
ถ้าพูดถึงเกมที่สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการเกมทุกครั้งที่มีภาคใหม่ออกมา แถมพอเกมวางจำหน่ายแล้วมันก็เป็นเสือนอนกินที่อยู่ได้อีกหลายสิบปีนับต่อจากนี้ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่เกมออนไลน์แบบเต็มตัว แต่ด้วยความสนุกน่าสนใจของเนื้อหา ที่จะเล่นคนเดียวหรือเล่นกับคนอื่นแบบออนไลน์ก็สนุก เกมนั้นก็คือ GTA 5 หรือ Grand Theft Auto V เกมภาคต่อลำดับที่ 7 ของซีรีส์ ที่คราวนี้จะมีถึง 3 ตัวละครและใช้ฉากในเมืองสมมุติที่ชื่อว่าเมืองซานแอนเดรียส ที่อ้างอิงมาจากรัฐแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ที่แม้จะผ่านมา 11 ปีแล้วตัวเกม GTA 5 ก็ยังขายได้ขายดีจนถึงทุกวันนี้ และวันที่ 17 กันยายน 2013 ครบรอบ 11 ปีวันวางจำหน่าย Grand Theft Auto V บน PlayStation 3 เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวของเกมนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
เอาจริง ๆ สำหรับตัวเกม GTA 5 คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากเกี่ยวกับเกมนี้ เพราะทุกคนน่าจะรู้จักอยู่แล้วว่ามันเป็นเกมอะไรอย่างไรยังไง เราเลยจะเอาข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจของเกมนี้มาเล่าให้อ่านก็แล้วกัน เริ่มจากการทำลายสถิติยอดขายที่เกม GTA 5 เป็นผลิตภัณฑ์ความบันเทิงที่ขายเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทำรายได้ 800 ล้านเหรียญสหรัฐในวันแรกและ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 3 วันหลังจากวางจำหน่าย ตัวเกมได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทุกสำนัก ทั้งการออกแบบตัวละครที่มีถึง 3 คน (รวมตัวละครออนไลน์ด้วยก็ 4) ที่เราสามารถสลับไปมาระหว่างเล่นได้เกือบตลอดเวลา รวมถึงเนื้อเรื่องที่สนุกน่าสนใจที่ทั้ง 3 คนต่างก็มีปมมีจุดที่ต้องแก้ในชีวิตต่างกัน และระบบการเล่นบนโลกอันกว้างใหญ่ที่ดูมีชีวิต
ในส่วนของการพัฒนา Rockstar North เริ่มพัฒนาเกม GTA 5 ในปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เกม GTA 4 ออกวางจำหน่าย โดยทีมพัฒนาประกอบด้วยบุคลากรมากกว่า 1,000 ชีวิต รวมถึงทีมงานหลักของ Rockstar North และเจ้าหน้าที่จากสตูดิโอของบริษัทแม่ Rockstar Games ทั่วโลกมารวมหัวกันสร้างเกมนี้ โดยใช้ซอฟต์แวร์ Euphoria และ Bullet จัดการงานแอนิเมชั่นและการเรนเดอร์
ที่หลังจากคุ้นเคยกับ ฮาร์ดแวร์ของ PlayStation 3 และ Xbox 360 โดยเฉพาะของ PlayStation 3 ที่เรียกว่าทำเกมลงยาก ทาง Rockstar ก็พบว่าพวกเขาสามารถผลักดันความสามารถด้านกราฟิก ของคอนโซลให้ก้าวไปไกลกว่าเกมก่อนหน้าได้อีก ซึ่งทางนักวิเคราะห์ประเมินว่างบประมาณการพัฒนาและการตลาดรวมของเกม GTA 5 อาจจะมากกว่า 265 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เกมนี้เป็นเกมที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาในเวลานั้น

ในส่วนของยอดขาย 6 สัปดาห์หลังจากเปิดตัว Rockstar ได้จัดส่งเกม GTA 5 ให้กับผู้ค้าปลีกเกือบ 29 ล้านชุด ซึ่งเกินตัวเลขของ GTA 4 ที่นับตั้งแต่วันแรกที่เกมภาคนี้วางขายจนปิดการขายไปไกลมาก ๆ ชนิดไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2013 เกมดังกล่าวได้กลายเป็นเกมดิจิทัลที่ขายดีที่สุดบน PlayStation Store สำหรับ PlayStation 3 ทำลายสถิติที่เคยทำไว้โดย The Last of Us แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายก็ตาม
ยังไม่หมดตัวเกมยังทำลายสถิติโลกกินเนสส์ถึง 7 รายการเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2014 ได้แก่วิดีโอเกมที่ขายดีที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง วิดีโอเกมแอคชั่นผจญภัยที่ขายดีที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง วิดีโอเกมทำรายได้สูงสุดภายใน 24 ชั่วโมง ทรัพย์สินเพื่อความบันเทิงที่ทำรายได้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้เร็วที่สุด วิดีโอเกมที่ทำรายได้ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้เร็วที่สุด รายได้สูงสุดที่สร้างโดยผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิงใน 24 ชั่วโมง และตัวอย่างวิดีโอเกมแอคชั่นผจญภัยที่มียอดผู้ชมสูงสุด

และสิ่งที่ทำให้เกม GTA 5 ที่ขายดิบขายดีเหมือนแจกฟรีอยู่แล้ว ขายดีขึ้นไปอีกหลายเท่าเพราะทาง Rockstar Games ก็มีการเพิ่มภารกิจและสิ่งใหม่ ๆ ลงไปในเกม GTA 5 Online นี้อยู่เสมอ จนสามารถกินเงินกับการเดิมเกมนี้ได้เรื่อย ๆ แต่จู่ ๆ เกมนี้ก็มียอดขายพุ่งขึ้นไปอีกบน PC นั่นก็คือการมาถึงของ GTA 5 FiveM ที่เป็นโหมดไคลเอนต์ฟรีสำหรับ GTA 5 ที่ช่วยให้คนเล่นเกม GTA 5 ในเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวนอกเครือข่ายของ Rockstar Games ได้ มันจึงเกิดเป็นการซื้อเกม GTA 5 บน PC มาเล่นครั้งใหญ่ที่สุดไปทั่วโลก นี่ยังไม่นับตอนที่ Epic Games Store แจกเกม GTA 5 ฟรี ๆ จึงทำให้ GTA 5 FiveM ยิ่งโด่งดังและแพร่หลายมากขึ้นกว่าเดิม จนถึงตอนนี้ที่แม้ GTA 6 จะประกาศและปล่อยตัวอย่างออกมา เกม GTA 5 ก็ยังไม่แผ่วแถมมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ

มาถึงตรงนี้ถ้าใครที่อยู่วงการเกมแล้วบอกว่าไม่เคยเล่น GTA 5 คงจะกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนเล่นเกมไปในทันที (แซว) ส่วนใครที่สนใจอยากเล่นเกมนี้ก็มีทั้งบน PC, XBox ซีรีส์ต่าง ๆ ไปจนถึง PlayStation 3, 4 และ 5 ใครมีเครื่องไหนก็ไปจัดเล่นกันได้ โดยเฉพาะ PC ที่จะเล่น FiveM ก็ไปดูกฎดูระเบียบของที่เราจะไปอยู่ด้วยว่าเป็นอย่างไร หรือจะเอามาเล่นออนไลน์ที่เกมมีไปจนถึงเล่นตามเนื้อเรื่องก็ได้หมด เพราะมันสนุกหมดทุกแบบ ลองไปหามาเล่นดูแล้วจะติดใจบอกเลย