
ย้อนกลับไปอดีตยุคปี 90 สมัยที่อนิเมะต่าง ๆ จะถูกสร้างออกมาทีเดียวเป็นชุดยาว ๆ ตั้งแต่ต้นจนเกือบจบ (ไปไกลที่สุดเท่าที่มังงะต้นทางจะไปถึง) หรือบางเรื่องก็ไล่ตามฉบับมังงะทัน จนทางทีมสร้างอนิเมะต้องคิดเนื้อเรื่องอื่นมาเสริมเพื่อขั้นเวลาระหว่างรอตอนใหม่จากมังงะ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีซีรีส์อนิเมะชิ้นเดียวอย่าง One Piece ที่ทำแบบนี้อยู่ ซึ่งถ้ามองในแง่ของเนื้อหาที่ถูกเพิ่มมากับในต้นฉบับมันก็ไม่หลุดเนื้อเรื่องหลักมากนัก ต่างกับในซีรีส์ลูกแก้วมังกรอย่าง Dragon Ball ที่การเพิ่มเนื้อเรื่องแทรกลงไประหว่ารอเนื้อเรื่องหลัก หรือบางทีก็เป็นภาคฉบับฉายโรงภาพยนตร์ ที่มันหลุดความเป็น Dragon Ball ไปเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะตัวเอกอย่าง ซง โกคู ที่อาจารย์ โทริยามะ อากิระ แกเคยบอกว่า แกไม่ค่อยโอเคกับทีมผู้สร้างอนิเมะ ที่ไม่สามารถถ่ายทอดความเป็นโกคูออกมาได้ดีเท่าที่ควร เรามาดูว่าทำไมอาจารย์แกถึงพูดแบบนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย

โดยเรื่องราวนี้อยู่ในบทสัมภาษณ์ช่วงที่มีการเปิดตัวมังงะ Dragon Ball Super เล่มแรก ที่มีอาจารย์ โทริยามะ อากิระ และ อาจารย์ โทโยทาโร ผู้แต่งและวาด Dragon Ball Super ทั้งสองคนมาพูดคุยกัน โดยทางอาจารย์ โทโยทาโร ถูกถามว่า ส่วนใดของผลงานอาจารย์โทริยามะที่วาดยากที่สุด อาจารย์โทโยทาโรบอกว่า "รูปแบบงานของเซ็นเซโทริยามะนั้นแม้เรียบง่าย ทำให้รู้สึกเหมือนว่าใคร ๆ ก็วาดได้ แต่ในทางปฏิบัติเขาพบว่าการวาดโกคุ (ตัวจริง) นั้นยากมาก ๆ" ซึ่งทางอาจารย์โทริยามะก็เห็นด้วย โดยกล่าวว่า "แม้แต่ตอนที่มีนักวาดการ์ตูนมืออาชีพมาวาดให้ ผมก็ยังรู้สึกว่าบางครั้งพวกเขาวาดผิด" อาจารย์ย้ำต่อว่า "แม้สไตล์ของผมอาจจะเรียบง่าย แต่บางทีอาจมีเพียงผมเท่านั้นที่เข้าใจมันจริง ๆ"

และก่อนหน้านี้อาจารย์โทริยามะเคยให้สัมภาษณ์กับทาง Wired Japan เมื่อปี 1997 ว่า เขาไม่พอใจกับเรื่องราวในอนิเมะมาโดยตลอด เขากล่าวว่า "หลังจากที่ดราก้อนบอลถูกสร้างเป็นอนิเมะ ผมก็ไม่ค่อยพอใจกับการแสดงภาพแบบฮีโร่ผู้ชอบธรรม ที่พวกเขามอบให้กับโกคูมาโดยตลอด" หรือจะอธิบายให้เห็นภาพก็คือ อาจารย์โทริยามะรู้สึกว่าอนิเมะไม่ได้ถ่ายทอดรูปลักษณ์ของโกคู หรือตัวละครของเขาออกมาอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจและขัดใจมาก ๆ โดยอาจารย์โทริยามะบอกว่า "ตัวของ ซุน โกคู จาก Dragon Ball ไม่ได้สู้เพื่อคนอื่นอย่างที่เราคิด แต่เขาแค่ต้องการสู้กับพวกที่แข็งแกร่งเท่านั้น"
พออาจารย์พูดมาแบบนี้เราก็เห็นภาพเลยทันที ที่พอเรามองย้อนกลับไปที่โกคูไว้ชีวิตเหล่าร้ายอย่าง พิโกโร่ เบจิต้า ฟรีเซอร์ ในตอนนั้นไม่ใช่เพราะโกคูเป็นคนจิตใจดีอะไรเลย แต่พี่แกแค่อยากให้พวกนี้ไปฝึกมาใหม่แล้วมาสู้กันอีก ตามภาษาชาวไซย่าที่ชอบการต่อสู้เท่านั้นไม่ได้คิดจะปกป้องโลกอะไร แต่ในอนิเมะจะต่างออกไป โดยโกคูในอนิเมะจะให้เหตุผลที่ไว้ชีวิตพวกนี้ว่า เพราะเขาอาจจะกลับใจหรือลึก ๆ เป็นคนดี ไปจนถึงเราไม่ควรทฆ่าคนที่ไร้ทางสู้ และเขาจะพูดเสมอว่าเขาจะปกป้องโลกปกป้องมนุษย์ทุกคนเอาไว้ ซึ่งมันไม่ตรงกับที่อาจารย์แกต้องการเลย

และอาจารย์แกยังบอกอีกว่า แกมีส่วนร่วมเพียงเล็กน้อยกับในอนิเมะเรื่อง Dragon Ball และ Dragon Ball Z นอกจากจะออกแบบตัวละครต้นฉบับเป็นครั้งคราว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฉบับฉายโรงภาพยนตร์ กับฉบับ OVA นี่ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนักวาดการ์ตูน ที่เมื่อมังงะถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะ มักจะไม่อยู่ในการควบคุมของคนเขียน นอกจากการมาขอคำชี้แนะเป็นครั้งคราว (ซึ่งบางทีก็ไม่เอาไปใช้) ดังนั้นนักวาดการ์ตูนหลายคน รวมถึงอาจารย์โทริยามะ จึงไม่รู้สึกว่าเป็นเจ้าของอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะตัวเองเท่าไหร่ นั่นคือสิ่งที่อาจารย์บอก

เอาจริงๆ ก็แอบตกใจเหมือนกันที่รู้เรื่องราวแบบนี้ เพราะในฐานะคนสร้างเจ้าของผลงาน ต่างก็ต้องการให้อนิเมะของตัวทำตามต้นฉบับที่สุด ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาโดยไม่ขอคำแนะนำจากเรา นี่ยังไม่นับงานเผาที่วาดออกมาได้แย่จนรับไม่ได้อีกนะ คือเข้าใจที่อาจารย์โทริยามะบอกเลย ส่วน Dragon Ball Daima ที่เป็นผลงานสุดท้ายของแกน่าจะโอเค เพราะอาจารย์โทริยามะมีส่วนร่วมในงานนี้เยอะมาก ๆ น่าจะรับประกันความสนุกได้เลยทีเดียว ยังไงก็รอติดตามดูกันได้เลย ที่ถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับ Dragon Ball Daima เราจะรีบเอามารายงานให้ทราบทันทีติดตามเอาไว้ได้เลย