
ในตอนนี้ถ้าใครที่ติดตามอ่านมังงะโรงเรียนฮีโรกู้โลกอย่าง My Hero Academia คงจะได้อ่านตอนจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับคนที่ดูแค่อนิเมะอย่างเดียวในตอนนี้ก็บอกเลยว่าตึงแบบสุด ๆ ชนิดที่เรียกว่าตามติดกันทุกอาทิตย์เลยทีเดียว และตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นที่เมื่อมังงะชื่อดังระดับหัวเรือจบลง อาจารย์นักเขียนที่มีผลงานอยู่ในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ก็ต้องออกมาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนร่วมงาน ที่สามรถจบเรื่องราวได้อย่างพอดีลงตัวและตามที่ตนเองต้องการ (ไม่ใช่โดนทางกองบรรณาธิการสั่งตัดจบ) และหนึ่งในคนที่มาแสดงความยินดีในครั้งนี้คืออาจารย์หุ่น อาตากุมิ เกะเงะ ผู้เขียนมหาเวทตัวประกอบกลืนนิ้วเริ่มมีบทอย่าง มหาเวทผนึกมาร Jujutsu Kaisen มาร่วมแสดงความยินดีด้วย และประโยคที่อาจารย์แกบอกกับอาจารย์ โฮริโคชิ โคเฮย์ คือ "ถ้าไม่มี My Hero Academia ทาง Jujutsu Kaisen คงไม่ได้ไปต่ออย่างที่เห็นทุกวันนี้" ทำไมถึงเป็นแบบนั้นเรามาหาคำตอบกัน
โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยในนิตยสาร Weekly Shonen Jump ที่ถูกเผยแพร่คำพูดของอาจารย์เกะเงะออกมาเพื่อเป็นการชื่นชมสำหรับมังงะซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้ และแสดงให้เห็นว่ามังงะของอาจารย์โฮริโคชิมีอิทธิพลต่ออาจารย์เกะเงะมาก ๆ แถมอาจารย์แกยังได้วางรากฐานให้กับมังงะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันอีกด้วย และสิ่งที่หลายคนไม่ทราบมาก่อนนั่นคือ ตัวอาจารย์ โฮริโคชิ กับอาจารย์ เกะเงะ ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมายาวนาน ขนาดที่เคยไปดูภาพยนตร์ Neon Genesis Evangelion ด้วยกัน ไปจนถึงการสัมภาษณ์ร่วมกันตามงานต่าง ๆ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เข้ากันได้ดี และเป็นแรงบันดาลใจให้กันและกันเพื่อทำผลงานให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกะเงะแสดงความรักที่มีต่อมังงะ My Hero Academia เพราะ เขา (เธอ) ได้บอกถึงความประทับใจและชื่นชอบชื่นชมซีรีส์มังงะนี้มากหลายต่อหลายครั้ง ปล. อาจารย์เกะเงะแกไม่เปิดเผยว่าตัวเองคือใคร และไม่รู้ว่าอาจารย์แกเป็นชายหรือหญิง เลยขอเรียกว่า เขา และ เธอ ในทีเดียว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้อาจารย์เกะเงะแกบอกว่า "ถ้าไม่มี My Hero Academia ทาง Jujutsu Kaisen คงไม่ได้ไปต่ออย่างที่เห็นทุกวันนี้" ก็มาจากบทสัมภาษณ์ของอาจารย์เกะเงะที่บอกเอาไว้ที่นิตยสาร Ki-oon (ผู้จัดพิมพ์มังงะสัญชาติฝรั่งเศส) กล่าวว่า เมื่อซีรีส์อย่าง Bleach และ Naruto จบลงเขา (เธอ) กังวลเกี่ยวกับอนาคตของ Shonen Jump และอนาคตของเขา (เธอ) ในฐานะนักเขียนการ์ตูนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อขาดเสาหลักและคู่แข่งที่ให้ตัวเองพยายามเขียนงานต่อไป แต่ความหวังของเขา (เธอ) ก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้งเมื่อมังงะ My Hero Academia เริ่มตีพิมพ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังแบบเดียวกับซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จในอดีต อาจารย์เกะเงะเลยมีแรงพลักดันให้เขา (เธอ) เดินหน้าเขียนงานต่อไป (อาจารย์แกเป็นคนประเภทต้องมีคู่แข่ง คนที่เป็นเหมือนตัวจุดไฟในการทำงาน)

ในตอนนี้เมื่อมังงะ My Hero Academia จบลงไปแล้ว ส่วนมังงะ Jujutsu Kaisen ก็จะจบตามไป เราคงต้องมารอดูกันต่อไปว่าอาจารย์ทั้งสองท่านนี้จะกลับมาสร้างผลงานเรื่องต่อไปอีกเมื่อไหร่ (อาจารย์ เกะเงะบอกให้ตรูจบ Jujutsu Kaisen ก่อนค่อยว่ากัน) แต่ที่รู้แน่ ๆ คือผลงานของเรื่องใหม่ของทั้งคู่ต้องสนุกและโด่งดังไม่แพ้เรื่องที่จบไปแล้วแน่นอน ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าเราจะรีบเอามารายงานให้ทุกคนทราบทันทีติดตามเอาไว้ได้เลย