
เชื่อว่าหลายคนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารวงการอนิเมะมา คงจะสงสัยแน่ ๆ ว่าตอนนี้ซีรีส์ Dragon Ball ได้ออกภาคใหม่ออกมาแล้ว ที่มีชื่อภาคนี้อย่างเป็นทางการว่า Dragon Ball Dima ซึ่งในตัวอย่างก่อนหน้านี้ที่ปล่อยออกมาเราจะได้เห็นพวก โกคู เบจิต้า และหลาย ๆ คนที่เรารู้จักต่างกลายร่างเป็นเด็ก ที่ให้อารมณ์คล้าย ๆ Dragon Ball GT ก่อนหน้านี้ โดยผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่อาจารย์ โทริยาม่า อากิระ เป็นคนออกแบบตัวละครและคิดเนื้อเรื่องของภาคนี้ ซึ่งก็ได้ฉายตอนแรกไปแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนที่ได้ดูมาแล้วก็เสียงแตกที่มีทั้งชอบ และไม่ค่อยโอเคกับตอนแรกนี้เมื่อเทียบกับ Dragon Ball Super ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ เรามาดูกันว่า Dragon Ball Dima ภาคแรกตอนที่ 1 จะสนุกน่าสนใจขนาดไหนมาดูไปพร้อมกันเลย
ในส่วนของเนื้อหาเรื่องราวใน Dragon Ball Dima จะเริ่มต้นหลายเดือนหลังจากจบศึกสู้กับ จอมมารบู ไป โลกกลับมาเป็นปกติขณะที่โลกปีศาจที่สูญเสียราชาแห่งโลกปีศาจอย่าง ดาบูร่า ไป ทางนั้นก็แต่งตั้ง (ตัวเอง) เป็นราชาปีศาจคนใหม่ ซึ่งฝั่งราชาปีศาจคนใหม่ที่ได้เห็นภาพการต่อสู้ของพวกโกคูที่สามารถเอาชนะจอมมารบูมาได้อย่างง่ายดาย (เอาจริง ๆ เราก็ดูก็รู้ว่ามันไม่ง่ายเลยแต่ทางนั้นคิดว่าปราบได้ง่าย ๆ)

พอเป็นแบบนั้นทางราชาปีศาจคนใหม่ ที่หวาดกลัวว่าเดี๋ยวพวกโกคูจะมาบุกโลกปีศาจ ทางนั้นเลยชิงลงมือจัดการทางนั้นก่อน ด้วยการแอบไปเอาดราก้อนบอลมาขอพรให้พวกที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้กับจอมมารบู กลายเป็นเด็กประถมหนึ่งไป ส่วนที่เป็นเด็กอยู่แล้วก็ให้กลายเป็นทารก พวกโกคูเลยต้องออกรวบรวมดราก้อนบอลเพื่อขอพรให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม แต่เราก็อย่าลืมว่าดราก้อนบอลที่ขอพรไปแล้วจะกลายเป็นหิน 1 ปี แล้วพวกโกคูจะทำอย่างไรไปรอดูเอาเอง

ในส่วนของ Dragon Ball Dima ตอนแรกจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของโกคูที่สู้กับจอมมารบู เพื่อบอกคนดูว่าเรื่องราวใน Dragon Ball Dima จะเริ่มต้นก่อน Dragon Ball Super โดยจะเริ่มเรื่องราวในวันเกิดของ ทรั้งค์ ที่อายุครบ 9 ขวบ และที่นั่นเราจะเห็น ท่านไคโอชิน กับ คิบิโตะ ที่เป็นผู้ช่วยคืนร่างแยกออกจากกันมาแล้ว โดยก่อนหน้านี้เราก็ทราบกันดีว่าทั้งสองคนนั้น ใช้ต่างหูโปเตร่ารวมร่างกันจนแยกไม่ออก ซึ่งทางท่านไคโอชินบอกว่าเขาขอให้จอมมารบูอ้วนช่วย เพราะในร่างเขามีแก๊สบางอย่างที่สามารถแยกร่างคนที่ใช้โปเตร่าได้ (แต่ใน Dragon Ball Super บอกว่าเขาไปขอพร Dragon Ball ให้แยกร่างกัน)

นอกจากนี้ก็มีการพูดถึงการขอพร Dragon Ball ให้จอมมารบูอ้วนกลายเป็นคนดี ซึ่งหลายคนที่เคยดูเคยอ่าน Dragon Ball Super มาก็แอบขัดใจในส่วนนี้มาก ๆ ขณะที่ฝ่ายราชาปีศาจคนใหม่ก็ออกไปทางตัวตลกเล่นมุก 5 บาท 10 บาทที่ดูแล้วไม่น่าเกรงขามแข็งแกร่งเหมือนตัวร้ายอื่น ๆ ที่ผ่านมา เหมือนทางคนแต่งจะพยายามกลับไปสู่รากเหง้าเดิม ๆ ของ Dragon Ball ทั้งตัวร้ายตลก ๆ การเดินทางตามหา Dragon Ball ตามที่ต่าง ๆ ไปจนถึงการกลับมาของเมฆสีทองกับกระบอกวิเศษที่โกคูเอามาใช้อีกครั้ง แต่พอดูไปมันกลับให้อารมณ์เหมือน Dragon Ball GT ดัดแปลงมากกว่า

โดยรวมตอนแรกเราอาจจะยังไม่เห็นอะไรเยอะอย่างมาก แต่เราก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องราวของ Dragon Ball Dima จะไปในทิศทางใดต่อไป ซึ่งตอนต่อไปจากนี้เราจะได้เห็นการต่อสู้ของโกคูและเบจิต้าในโลกปีศาจที่คงจะสนุกน่าสนใจกว่า Dragon Ball GT ที่ในช่วงแรกตัวเรื่องจะค่อนข้างอืด ๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ จนมาถึงช่วงกลางและตอนท้าย ซึ่งเราก็หวังว่า Dragon Ball Dima จะไม่ใช้แนวทางแบบนั้น ส่วนใครที่ติดตามซีรีส์ Dragon Ball มาตลอด Dragon Ball Dima ก็คือหนึ่งในตอนที่คุณต้องดู แม้มันจะดูแปลก ๆ ขัด ๆ ในบางส่วนก็ตาม ซึ่งคงต้องรอดูตอนต่อ ๆ ไปว่าจะเป็นอย่างไร ที่พอซีรีส์ฉายจบครบเราจะเอามารีวิวสรุปอีกครั้งรออ่านกันได้