
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาต้องอธิบายสำหรับคนที่ไม่ทราบก่อนว่า มหาเวทผนึกมาร ตอนที่ 262 พาร์ท 2 นั้นจะเป็นตอนต่อจากคราวที่แล้วที่อาจารย์ป่วยกระทันหันเลยเขียนไปได้แค่ 7 หน้าก่อนจะหยุดยาวเป็นเดือน เมื่อหายดีอาจารย์แกก็มาเขียนตอนที่ 262 ต่อให้จบ เมื่อเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยเรามามาเท้าความตอนที่ 262 พาร์ท 1 กันก่อน กับศึกการกางอาณาเขตที่ต่างฝ่ายต่างมีพลังในการกางอาณาเขตแค่ราว ๆ 3 นาที ซึ่งตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ต้องยื้อเอาไว้เพื่อเอาชนะอีกฝ่าย และก่อนจะเริ่มการต่อสู้ครั้งนี้ยูตะเคยสลับร่างกับโกะโจมาก่อน เพื่อให้ยูตะไปเรียนรู้วิชาการกางอาณาเขตและใช้ร่างของโกะโจให้คล่อง จึงไม่น่าแปลกใจที่ยูตะจะใช่ร่างนี้จนคล่องจึงไม่ได้เสียเปรียบอะไร ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่ ริกะจัง วิญญาณคำสาปของ ยูตะ กำลังกอดร่างไร้วิญญาณนี้อยู่เรื่องราวจบลงตรงนี้

ตัวเรื่องเริ่มต้นด้วยภาพของริกะจังที่กำลังร้องไห้กอดร่างยูตะที่ไร้วิญญาณ ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่การต่อสู้ระหว่าง ยูตะ ในร่างของ โกะโจ (ต่อไปจะขอเรียกว่ายูตะแล้วกันจะได้ไม่งง) ที่ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดภายใต้อาณาเขตของทั้งสองคนกางเอาไว้ ต่างฝ่ายต่างพลัดกันต่อยกันไปมา แต่ดูเหมือนทางฝ่ายยูตะจะได้เปรียบเพราะสามารถหลบหมัดของ สุคุนะ ได้ โดยในระหว่างที่ยูตะกำลังต่อสู้เขาก็บ่นกับตัวเองว่าตอนนี้เขาไม่มีริกะสิงร่างอยู่ เลยทำให้เขาไม่สามารถใช้อาคมต่าง ๆ ได้ นอกจากอาคมไร้ขีดจำกัดร่างที่เป็นอาคมของอาจารย์โกะโจเท่านั้น แต่ด้วยการฝึกย้ายมาสิงร่างอาจารย์โกะโจมาก่อนเลยทำให้ยูตะพอจะจับทางอะไรบางอย่างได้ ส่วนทางสุคุนะตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้ท่าใหญ่ ๆ ได้เพราะตัวเองตอนนี้สภาพไม่เต็มร้อยจากการต่อสู้มาอย่างยาวนาน (ไหนว่าพี่แกยังไม่เอาจริง)
ในตอนนี้ฝ่ายยูตะเริ่มจะย่ามใจและคิดว่าตนเองนั้นเหนือกว่าสุคุนะ ที่ตอนนี้ไม่สามารถประสานนิ้วเพื่อให้อาคมแรง ๆ อย่างมุคะเก็น (ท่าผ่าโลก) ตอบโต้ยูตะได้เพราะแขนที่หายไป โดยท่านี้มันมีความรุนแรงมาก ๆ จนยูตะคิดว่าถ้าสุคุนะใช้ท่านี้ตนเองคงต้านไม่ไหว แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่สามารถใช้ได้ยูตะก็เลยเป็นฝ่ายบุก แต่การรุกครั้งนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะอาจารย์โกะโจแกเป็นคนตัวสูงแขนขายาวยูตะเลยกะการเตะต่อยไม่ถนัดรวมถึงการใช้อาคมได้แม่นยำ เพราะอาคมของอาจารย์โกะโจนั้นก็ซับซ้อนมาก ๆ ขนาดตัวอาจารย์โกะโจเองยังต้องมีดวงตาริคุกันในการควบคุมและใช้อาคมของตน ยูตะจึงใช้ดวงตาริคุกันเพื่อทำสิ่งเดียวกันแต่อาจจะไม่ดีเท่าตัวของอาจารย์โกะโจที่ฝึกมาตั้งแต่เด็ก แถมเขาก็เคยใช้ร่างอาจารย์โกะโจแค่ครั้งเดียวจึงใช้อาคมของอาจารย์โกะโจได้ไม่เต็มที่ ก่อนที่ภาพจะตัดมาที่อาจารย์โกะโจในอดีตที่เคยบอกกับยูตะว่า "ไม่เป็นไรหรอกยูตะคุง เพราะตัวของฉันนั้นแข็งแกร่งที่สุด" นี่ขนาดตุยไปแล้วยังมีบมให้เท่ได้อีกนะ

ตัดมาที่ยูตะในร่างอาจารย์โกะโจก็เข้าใจทันทีว่ากว่าที่อาจารย์แกจะมาถึงจุดสูงสุดที่ว่านี้ได้ แกต้องฝึกฝนมามากมายขนาดไหนกว่าจะมาได้ขนาดนี้ ขณะที่สุคุนะที่ทำการต่อสู้กับยูตะก็เริ่มรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พร้อมจึงได้จึงพูดดูถูกยูตะไปว่า "ไอ้หนูไปฝึกมาก่อนดีไหม มาฝึกเอาตอนสู้ในสนามรบมันใช้ไม่ได้หรอกนะ" ว่าแล้วพรี่สุคุนะ (ที่ยังไม่ได้เอาจริง) ก็ต่อยยูตะไปเต็มแรงที่ท้องด้วยความมั่นใจ พร้อมกับภาพย้อนอดีตที่พี่สมอง เคนจาคุ ได้บอกสุคุนะเอาไว้แล้วเกี่ยวกับวิชาเลียนแบบอาคมของยูตะ ที่มันมีเงื่อนไขที่ว่าตัวของริกะจังต้องกินบางส่วนของเจ้าของอาคมก่อนจึงจะใช้อาคมของคน ๆ นั้นได้ เพราะเหตุนี้สุคุนะที่เห็นยูตะในร่างโกะโจเลยค่อนข้างกลัว (จนเผลออุทานออกมาในตอนนั้น) เพราะถ้ายูตะใช้อาคมต่าง ๆ ที่ตนเองมีผสมกับอาคมของอาจารย์โกะโจ ตนเองอาจจะสู้วิชาที่รวมพลังกันนั้นไม่ไหว แต่ตอนนี้สุคุนะรู้แล้วว่าตอนนี้ยูตะมีแค่อาคมแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของอาจารย์โกะโจและไม่มีอาคมของตัวเอง สุคุนะเลยกลับมามั่นใจว่าตนเองอยู่เหนือกว่า
ภาพตัดมาที่อดีต (อีกและ) ช่วงที่ยูตะฝึกกับอาจารย์โกะโจเสร็จใหม่ ๆ อาจารย์โกะโจบอกว่าอาคมของยูตะนั้นมันสะเปะสะปะมั่วไปหมด แต่พวกปี 2 อย่างมากิก็ว่าอาจารย์โกะโจเข้มงวดกับยูตะมากไปจนกลายเป็นการกดดันเขา ตัดมาที่ปัจจุบันยูตะก็เริ่มร่าย อาคมมุราสึกิ หรือ อาคมสีม่วง ทางสุคุนะที่รู้ว่ายูตะจะใช้ท่าอะไรก็พยามไปขัดขวางแต่ยูตะก็สวนกลับจนสุคุนะกระเด็นออกมา และตอนนี้ยูตะก็รู้แล้วว่าสุคุนะมันจับทางได้แล้วว่ายูตะใช้อาคมตัวเองไม่ได้เพราะไม่มีริกะจังสิงร่าง สิ่งที่เขาใช้ได้คืออาคมของอาจารย์โกะโจเท่านั้น

และในช่วงจังหวะที่ยูตะกำลังจะร่ายอาคมสีม่วง จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนมาการร่ายอาคมมาเป็นสีครามเพื่อดึงบางสิ่งออกมา ซึ่งมันคือเครื่องกระจายเสียงที่พอเจ้าเครื่องนี้ปรากฏออกมาก็มีเสียงดังออกมาว่า "อย่าขยับ" ซึ่งเป็นเสียงของวาจาต้องสาปของ อินุมากิ นั่นเอง (เซลม่อน ข้าวปั้น) และเมื่อสุคุนะได้ยินวาจาต้องสาปนี้พี่แกก็ขยับตัวไม่ได้ ส่วนอินุมากิที่ใช้พลังนี้ผ่านเครื่องเสียงกระจายเสียงก็กระเดือกแทบแตก เพราะการสั่งให้ราชาต้องสาปโดนคำสาปนี้มันใช้พลังเยอะมาก ๆ และเมื่อสุคุนะชะงักขยับตัวไม่ได้ยูตะจึงมีเวลาร่ายอาคมสีม่วงต่อจนเสร็จ เรื่องราวก็จบลงตรงนี้อ่านต่อในฉบับหน้า เรื่องราวกำลังสนุกเลยใครที่สนใจก็ไปอ่านต่อใน MANGA Plus ได้เลย (อ่านตรงนี้จบฉบับแปลไทยก็มาพอดีจะได้เห็นภาพมากขึ้น) ส่วนคราวหน้าตอนที่ 263 มาเมื่อไหร่เราจะรีบเอามาสปอยล์ให้คุณได้อ่านทันที