
ในยุคปัจจุบันตอนนี้ถ้าจะให้เรานับซีรีส์เกมจากอดีตที่มีอายุเกิน 30 ปี แต่ยังมีภาคต่อออกมาเรื่อย ๆ เพื่อเอาใจแฟน ๆ รุ่นเก่ารุ่นใหม่ โดยเฉพาะพวกเกมต่อสู้ที่ถ้าไม่มีฐานคนเล่นที่เยอะและหนาแน่นจริง ๆ คงจะอยู่ยาก ดูได้จากเกมต่อสู้เก่า ๆ ที่ล้มหายตายจากไปหลายต่อหลายซีรีส์ จะมีแค่ซีรีส์เกมนักสู้ข้างถนนอย่าง Street Fighter เท่านั้นที่ผ่านมา 37 ปีแล้วตัวเกมก็ยังคงมีภาคใหม่ออกมา และวันที่ 30 สิงหาคม 1987 ก็ครบรอบ 37 ปีเกม Street Fighter ภาคแรกลงให้เล่นบนเกมตู้ เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวของเกมนี้กันว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจบ้างเรามาดูไปพร้อมกันเลย
ตัวเกม Street Fighter ภาคแรกกำกับและสร้างโดยคุณ นิชิยามะ ทาเคชิ ที่ได้ไอเดียการสร้างเกมนี้มาจากการดัดแปลงการต่อสู้กับบอสของเกม Kung-Fu Master ที่เขาเคยสร้าง เอามาเป็นเกมต่อสู้แบบตัวต่อตัว และได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูนโชเน็นญี่ปุ่นมาผสมรวมกัน เพื่อวางจำหน่ายบนเครื่อง TurboGrafx-CD ในปี 1988 แต่สุดท้ายก็เอามาลงที่เกมตู้ก่อน ในส่วนของระบบการเล่นจะเป็นการแข่งขันแบบตัวต่อตัว กับคู่ต่อสู้ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ไปเรื่อย ๆ ซึ่งเราจะเล่นได้เป็นแค่ชายชุดขาวอย่าง ริว เท่านั้นไม่สามารถเลือกตัวละครอื่นได้ โดยที่หัวหน้าใหญ่ในเกมภาคนี้คือราชามวยไทยอย่าง สกัด
หรือจะแข่งแบบตัวต่อตัวกับผู้เล่นคนอื่น แต่เราจะเลือกได้แค่ตัวละครที่เหมือนริวแต่ชุดสีแดงที่มีชื่อว่า เคน เท่านั้น โดยแต่ละแมตช์จะแบ่งออกเป็น 3 รอบ ซึ่งผู้เล่นจะต้องน็อกคู่ต่อสู้ให้ได้ภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที หากแมตช์จบลงก่อนที่นักสู้คนใดคนหนึ่งจะน็อกคู่ต่อสู้ได้ นักสู้ที่มีพลังงานเหลืออยู่มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในรอบนั้น ผู้เล่นจะต้องชนะ 2 รอบเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้และเข้าสู่การต่อสู้รอบต่อไป หากรอบที่สามจบลงด้วยผลเสมอ คู่ต่อสู้ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์จะชนะโดยอัตโนมัติ หรือผู้เล่นทั้งสองจะแพ้ (ก็เกมตู้นี่เนอะจะเอาเงินคนเล่นท่าเดียว)
ในส่วนของเกมตู้นั้นจะมีอยู่ 2 แบบที่เรียกรวม ๆ ว่า แบบปกติ ที่เป็นปุ่มหกปุ่มแบบเดียวกับที่ใช้ใน Street Fighter II ที่ถูกเปลี่ยนมาใช้ภายหลัง โดยก่อนหน้านี้เกมตู้ Street Fighter ภาคแรกจะเป็น แบบดีลักซ์ ที่มีแผ่นยาง 2 ปุ่มสีแดงกับน้ำเงิน แดงปุ่มต่อย น้ำเงินปุ่มเตะ ที่ปุ่มทั้งสองจะไวต่อแรงกด ที่ตอนเล่นเราต้องทุบไปที่ปุ่มทั้ง 2 ที่ถ้าทุบแรงก็จะเป็นการต่อยหนักเตะหนักที่มันเล่นยากมาก ๆ (รูปประกอบด้านล่าง) โดยตู้เกมแบบกดแป้นแบบดีลักซ์ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ Capcom วางแผนไว้ เพราะขายได้เพียง 1,000 เครื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตามพอตัวเกมเปลี่ยนเวอร์ชันเป็นแบบหกปุ่ม เกมก็ประสบความสำเร็จมาก ๆ โดยขายได้หลายหมื่นเครื่อง โดยประมาณการว่า Street Fighter น่าจะขายได้ระหว่าง 10,000 ถึง 50,000 เครื่องเลยทีเดียว

และอย่างที่เราได้บอกไปในตอนต้นว่า คุณ นิชิยามะ ทาเคชิ ได้ไอเดียการสร้างเกมนี้มาจากเกม Kung-Fu Master ของตัวเอง บวกกับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ของ บรู๊ซ ลี ที่ชื่อว่า Game of Death ซึ่งหลังจากความสำเร็จของ Kung-Fu Master คุณนิชิยามะก็ได้รับการว่าจ้างจาก Capcom ให้ออกแบบเกมอาร์เคดภาคต่ออย่างเกมที่ชื่อว่า Trojan ซึ่งเป็นเกมต่อสู้ที่มีระบบคล้ายเกม Kung-Fu Master ของตน ต่อมาคุณนิชิยามะได้ออกแบบ Street Fighter เป็นเกมต่อมา
ที่เมื่อทาง Capcom ไฟเขียวทางคุณนิชิยามะก็ออกแบบเกม Street Fighter โดยแกได้รับอิทธิพลมาจากเกมต่อสู้ในยุคก่อน ๆ จากปี 1984 อย่าง Karate Champและ Yie Ar Kung-Fu ซึ่งสองเกมนี้ถือเป็นต้นแบบของเกม Street Fighter และทางคุณนิชิยามะต้องการให้เกมมีเนื้อเรื่องคล้ายกับภาพยนตร์ ที่เป็นการเดินทางต่อสู้ของชายผู้ที่อยากเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เขาเลยไปท้าสู้กับนักสู้เก่ง ๆ จากทั่วโลก นั่นคือเรื่องราวของเกม Street Fighter ภาคนี้

มาถึงตรงนี้ใครที่สนใจอยากเล่นเกม Street Fighter ภาคแรกสุดแบบดั้งเดิม ก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเพราะทาง Capcom ใจดีเอาเกมนี้มารวมกับเกม Street Fighter ภาคอื่น ๆ มาขายแบบยกชุดให้คุณได้เล่นในชื่อ Street Fighter 30th Anniversary Collection ซึ่งจะลงบนทุกเครื่องในตลาดตอนนี้ยกเว้นแค่บนมือถือเท่านั้น หรือถ้าคุณอยากเล่นแค่ Street Fighter ภาคแรกเกมเดียวก็ไปโหลดเกม Capcom Arcade Stadium บน PC หรือ PlayStation 5 และไปซื้อเกม Street Fighter ภาคแรกแบบแยกขายเกมละไม่ถึงร้อยมาเล่นได้ (มีเกมเก่า ๆ ขายราคาถูกเยอะมาก) แล้วคุณจะรู้ว่าเกมเก่าเอามาเล่นกี่ครั้งก็ยังสนุก