
หลังจากที่รอมานานในที่สุดเราก็ได้ดูเสียที กับฮีโรสุดยียวนกวนส้นเท้าแถวปากแจ๋วอย่าง Deadpool 3 กับการเปิดจักรวาลครั้งล่าสุดของพี่แกที่ไม่น่าจะมีหนังเดี่ยวของตัวเองแต่ก็ดันมีมาถึง 3 ภาคเฉยเลย (อันนี้เจ้าตัวพูดเองในภาพยนตร์) แต่มาคราวนี้เขาไม่ได้มาพร้อมกับ ทานอส ในร่าง เคเบิล แบบใน Deadpool 2 แต่เขามาพร้อมกับเฮียเครางามชุดเหลือง วูล์ฟเวอรีน ที่ทาง Disney กับ Marvel จะให้ ฮิวจ์ แจ็คแมน เล่นบทนี้ไปจนถึงอายุ 90 (พี่แกพูดเองในภาพยนตร์) มาร่วมด้วยช่วยสู้ในการกอบกู้จักรวาลครั้งนี้ในฐานะฮีโรชุดแดงขี้เหงาปากดีกับฮีโรซึนเดเระ Deadpool & Wolverine เรามาดูรีวิวกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกอบกู้จักรวาล Marvel ที่กำลังหกล้มได้ไหมมาดูกัน
เริ่มจากเนื้อเรื่องกันก่อนอย่างที่เราได้รับรู้กันในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาว่า ตัวของ เวด วิลสัน กำลังฉลองในเกิดของตัวเองโดยมีเพื่อน ๆ มาร่วมยินดี ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนจากกลุ่ม X-Force ที่เหลือ 2 คน เพื่อนจาก X-Man 3 คน คุณป้าตาบอด คนขับแท็กซี่ และแฟนเก่า (อู้ยแรง) ซึ่งในตอนนี้เวดเลิกเป็น เดดพูล ฮีโรชุดแดงแต่มาทำงานเป็นพนักงานขายรถทำอาชีพแบบคนธรรมดา แต่แล้วตัวของเวดก็ถูก TVA องค์กรจัดการสาขาเวลา มาจับตัวไป และบอกว่าเขาต้องเป็นผู้กอบกู้จักรวาลของตัวเองก่อนที่จะถูกลบไป เพราะในจักรวาลของเขานั้นไม่มีตัวแปรสำคัญอย่าง วูล์ฟเวอรีน อยู่ในจักรวาลนี้มิตินี้จึงจะล่มสลาย เวดที่รู้แบบนี้เขาจึงอยากปกป้องจักรวาลของเขากับเพื่อน ๆ จึงต้องกลับมาสวมชุดแดงเป็นเดดพูลอีกครั้ง นั่นคือเรื่องราวของย่อ ๆ ของเรื่องนี้

สิ่งแรกที่เราต้องบอกและคุณต้องรู้ก่อนว่าใน Deadpool & Wolverine ภาคนี้จะไม่ใช่หนัง Deadpool ของ 20th Century Fox อีกต่อไป แต่ตอนนี้มันคือหนังของ Disney กับ Marvel จึงไม่ต้องแปลกใจว่าตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องจะได้ยินเดดพูลแซะด่าแซวจิ 20th Century Fox ตลอดทั้งเรื่อง ขนาดที่ขึ้นมึงขึ้นกูกันเลยทีเดียว (พอดีคนเขียนดูพากย์ไทย) ในส่วนของตัวเรื่องก็ยังคงความเป็น Deadpool ที่เรารู้จักทั้งเลือดความรุนแรงคำหยาบคายไปจนถึงเรื่องเพศและการโวค เรียกว่าจัดเต็มแบบตรูจะทำแบบนี้ต่อให้ ไพกี (ผู้บริหาร Marvel) ก็ห้ามไม่ได้ (เดดพูพูดเองในหนัง) แต่ทาง Disney เขาห้ามพูดถึงเรื่องยาเสพติดทุกอย่าง จะพูดอ้อม ๆ พูดข้าม ๆ พูดแบบไม่ให้เอ่ยถึงอย่าง น้ำแข็ง แป้ง ยาเพิ่มความหรรษา หรือแม้แต่ ไปปั้นมนุษย์หิมะด้วยกันไม๊ ก็ไม่ได้ (แต่พี่แกพูดเองหมดเลย) และที่ขาดไม่ได้แถมเยอะกว่าเดิมคือการคุยกับคนดู เหมือนพี่แกรู้ว่าตัวเองคือเรื่องราวในภาพยนตร์ จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะได้เห็นการเบรคเดอโฟร์ทวอลหรือการคุยกับคนดูอยู่บ่อย ๆ แบบที่ทั้ง 2 ภาคเคยมีแถมเยอะกว่าเดิมด้วย

ส่วนปมปัญหาหลัก ๆ ของภาคนี้ที่ดูภายนอกก็เป็นแค่การไปตามตัววูล์ฟเวอรีนมา และต้องสู้กันบ้างสองสามครั้งเพราะคนดูอยากดูฉากเหล่านี้ (พี่แกบอกในหนัง) ก็มีประเด็นจุดเปลี่ยนของชายวัยกลางคนที่เวดนั้นเริ่มอยากเป็นคนสำคัญที่เอาจริง ๆ ถ้าคุณได้ดูมาตั้งแต่ Deadpool ภาค 1 คุณจะเห็นบางอย่างที่ทางคนสร้างจงใจทิ้งเอาไว้ นั่นคือตัวของ เวด หรือ เดดพูล นั้นโหยหาเพื่อนและเป็นคนขี้เหงามาก ๆ แต่ด้วยความยียวนกวนส้นเท้าของพี่แก เลยกลายเป็นการผลักคนที่ไม่รู้จักตัวตนของเขาให้ออกไป แต่คนที่รู้จักเขาจริง ๆ ก็ยังอยู่ ซึ่งเวดก็รู้ดีแต่เขาก็อดพูดไม่ได้ และเมื่อมาถึงจุด ๆ หนึ่งเขาก็อยากได้รับการยอมรับที่มากขึ้น และเมื่อมันไม่ได้เขาเลยเกิดภาวะซึมเศร้าจนเลิกเป็น Deadpool
แต่ด้วยภารหน้าที่เขาจึงต้องกลับไปเป็น Deadpool คนเดิม และพอเขาได้เห็นวูล์ฟเวอรีน ที่เป็นเหมือนสิ่งที่เขาต้องการ คือมีทั้งเพื่อนมีชื่อเสียงต่างกับตนที่มีแค่เพื่อน 9 คน เดดพูลเลยแอบอิจฉาตามแซะและไม่ค่อยพอใจว่าทำไมนายมีสิ่งที่ฉันอยากมีแต่นายกลับทิ้งมันไปได้ยังไง ส่วนตัววูล์ฟเวอรีนเองก็มีปมที่ตนได้ทำพลาดไปจึงทำให้เขาทิ้งทุกอย่างจนกลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งมันคือปมอะไรนั้นไปดูในโรงภาพยนตร์เอาเอง แต่บอกเลยว่าปมทั้งคู่นั้นคือภาวะรอยต่อของคนวัยกลางคนจริง ๆ

ในส่วนของตัวร้ายภาคนี้ถ้าใครที่ไม่รู้จักจักรวาล X-Man คงงงว่าเจ๊แกไปเป็นพี่น้องกับ ชาร์ล เซเวียร์ ตอนไหน ก็ต้องอธิบายแบบนี้ก่อนว่าตัว คาสซานดร้า โนวา นั้นจริง ๆ เธอเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ถูกเอามาใส่ในท้องแม่ของชาร์ล เซเวียร์ และด้วยความที่พี่แกเป็นมนุษย์ต่างดาวเลยคิดจะฆ่าชาร์ลด้วยการเอารกมารัดคอ แต่ชาร์ลที่เป็นทารกในท้องก็สู้กลับจนนางไม่ได้เกิดออกมา (แต่ในบางจักรวาลก็บอกว่าเกิดพร้อมกัน) พอโตมาด้วยความที่เจ๊แกมีพลังจิตเทียบเท่ากับชาร์ลเธอเลยเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคนหนึ่งของ X-Man และด้วยพลังที่โอพีแบบนี้เธอเลยถูกตัดบทออกไปจากจักรวาลคอมมิค ส่วนในภาพยนตร์ก็หาจุดลงให้เธอได้อย่างลงตัวแม้จะแอบดูขัด ๆ ไปหน่อยก็ตาม แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคไม่ได้แย่

ส่วนข้อเสียหลัก ๆ ของ Deadpool & Wolverine เลยก็คือไอ้เดดพูดพูดมากเกินไป แบบพูดมากจนน่ารำคาญแบบสุด ๆ (อันนี้ผู้สร้างจงใจให้เป็น) กับปมเนื้อเรื่องตัวละครที่เดาทางง่าย ๆ ว่ามันต้องออกมาเป็นทางนี้แน่ ๆ และพอเราจับทางได้เราก็จะรู้เลยว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่โดยรวมไม่แย่โดยเฉพาะเหล่าแขกรับเชิญที่บอกเลยว่าชวนเหวอแบบสุด ๆ ทุกคน แบบพี่เอามาได้ไงเนี้ยสุดจริง (นี่ถ้ามี กรีนแลนเทิร์น ของ DC มาด้วยจะครบองค์พอดี) ใครที่สนใจบอกเลยว่าต้องดูของดีย์แบบนี้ไม่ควรพลาด ขอให้คะแนน 8.5 เต็ม 10 ต่อให้คุณไม่ใช่แฟน Marvel ก็ควรดูบอกเลย