วันเวลาผ่านไปไวอย่างกับโกหก เพราะเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเกมที่เราเคยเล่นเคยสนุกเมื่ออดีต ตอนนี้มันผ่านเวลามากเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือเกมซีรีส์ Final Fantasy ที่ทุกคนน่าจะรู้จักและเกินครึ่งที่เข้ามาอ่านบทความเปิดกรุเกมเก่านี้ อาจจะเพิ่งรู้จักซีรีส์ Final Fantasy จากเกม Final Fantasy VII ภาคนี้ก็ได้ เพราะเกมภาคนี้จัดเป็นเกมสร้างชื่อให้ซีรีส์ Final Fantasy ที่ดังอยู่แล้วในตอนนั้นดังมากขึ้นไปอีกหลายร้อยเท่า ขนาดฉุดเครื่องน้องใหม่อย่าง PlayStation ให้ขายดีขายดิบตามไปด้วย โดยวันที่ 7 สิงหาคม 1997 ก็ครบรอบ 27 ปีเกมนี้พอดี เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวของเกมภาคนี้กันว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย
เริ่มจากจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเกม Final Fantasy VII เริ่มขึ้นในปี 1994 เดิมทีเกมนี้จะถูกวางจำหน่ายสำหรับเครื่อง Super Famicom ของ Nintendo แต่หลังจากที่เกิดความล่าช้าและปัญหาทางเทคนิคจากการทดลองกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ จึงย้ายมาพัฒนาต่อที่เครื่อง Nintendo 64 แต่สุดท้ายทาง Square จึงตัดสินใจย้ายการผลิตไปที่ PlayStation ด้วยเหตุผลของรูปแบบความจุของแผ่น CD-ROM ที่มีมากกว่าตลับและต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า ซึ่งนั่นก็เป็นจุดบาดหมางระหว่าง Square กับ Nintendo อยู่หลายปีเลยทีเดียวกว่าที่ทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกัน
และในงานนี้ได้ทีมพัฒนาที่มากประสบการณ์กลับมาร่วมทีมกันเกือครบชุด โดยมีผู้สร้างและผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Final Fantasy อย่างคุณ ซาคากุจิ ฮิโรโนบุ มาเป็นโปรดิวเซอร์ ส่วนผู้กำกับก็ได้คุณ คิตาเสะ โยชิโนริ ส่วนคนแแต่งเพลงก็ได้คุณ อูเอมัตสึ โนบุโอะ มาจัดการ ส่วนคนออกแบบตัวละครก็ได้คุณ โนบุระ เท็ตสึยะ นักออกแบบฝีมือจัดจานมาดูแล ซึ่งนี่จะเป็นภาคแรกในซีรีส์ที่ใช้ภาพกราฟิกคอมพิวเตอร์ 3D โดยมีโมเดลตัวละคร 3 มิติซ้อนทับบนพื้นหลัง 2D ที่เรนเดอร์ไว้ล่วงหน้า แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะแทบไม่เปลี่ยนแปลงจาก Final Fantasy ภาคก่อน ๆ แต่ Final Fantasy VII ได้นำเสนอองค์ประกอบที่น่าสนใจทั้งเนื้อเรื่องฉากกราฟิกที่สวยงาม และที่สำคัญที่สุดคือตัวละครที่น่าสนใจ ที่ว่ากันว่าเกม Final Fantasy VII ภาคนี้ใช้งบประมาณในการพัฒนาและการตลาดรวมกันอยู่ที่ประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
พอเกมวางจำหน่ายตัวเกม Final Fantasy VII ก็ได้รับความสำเร็จทางการค้าและคำวิจารณ์เป็นอย่างมาก และยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวิดีโอเกมที่ยิ่งใหญ่ และมีอิทธิพลมากที่สุดเท่าที่มีมาในตอนนั้น โดยในปีนั้น Final Fantasy VII ได้รับรางวัล Game of the Year และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายหลายสำนักที่ต่างก็เทคะแนนให้ และอย่างที่เราได้บอกไปว่าเพราะเกม Final Fantasy VII นี้ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายของ PlayStation เครื่องเกมน้องใหม่ของ Sony ให้ขายดีจนมีที่ยืนมาจนถึงตอนนี้ และทำให้เกมภาษาของญี่ปุ่นเป็นที่นิยมไปทั่วโลก จนมีการนิยามในส่วนนี้ว่า JRPG ที่หมายถึงเกมภาษาที่มาจากญี่ปุ่นนั่นเอง
และสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อน ว่าตัวเกม Final Fantasy VII ก่อนหน้านี้ คุณซากากูจิซึ่งในตอนนั้นเขาเป็นผู้รับผิดชอบในการเขียนโครงเรื่องเบื้องต้นของเกมภาคนี้ ที่จะถูกเอาไปใช้บนเครื่อง Super Famicom ฉากของเกมถูกจินตนาการให้เป็นนิวยอร์กซิตี้ในปี 1999 โดยตัวละครหลักจะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่พยายามทำลายเครื่องปฏิกรณ์ Mako ที่ดึงพลังงานจากดวงดาวมาใช้ และแนวคิดของ Lifestream ก็ปรากฏอยู่ในขั้นตอนนี้ แต่สุดท้ายทางทีมพัฒนาก็ปัดตกในส่วนของเมืองนิวยอร์กไป เพราะมันดูไม่ค่อยเป็นแฟนตาซีตามที่มันควรเป็น แต่แนวคิดเรื่องการใช้นิวยอร์กก็ยังคงมีอยู่ จนในที่สุดทาง Square ก็ใช้ฉากนิวยอร์กในเกม Parasite Eve แทน
ตัวเกม Final Fantasy VII ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 1996 โดยทางคุณ ทาเคชิ โทโมยูกิ ประธานและซีอีโอของ Square ในตอนนั้น ค่อนข้างมั่นใจว่าผู้เล่นชาวญี่ปุ่นจะซื้อเกมนี้มาเล่นจนมันประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มใหม่อย่าง PlayStation ก็ตาม โดยครั้งแรกได้มีการปล่อยเดโมที่เล่นได้ รวมอยู่ในแผ่น CD ที่แจกในงาน Tokyo Game Show ปี 1996 ซึ่งมีชื่อว่า Square's Preview Extra Final Fantasy VII & Siggraph '95 Works ซึ่งสร้างตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ ที่รอคอยเกมภาคนี้มาก ๆ
พอเกมวางจำหน่ายในช่วงสุดสัปดาห์ในอเมริกาเหนือ ตัวเกมก็มียอดขายสูงถึง 330,000 ชุด และทำยอดขายได้ 500,000 ชุดในเวลาไม่ถึงสามสัปดาห์ จนทาง Sony ประกาศว่าเกม Final Fantasy VII ได้ขายได้หนึ่งล้านชุดในอเมริกาเหนือในช่วงต้นเดือนธันวาคมปีนั้น ซึ่งตามรายงานของ Weekly Famitsu บอกว่าเกม Final Fantasy VII ขายได้ 3.27 ล้านชุดในญี่ปุ่นช่วงสิ้นปี 1997 จนสิ้นสุดในปี 2005 นับเฉพาะเวอร์ชัน PlayStation ก็ขายได้ 9.8 ล้านชุด โดยรวมถึง 4 ล้านชุดมาจากในญี่ปุ่น ส่วนบ้านเราก็บอกเลยว่าโด่งดังไม่แพ้กันเพราะสมัยนั้นมีบทสรุปเกม Final Fantasy VII ออกขายเต็มท้องตลาด และมีข่าวลือเกี่ยวกับการชุบชีวิตแอริธในเกมที่ใครเกิดทันหรือจำได้ ในตอนนั้นจะเป็นยุคทองแบบสุด ๆ ของวงการเกมบ้านเราเลยทีเดียว
อ่านมาถึงตรงนี้ใครที่สนใจอยากเล่นเกม Final Fantasy VII แบบต้นฉบับตัวเกมก็มีขายอยู่ตลอดตามหน้าร้ายต่าง ๆ ไปซื้อมาเล่นกันได้ตัวเกมแม้จะเก่าแต่ก็ยังคงความสนุกและเนื้อเรื่องก็เชื่อมกับ Final Fantasy VII Remake และ Rebirth ด้วย ถ้าอยากเล่น 2 ภาคนี้ให้เข้าใจก็ไปเล่น Final Fantasy VII ภาคเก่ามาก่อนพอเล่นจบคุณจะเห็นภาพกว้าง ๆ ของเกมนี้ได้อย่างชัดเจน จนรู้ว่าจักรวาลเกมนี้มันมีมิติน่าสนใจและลึกล้ำขนาดไหน