
จู่ ๆ ก็มาแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวกันเลยทีเดียว กับซีรีส์บ้านแสนสุขที่เหมือนนรกบนดินอย่าง Sweet Home ซีซัน 3 ซีรีส์ดาร์กแฟนตาซีที่เล่นเกี่ยวกับจิตใจความรู้สึกของคน ที่เมื่อจิตใจของคน ๆ นั้นมีความปราถนาอันแรงกล้าจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาด ที่ถ้าใครได้ดูซีรีส์นี้มาตั้งแต่ต้นคงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาในแต่ละซีซันว่ามันช่างต่างกันมาก ๆ โดยเฉพาะซีซันที่ 3 ที่เป็นตอนจบของเรื่องราว ที่หลายคนคิดว่ามันก็จบได้โอเคแต่ก็มีหลาย ๆ อย่างที่คนดูรู้สึกขัดใจที่ตัวซีรีส์เหมือนจะรีบขมวดปมรีบจบเกินไป จนหลายคนต้องมานั่งกดดูย้อนหลังและทำความเข้าใจเอาเอง รวมถึงตัวละครที่มันดูขัดแย้งในตัวเองแบบแปลก ๆ วันนี้เรามาดูกันว่าซีรีส์ Sweet Home ซีซัน 3 มันโอเคหรือไม่อย่างไรเรามาดูไปพร้อมกันเลย
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาต้องขอบอกกับคนที่ไม่เคยดูซีรีส์ Sweet Home ให้ไปดูทั้ง 2 ซีซันมาก่อน ส่วนใครที่ลืมไปแล้วก็แนะนำให้ดูซ้ำเพื่อเก็บข้อมูล เพราะเมื่อเปิดเรื่องมาในซีซัน 3 หลายคนก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าตอนที่แล้วจบอย่างไร เพราะแม้จะมีการเท้าความใน 2 ซีซันที่ผ่านมาเราก็ยังงงกันอยู่ดี โดยเรื่องราวในซีซันที่แล้วตัวของ ชาฮยอนซู ที่ตอนนี้กำลังลูกผีลูกคนเพราะปีศาจในใจของเขาพยายามจะยึดร่าง ส่วนทาง นัมซังวอน หรือตัวทดลองรุ่นแรก MH-1 ที่ยึดร่างคุณลุง พยองซังอุค ก็ปล่อยตัวทดลอง MH คนอื่น ๆ ออกมาและอยู่ในสถานีวิจัยนั้น จนทาง ดร.ลิม ได้ขอให้หน่วยกาดำไปที่ศูยน์วิจัยเพื่อเก็บตัวอย่างทดลอง จนทำให้พวกนัมซังวอนมีเป้าหมายที่จะตามหาลูกตนเอง ที่เกิดจาก ซออีกยอง เพื่อเป้าหมายบางอย่าง ขณะที่ซออีกยองก็ถูกลูกสาวตัวเองที่เป็นลูกครึ่งมนุษย์สัตว์ประหลาด ก็เปลี่ยนแม่ตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดก่อนจะหนีไป ทางชาฮยอนซูที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องทิ้งเธอลงหลุม เรื่องราวคร่าว ๆ ของซีซันที่ 2 จะเป็นประมาณนี้ อ้อและเกือบลืมว่าตอนท้ายซีซัน 2 คุณพี่ชายแว่น อีอึนฮยอก ก็ออกมาจากรังไหมเป็นการทิ้งท้ายก่อนจบอีกด้วย

สำหรับคนที่ดูมาแล้วสิ่งแรกที่ Sweet Home ซีซัน 3 มีคือความอืดยืดยาดเหมือนที่ซีซัน 2 ทำในช่วงกลางเรื่อง กับการเดินทางของชาฮยอนซูกับเพื่อน ๆ เพื่อไปที่สนามกีฬา แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นชาฮยอนซูต้องต่อสู้กับจิตของสัตว์ประหลาดตัวเองที่มายึดร่างตน กับเรื่องราวดาม่าของเจ๊เห็ดพิษกับคุณลุงนักพรางตัวให้เราน้ำตาซึม แถมด้วยการแก้ไขปมเรื่องของเจ๊ซออีกยองที่กลายเป็นสัตว์ประหลาดและอยู่ในหลุม ขณะที่ทางนัมซังวอนก็กำลังจะเดินทางไปที่สนามกีฬาเพื่อตามหาลูกของตน ส่วนลูกของซออีกยองหลังจากที่เปลี่ยนแม่ตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดก็เดินทางมาที่สนามกีฬาตามภาษาเด็ก ซึ่งตรงนี้มันเหมือนจะมีเนื้อเรื่องที่เดินไปข้างหน้า แต่สุดท้ายก็เดินไปอย่างเชื่องช้ามาก ๆ เพราะซีรีส์ต้องการเน้นฉากดราม่าต่าง ๆ กับการกระจายบทของตัวละคร ก่อนที่ทุกตัวละครจะมารวมกันที่สนามกีฬาในตอนท้าย
และพอเราดูมาถึงช่วงกลางของซีรีส์เราจะเกิดคำถามที่ว่า แล้วพี่แว่นอีอึนฮยอกของน้องสุดปากแจ๋วสู้ชีวิตอย่าง อีอึนยู หายไปไหน เพราะพี่แกออกมาจากดักแด้แล้วนี่นา ซึ่งกว่าที่พี่แกจะมีบทเราก็ลืมตัวละครนี้ไปแล้ว จนเมื่อเขาปรากฎตัวออกมาก็เป็นการพบกันระหว่างพระเอกทั้งสอง ระหว่าง อีอึนฮยอก และ ชาฮยอนซู ซึ่งมันเป็นโมเม้นที่เจ๋งที่สุดในซีรีส์ตอนนี้เลย เพราะตอนนี้ทั้งคู่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือมนุษย์ไปแล้วทั้งคู่แต่ต่างสายพันธ์และเป็นอริกันตามธรรมชาติ ซึ่งตั้งแต่การพบเจอกันของทั้งสอง เนื้อเรื่องช่วงนี้ก็จะเริ่มเร่งความเร็วขมวดปมต่าง ๆ ที่มีให้รีบจบ เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเล่าเยิ่นเย้อเกินไปควรรีบจบได้แล้ว ว่าแล้วก็รีบเอาทุกอย่างมาขมวดใน 3 ตอนท้ายแบบรวดเร็วจนตัวละครหลาย ๆ ตัวทำอะไรแปลก ๆ จนแอบขัดใจ

จากนี้ไปจากมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูข้ามไปตอนท้ายในบทสุปได้เลย เริ่มจากตัวพระเอกของเราอย่างชาฮยอนซูที่ถูกปีศาจเข้ายึดร่าง ตอนแรกตัวปีศาจก็ดูเท่และทำตามใจตัวเอง แต่พอพี่แกยึดร่างชาฮยอนซูไปนาน ๆ นิสัยก็เริ่มเปลี่ยนจากตัวละครเท่ ๆ กลายมาเป็นเบ้ไม่ต่างกับตัวชาฮยอนซูเลย แถมในตอนท้ายก็รีบด่วนสรุปว่าปีศาจมันยอมแพ้เพราะมันเริ่มใจอ่อนให้กับอีอึนยู จนสุดท้ายทั้งสองร่างก็มารวมกันแบบง่าย ๆ แบบนี้เลยทั้งที่ตั้งแต่ซีซัน 1 เอ็งสู้กันมาเกือบตาย อีกคนที่จู่ ๆ เหมือนจะถูกตัดบทเพื่อปูไปสู่ตอนจบเลย นั่นคืออีอึนยูที่เธอมีบทบาทมาก ๆ ในซีซีน 2 และ 3 แต่ช่วงท้ายเธอก็ถูกตัดบทที่เราคนดูพอเห็นเธอขอแยกตัวไปก็รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในตอนจบ
และสองคนที่คนดูรู้สึกขัดที่สุดก็คือพี่อีอึนฮยอก ที่บอกว่าตัวเองมีความทรงจำในอดีตครบแต่ไม่มีความรู้สึกเลยไม่สนใจน้องสาวกับคำสัญญาที่ให้เอาไว้ในตอนท้ายซีซัน 1 ซึ่งตัวอีอึนยูก็พยายามดึงตัวตนจิตใจพี่ชายออกมาซึ่งดูแล้วไม่น่าจะได้ผล แต่พอตอนจบพี่แกก็เปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือเฉย แบบจู่ ๆ พี่แกก็กลับมาเป็นพี่จ๋าคนเดิมของน้องอีอึนยูเฉย ทั้งที่ตลอดมาเอ็งบอกว่าไม่สนใจน้องไง คือพี่แกไม่สนใจจริง ๆ ไม่ได้แกล้งไม่สน แต่พอจบเรื่องก็เปลี่ยนนิสัยเฉยเลยอันนี้คืองงมาก ส่วนที่ขีดใจสุด ๆ คือตัวร้ายของเรื่องอย่างนัมซังวอนที่พี่แกพยายามจะยึดร่างลูกตัวเองอันนี้เข้าใจ แต่ที่ไม่เข้าใจคือพรี่จะฆ่าพวกเดียวกันเองทำไม ในเมื่อพวกนั้นก็จงรักภักดีกับพี่มาก ๆ แต่พี่สั่งฆ่าเฉย เหมือนจะบอกว่าตรูได้ร่างลูกตรูอยู่คนเดียวได้ว่างั้น และพอตอนท้ายที่ยึดร่างลูกได้แล้วก็ถูกลูกแย่งร่างคืนได้ง่าย ๆ ที่ถ้าจะบอกว่าเพราะน้องบาดเจ็บจนทำให้จิตของพ่อในร่างอ่อนแอลงอันนี้ก็พอจะแถได้ แต่ในตอนท้ายที่แกกลับไปร่างลุงพยองซังอุคและออกไม่ได้จนสุดท้ายตัวเองก็ตุยในกองไฟ ทั้งที่เงื่อนไขการย้ายร่างคือการทรมานใกล้ตายถึงจะย้ายร่าง แต่ตอนนี้กลับออกจากร่างลุงแกไม่ได้เฉยเลย เพราะลุงแกจิตใจเข้มแข็งจนยึดร่างคืนได้ แต่ทำไมก่อนหน้านี้ถึงเอาคืนไม่ได้ และลุงแกตายไปแล้วไม่ใช่หรอตอนที่นัมซังวอนย้ายร่างออกมาไปสิงลูก จู่ ๆ จิตลุงแกกลับมาได้ไง (ในเรื่องแถว่าลุงแกยังไม่ตายสนิทตอนยึดร่างครั้งแรก) คือเอ็งจะตัดจบให้ตัวร้ายตายแบบนี้ไม่ได้นะ
นี่ยังไม่นับที่พี่แกบอกว่าตัวเองไม่มีความทรงจำและจำไม่ได้ว่าตัวเองคือใคร แต่จู่ ๆ พี่แกก็จำตัวเองได้แค่เห็นร่างตัวเองในโหลแค่นี้เนี้ยนะ แต่ทำไมคนอื่น ๆ ถึงจำทุกอย่างได้ และพอจำได้พี่แกก็เพิ่งจะนึกออกว่าตัวเองมีลูกแต่ก็รอตั้งปีกว่าจะออกตามหา แถมรู้ว่าลูกตัวเองโตเร็วอีกต่างหาก อีกคนที่เปลี่ยนบทจนรับไม่ทันคือดร. ลิม ที่ตอนแรกอย่างร้ายพอมาในซีซัน 3 ก็เปลี่ยนเป็นคนดีและก็มาร้ายใหม่จากคนที่วางแผนรอบคอบกลับมาตายแบบโง่ ๆ ไม่สมกับที่ทำเลย เหมือนรีบตัดบทสรุปทุกอย่างเกินไป

สรุปโดยภาพรวมแล้วตัวซีรีส์ Sweet Home ซีซัน 3 มันไม่ได้แย่แถมดูสนุก เป็นการขมวดปมปัญหาที่ผูกเอาไว้ครบทุกปม แม้จะมีบางปมที่หลายคนสงสัยแต่ดูเหมือนผู้กำกับจะให้เราไปคิดเอาเอง ด้วยการเล่าเรื่องผ่านภาพแบบเร็ว ๆ ว่าอะไรเกิดขึ้นต่อไปบ้าง และถ้าไม่นับการเร่งรีบจบจนตัวบทตัวละครมันรวนจนรู้สึกเอะใจ และดูแบบไม่ต้องไปนั่งจับผิดก็ถือว่าโอเคอยู่ แต่ถ้าจะให้ดีควรเอามาขยายเพิ่มเติมกว่านี้จะดีมาก ๆ อย่างเพิ่มไปซีซัน 4 ต่อยังได้เลย เพราะเนื้อเรื่องมันยังมีอะไรให้เล่าอีกตั้งเยอะแถมตัวละครหลาย ๆ ตัวก็ปูมาดียังเอามาใช้ต่อได้ แต่นี่เอามาตัดจบตายแบบไม่มีเหตุผลมันเลยค่อนข้างขัดใจ เลยขอให้คะแนน Sweet Home ซีซีน 3 ไป 6.7 เต็ม 10 ก็แล้วกัน ลองไปดูเอาเองแล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในบทความนี้จริงไหม