
หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างออกมาของภาพยนตร์คนแสดง ที่สร้างมาจากมังงะอนิเมะชื่อดังอย่าง ฝันให้ไกลด้วยปลายพู่กันอย่าง Blue Period ออกมาให้เราดู ข่าวคราวก็เงียบหายไปนานจนหลายลืมไปแล้วว่ามังงะอนิเมะเรื่องนี้ถูกเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ จนตอนนี้มีข่าวคราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกำหนดวันฉายของภาพยนตร์ออกมาแล้ว รวมถึงข้อมูลเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้และการบอกเล่าเรื่องย่อของอนิเมะเรื่องนี้ เพื่อใครที่ไม่รู้จักและเข้ามาอ่านข่าวนี้จะได้รู้จักเรื่องราวของมังงะอนิเมะเรื่องนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูไปพร้อมกันเลย
เริ่มจากข้อมูลที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้กันก่อน ซึ่งสำหรับคนที่ติดตามข่าวสารของอนิเมะหรือได้ดูตัวอย่างข้างบนมาแล้ว คงจะรู้ดีว่าภาพยนตร์ Blue Period นั้นจะเล่าตามในมังงะตั้งแต่ที่พระเอกของเราอย่าง ยาโตระ ยากูจิ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ อย่างไร้จุดหมาย ก่อนที่เขาจะได้เจอกับภาพวาดของรุ่นพี่ที่ชมรมศิลปะ นั่นเลยทำให้เขาที่เคยชอบการวาดรูปแต่ลืมไปแล้วได้กลับมาเดินสายนี้ โดยข้อมูลบอกว่านักแสดงทุกคนที่มาเล่นเรื่องนี้ต้องไปฝึกพิเศษด้านการวาดภาพก่อนเริ่มถ่ายทำจริง และคุณ มาเอดะ คนที่มารับบทเป็น ยากูจิ ในเรื่องก็ใช้เคยใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงในการวาดรูปโดยไม่ลุกไปไหนแบบที่จิตกรตัวจริงทำด้วย (อินในบทสุด ๆ)
นอกจากนี้ในส่วนของการวาดรูปที่เป็นจุดขายของมังงะอนิเมะเรื่องนี้ ทางทีมงานจะเน้นเป็นพิเศษด้วยการใช้กล้อง 2 ตัวถ่ายมือการเคลื่อนไหวของฝีแปลงการตวัดสีและการแต้มจุดต่าง ๆ ลงบนฝืนผ้า รวมถึงตอนใช้ดินสอที่ต้องการสื่อถึงพลังแบบเดียวกับที่อนิเมะฉายออกมา นอกจากนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเรื่องก็คือฉากและตัวละครต่าง ๆ ที่อ้างอิงมาจากในอนิเมะมาให้มากที่สุด และเมื่อดูรูปด้านล่างแล้วรู้สึกแปลก ๆ กับวิกผมนั่นคือความจงใจที่ทางผู้กำกับจงใจใส่ลงไป ซึ่งคนที่เคยอ่านเคยดูมาแล้วจะเข้าใจว่าทำไมผู้กำกับถึงทำแบบนั้น นั่นคือข้อมูลบางส่วนที่ทางผู้กำกับเปิดเผยออกมา

ในส่วนของเนื้อเรื่องของ Blue Period จะตามติดชีวิตของ ยาโตระ ยากูจิ ชายหนุ่มติดเพื่อนที่เรียนค่อนข้างเก่งกีฬาดีมีโดดเรียนเกเกรบางและพกบุหรี่แต่ไม่ดูด ซึ่งเขาพยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่นเพราะตนเองไม่รู้ว่าจะเดินทางชีวิตแบบไหน และที่ทำทุกอย่างให้ดีก็เพราะมันจำเป็นต้องทำเพื่อเข้าสังคม (รวมถึงการพกบุหรี่เพื่อให้เพื่อนสูบในการเข้าสังคมเพื่อน) จนวันหนึ่ง ยากูจิ ก็ได้เจอกับภาพวาดนางฟ้าของรุ่นพี่ในโรงเรียนวาดไว้ จนทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ของความงามในภาพนี้ ยากูจิจึงอยากเรียนศิลปะเพราะมันก็เคยเป็นส่วนหนึ่งที่เขาเคยสนใจ ที่เริ่มจากคนที่ไม่รู้เรื่องการวาดรูปเลยจนต้องเรียนพิเศษเพื่อมีเป้าหมายในการสอบเข้า มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งโตเกียว ที่ขึ้นชื่อว่าสอบเข้ายากมากที่สุด การตามฝันจึงเริ่มขึ้นนับต้งแต่นั้น
โดยเนื้อเรื่องใน Blue Period จะไม่ใช่อะไรที่มันน่าตื่นเต้นอะไรเลย ตรงข้ามมันกลับเนิบ ๆ เรื่อย ๆ และใส่เกร็ดต่าง ๆ ของการวาดรูปลงไป พร้อมกับตัวละครต่าง ๆ ที่อยู่ในชมรมกับที่เรียนพิเศษ ที่แต่ละครก็มีปมของตัวเองอย่างการเป็นสาวสองที่ครอบครัวไม่โอเค แถมยังมาวาดรูปอีกเลยโดนสองเด้ง การเรียนต่อสายศิลป์ที่พ่อแม่พี่สาวเคยทำจนกดดันตัวเอง หรือตรงข้ามที่พ่อแม่คัดค้านให้ลูกเรียนศิลป์เพราะมันดูไม่มีอนาคต ซึ่งทั้งหมดจะสะท้อนมุมมองของคนที่มีต่อการจิตกรเป็นอย่างมาก ลองไปหามาดูแล้วจะเข้าใจในส่วนนี้
ใครที่สนใจอยากเรื่อง Blue Period ก็มีทั้งแบบมังงะแบบเล่มและแบบ E-Book ให้ได้สะสม รวมถึงแบบอนิเมะที่มีฉายตามที่ต่าง ๆ ทั้งแบบซับไทยพากย์ไทยให้เลือกดู ส่วนตัวภาพยนตร์มีกำหนดฉายในช่วงเดือนสิงหาคมปีนี้ที่ญี่ปุ่น และน่าจะมาฉายบ้านเราแน่นอนแต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้น ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าเราจะเอามารายงานให้ทราบทันที พอดูจบคุณจะมองการวาดรูปและงานศิลป์ต่างไปจากเดิม ไม่เชื่อลองไปหามาอ่านมาดูแล้วคุณจะเข้าใจ