื่อดังและมังงะขายดีในเครือมากมายอย่างอนิเมะ Sword Art Online, Oshi no Ko หรือ Re: Zero เรียกว่าถ้า Sony ซื้อ Kadokawa จะเหมือนเสือติดปีกฝั่งเอเชียเลยทีเดียว เพราะได้ทั้งเกมอนิเมะมังงะแบบครบวงจรความบันเทิงในมือ จึงไม่แปลกที่มันจะเป็นข่าวใหญ่ โดยตอนนี้ทาง Sony ได้ยืนยันว่าการขอซื้อ Kadokawa นั้นคือเรื่องจริง

ซึ่งถ้าใครที่ติดตามข่าวเรื่องนี้คงจะได้เห็นท่าทีของทาง Kadokawa ที่แบ่งรับแบ่งสู้โดยบอกกับสื่อว่า "เราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกินกว่าเนื้อหาที่เปิดเผยไปเมื่อไม่นานนี้ได้" ในขณะเดียวกัน ทางบริษัท Sony ก็ยืนยันว่า "เป็นความจริงที่เราได้แสดงเจตนารมณ์เบื้องต้นแล้ว เราจะรู้สึกขอบคุณมากแต่ทางเราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้" หลายคนที่อ่านข่าวนี้อาจจะงงว่าทำไมไม่บอกไปเลยว่าจะซื้อ ทางนั้นก็บอกไปซิว่าจะขายก็จบและจะมากั๊กกันเพื่อ โดยในความเป็นจริงการพูดออกไปตรง ๆ ว่าเรายินดีขายทางนั้นยินดีซื้อมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มันต้องผ่านข้อตกลงมากมายในการซื้อกิจการ ดังนั้นจนกว่าการตกลงนี้จะจบลงอย่าง 100% ทั้งสองฝ่ายก็คงไม่กล้าออกมาพูดอะไรในเรื่องนี้

และมีการรายงานเบื้องต้นว่าทาง Sony ตั้งใจจะซื้อบริษัทนี้โดยบริษัทถือหุ้น 1.93% ใน Kadokawa และ 14.09% ในบริษัทเกม FromSoftware โดยมีรายงานว่าพนักงานบางคนบอกกับสื่อว่า พวกเขารู้สึกยินดีกับข่าวลือการเข้าซื้อกิจการนี้ ตามคำกล่าวของ Bunshun พนักงานคนหนึ่งกล่าวว่า "ฉันคาดว่าหาก Sony เข้าซื้อบริษัทนี้ สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำคือไล่ประธาน Natsuno ออก" พนักงานคนอื่น ๆ ต่างก็ยอมรับข่าวนี้ โดยการควบรวมและซื้อกิจการเป็นเรื่องปกติของบริษัทจดทะเบียนที่พบเห็นได้บ่อย ๆ แต่การซื้อครั้งนี้มันดูน่าสนใจ เพราะจะทำให้ Sony ที่มีทั้งเพลงหนังเกมมือถือเครื่องเสียงและเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีสื่ออนิเมะมังงะเพิ่มมาอีก ที่ยิ่งเสริมบารมีให้ Sony ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก

ส่วนทางนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ ก็มีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับการซื้อกิจการในครั้งนี้บอกว่า "การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ Kadokawa ขาดความเป็นอิสระและฝ่ายบริหารจะเข้มงวดมากขึ้นในการทำสิ่งต่าง ๆ หากคุณต้องการพัฒนาธุรกิจของคุณอย่างอิสระเหมือนอย่างเคย นี่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในภาวะถดถอยของธุรกิจสิ่งพิมพ์นี้ เราต้องเตรียมใจที่จะตัดลดสิ่งพิมพ์ที่ไม่นำไปสู่การสร้างทรัพย์สินทางปัญญา"
ซึ่งแม้จะมีข่าวลือนี้และมีนักวิเคราะห์เศรษฐกิจออกมาพูดแบบนี้ แต่ทาง Kadokawa ก็ยังคงเดินหน้าโครงการสำคัญต่อไป โดยเมื่อวานนี้ได้ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจกับ Kakao Piccoma ซึ่งเป็นแอปมังงะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยทาง Impress Watch รายงานว่าบริษัททั้งสองจะร่วมมือกันวางแผนผลิตและจัดจำหน่ายมังงะดิจิทัล เพื่อสร้างศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และขยายธุรกิจอีบุ๊กและเพิ่มมูลค่า LTV (มูลค่าระยะยาว) ของทรัพย์สินทางปัญญาให้สูงสุด เหมือนเป็นการบอกว่าต่อให้ถูกซื้อเราก็ยังคงมีอิสระแบบนี้ในการทำธุรกิจสื่อบันเทิงต่อไป

และสำหรับคนที่ไม่ทราบ Kadokawa เป็นบริษัทผู้จัดพิมพ์นิยายมังงะและเกมรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น นอกจากนี้บริษัทยังเป็นเจ้าของสตูดิโอสร้างอนิเมะชื่อดังหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอ Doga Kobo ที่สร้างอนิเมะ Oshi no Ko และถือหุ้น 31.8% ใน Kinema Citrus ที่สร้าง The Rising of the Shield Hero, My Happy Marriage รวมถึงการถือหุ้น 53% ในสตูดิโอ ENGI ที่สร้าง Uzaki-chan Wants to Hang Out! และยังมีแผนกจัดจำหน่ายของบริษัท ที่ประกอบด้วยบริษัทในประเทศขนาดใหญ่อย่าง BookWalker และ ComicWalker ร่วมกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตและแปลลิขสิทธิ์ในต่างประเทศอย่าง J-Novel Club และ Yen Press อีกด้วย

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี่ยังไม่นับฝั่งเกมอีกนะ เพราะทาง FromSoftware ที่เป็นของ Kadokawa ก็มีเกมที่ได้ทั้งเงินและกล่องที่ไม่ว่าจะทำเกมอะไรออกมาก็ขายดีขายดิบแฟน ๆ ชื่อชม และกวาดรางวัลเต็มบริษัทจนทางบริษัทต้องบ่นว่า รับรางวัลอีกแล้วหรอกันเลยทีเดียว (อันนี้แซวเพราะทางค่ายได้รับรางวัลเยอะจริง ๆ) บอกเลยว่า Sony จะยิ่งใหญ่ขึ้นกว่านี้หลายเท่าถ้าซื้อ Kadokawa มา ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะดิวนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้แน่นอน เพราะต้องเจรจากันอีกพักใหญ่ ที่ถ้ามีข่าวงความคืบหน้าเราจะรีบเอามารายงานให้ทราบทันที