ถ้าพูดถึงเกมแข่งรถแนวแกล้งกันด้วยตัวละครน่ารัก เล่นได้ทุกเพศทุกวัยแต่ก็แอบหัวร้อนนิด ๆ หลายคนคงคิดถึงซีรีส์ Mario Kart อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในบ้านเราในช่วงปลาย 90 ถึงต้น 2000 สมัย PlayStation 1 ยังเป็นเจ้าตลาด ได้มีเกมแข่งรถที่ถูกจริตคนเล่นเกมบ้านเรามาก ๆ ตรงข้ามกับต่างประเทศที่ไม่หวือหวาแบบบ้านเรา นั่นคือเกมไก่เหลืองติดล้อ Chocobo Racing เกมแนวแข่งรถแกล้งด้วยตัวละครต่าง ๆ จากซีรีส์ Final Fantasy กับซีรีส์ Chocobo's Dungeon มาร่วมกันแข่งรถตามสมัยนิยม ที่ถ้าเกมซีรีส์ไหนมีตัวละครเยอะ ๆ แต่ถ้ามีไม่เยอะก็ไปยืมตัวละครจากเกมอื่นในค่ายมาแข่งรถกัน ซึ่ง Chocobo Racing ก็ยึดแนวทางนั้น ซึ่งในบ้านเราเกมนี้จัดเป็นหนึ่งเกมในตำนานที่คนมีเครื่อง PlayStation 1 ทุกคนต้องมี และวันที่ 31 กรกฎาคม 1999 ครบรอบ 25 ปี วางจำหน่าย Chocobo Racing บน PlayStation 1 เรามาย้อนอดีตดูเรื่องราวนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย
เริ่มต้นที่เนื้อเรื่องของเกมนี้จะถูกเล่าเป็นบท ๆ เหมือนหนังสือภาพที่ยืมธีมและองค์ประกอบจาก Final Fantasy I ถึง VIII มาใช้งาน โหมดเนื้อเรื่องจะเล่าเรื่องโดย ซิต ที่ให้ โชโคโบะจัง ไปลงแข่งในสนามต่าง ๆ กับตัวละครลับและตัวละครหลักในเกมที่มีทั้งหมด 9 บท ที่พอชนะเราก็จะได้รับรู้เรื่องราวในแต่ละบทที่ต่างกันไป และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเหล่าตัวละครที่สามารถเอามาใช้ได้ โดยเริ่มเกมจะมีตัวละครแค่ 8 ตัวให้เล่นได้แก่ Chocobo, Mog, Golem, Goblin, Black Magician, White Mage, Chubby Chocobo และ Behemoth ส่วนตัวละครลับที่จะได้มาตามเงื่อนไขหลังจากโหมดเนื้อเรื่องอีก 5 คนได้แก่ Cactuar, Bahamut, Cloud, Aya และ Squall โดยแต่ละตัวละครจะมีจุดเด่นจุดด้อยในการวิ่งต่างกันไป เหมือนใน Mario Kart
ใครที่ไม่เคยเล่นตัวเกม Chocobo Racing จะถอดแบบมาจาก Mario Kart แทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรถแบบต่าง ๆ การแกล้งกันด้วยไอเทมไปจนถึงรูปแบบสนาม ที่ให้อารมณ์ที่ดูก็รู้ทันทีว่านี่คือการเอาแรงบันดาลใจมาจากเกมซีรีส์นี้ แต่ตัวเกม Chocobo Racing ก็มีความต่างในหลาย ๆ ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นั่นคือไอเทมที่เก็บในฉากจะไม่ใช่ไอเทมที่แกล้งกันทั่วไป แต่มันคือลูกแก้วเมเทเรียที่ใส่เวทมนตร์ต่าง ๆ ในนั้น ที่มีทั้งเวทมนตร์ไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า นอกจากนี้ก็มีเกาะป้องกัน ตัวเพิ่มความเร็ว ที่ถ้าเราเก็บมา 1 ลูกมันจะมีอนุภาพไม่แรง แต่ถ้าเราเก็บครบ 3 ลูกในฉากเป็นสีเดียวกัน เราจะสามารถใช้พลังเวทที่รุนแรงใส้ศัตรูได้
แต่ความสนุกที่แท้จริงของเกมนี้ไม่ใช่การใช้ลูกแก้วเวทมนตร์ ที่เรารวบรวมได้ยิงใส่ศัตรูที่อยู่ข้างหน้า แต่มันคือการแกล้งกันด้วยการวิ่งชนศัตรู ที่พอเราวิ่งชน (ต้องเป็นฝ่ายวิ่งชนเขาอย่างเดียว) เราจะสามารถขโมยลูกแก้วเวทมนตร์จากศัตรูได้ (หนึ่งตัวละครเก็บลูกแก้วเวทมนตร์ได้ 3 ลูกไม่ซ้ำกัน) ที่ถ้าเรามีลูกแก้วที่ต้องการเราก็จะรวบรวมพลังได้เร็วขึ้น และในทางกลับกันเราก็สามารถโดนขโมยไปได้เหมือนกัน ซึ่งความสนุกที่ถูกจริตคนเล่นเกมบ้านเรามันอยู่ตรงนี้นั่นเอง
ในส่วนของต่างประเทศตัวเกม Chocobo Racing ได้รับเสียงตอบรับเชิงลบจากนักวิจารณ์อย่างมาก เริ่มจาก IGN กล่าวว่าเกมดังกล่าวเป็นความพยายามของ Square ที่จะหากำไรจากประเภทเกมแข่งรถโกคาร์ตยอดนิยมอย่าง Mario Kart ที่ประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งนักวิจารณ์รายอื่นก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ โดยบางสำนักบอกว่าเกม Chocobo Racing เป็นเกมที่น่าเบื่อกราฟิกที่มีสีสันที่ไม่ขัดเกลา การออกแบบสนามแข่งที่ไม่ดีและการควบคุมที่แย่ ส่วนทาง NextGen เรียกเกมนี้ว่าเกมแข่งรถโกคาร์ตซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไป แต่ขาดสนามแข่งแบบเดธแมตช์ที่ทำให้ Mario Kart เป็นที่นิยม ส่วนในญี่ปุ่นทาง Famitsu ให้คะแนนเกมนี้ 30 จาก 40 คะแนน
ใครที่สนใจอยากหามาเล่นเพื่อรำลึกความทรงจำในวัยเด็กก็ไม่ต้องไปซื้อเครื่อง PlayStation 1 กับแผ่นมาเล่นให้เสียเวลา เพราะตัวเกมได้มีภาคต่อ (หรือเอามาทำใหม่) ในชื่อ Chocobo GP ที่วางจำหน่ายบน Nintendo Switch ที่ให้อารมร์เหมือนกับ Chocobo Racing ดั่งเดิมและมีตัวละครเยอะกว่า แต่เท่าที่รู้มากระแสตอบรับจากแฟน ๆ ในบ้านเราไม่ชอบเกมภาคนี้ และบอกว่า Chocobo Racing ฉบับเก่าดีกว่า อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะชอบก็แล้วกัน ส่วนราคาแผ่น Chocobo Racing ก็ตามแต่สภาพเก่าใหม่ลองไปหามาสะสมดู ตั้งแต่หลักร้อยต้น ๆ จนถึงพันกลาง ๆ ตัวเกมแม้จะเก่าแต่เอามาเล่นกับเพื่อน ๆ ก็ยังสนุกอยู่ลองไปหามาเล่นดูคุณอาจจะชอบเกมนี้มากกว่า Mario Kart ก็ได้ใครจะรู้