
ย้อนกลับไปในอดีตสมัยที่คุณลุงคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายยังเป็นเด็ก พวกเขาเหล่านั้นน่าจะเคยเล่นเครื่องเกมพกพาอย่าง Game Boy ขาวดำ และเกมที่ติดมากับเครื่องที่หลายคนน่าจะซื้อมาเล่นถ้าไม่นับเกมตัวต่อกับเกมช่างประปาสู้กับผีดิบ ก็ต้องมีเกมเซลด้าขโมยของอย่าง The Legend of Zelda Link's Awakening บนเครื่อง Game Boy ตัวนี้มาเล่น ซึ่งสิ่งที่เรามักจะทำกันในเกมนี้ก็คือการหาทางขโมยของร้านลุงแก (แต่พอกลับมาร้านอีกทีก็จะถูกพลังแสงฆ่าตุยคาร้าน) กับตัวเอกที่คนยุคนั้นเรียกพระเอกเกมนี้ว่า เซลด้า เพราะมันคือชื่อที่อยู่บนปก ซึ่งหลายคนมารู้ทีหลังว่า เซลด้า คือชื่อนางเอกส่วนพระเอกเราชื่อว่า ลิงค์ (แล้วทำไมไม่ชื่อ The Legend of Link จะได้ไม่งง) ซึ่งวันที่ 6 มิถุนายน 1993 คือวันครบรอบ 31 ปีเกมนี้พอดี เรามาย้อนอดีตดูความทรงจำเกี่ยวกับเกมภาคนี้กัน
ตัวเกม The Legend of Zelda Link's Awakening เป็นเกมแอคชันผจญภัย ที่พัฒนาและจัดจำหน่ายโดย Nintendo เจ้าเก่าเกมดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่าน โดยเกมนี้จะต่างกับซีรีส์เกม The Legend of Zelda ภาคอื่น ๆ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นในดินแดนแห่ง Hyrule และไม่มีตัวละครอย่าง เจ้าหญิงเซลด้า การตามหา Triforce แบบภาคอื่น ๆ (งั้นก็น่าจะใช้ชื่อ The Legend of Link) โดยตัวเราจะรับบทเป็นนายหูแหลม (ภาคนี้จมูกแหลมด้วย) ที่ลอยคอมาติดเกาะปริศนาที่ชื่อว่า Koholint ซึ่งเป็นเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ใน A Link to the Past ตัวลิงค์ที่เรือไปยังประเทศอื่นเพื่อฝึกฝนวิชาในการรับมือภัยคุกคามที่จะมา ก็ดันเรือแตกมาติดเกาะซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับการปกป้องโดยเทพที่มีรูปร่างเหมือนวาฬ (วาฬไม่ใช่ปลาแต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในน้ำ) ที่เรียกว่า Wind Fish เราที่เป็นผู้เล่นต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและไขปริศนาเพื่อค้นหาเครื่องดนตรีแปดชิ้นในการปลุก Wind Fish ที่หลับใหลเพื่อให้เราหนีออกไปจากเกาะได้

ระบบการเล่นตัวจะเป็นมุมมองด้านบนที่เราสามารถควบคุมลิงค์เดินไปเดินมาในฉากได้อย่างอิสระ แต่มันจะถูกปิดถูกกันด้วยสิ่งของ หรือต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างถึงจะเดินทางไปต่อได้ หน้าที่ของเราคือการอ่านคำใบ้หรือเดินมั่ว ๆ เพื่อหาทางไปต่อ เพราะในสมัยนั้นเราอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก (บางคนเล่นฉบับภาษาอังกฤษก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน) พอเดิน ๆ วน ๆ จับนั่นทำนี่ก็หาทางไปต่อได้ (บทสรุปลืมไปได้เลยโดยเฉพาะเด็กบ้านนอกที่ไม่มีร้านหนังสือ) จนหลายคนสามารถเล่นจบได้ในตอนกลางวัน (กลางคืน Game Boy มันไม่มีไฟที่หน้าจอต้องเล่นที่ที่มีแสง) ภาคนี้จึงค่อนข้างประทับใจใครหลาย ๆ คน
นี่ยังไม่รวมถึงการควบคุมของตัวละครที่ลื่นไหลรวดเร็วสู้สนุก ปริศนาที่เน้นการค้นหาทางไปต่อที่ทำได้อย่างลงตัว รวมถึงจุดซ่อนที่ลับตาซึ่งเราต้องใช้หัวใจในหารมองหา (ไม่ใช่และ) ที่เราต้องเดินสำรวจจนทำให้เกมภาคนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนในตอนนั้น จนมันเป็นเกมแรกที่ถูกเอามาทำเป็นภาพสีบนเครื่อง Game Boy Color และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น The Legend of Zelda Link's Awakening DX ที่พอเป็นภาพสีตัวเกมก็ยิ่งสนุกน่าสนใจมากขึ้น (แต่หน้าจอก็ยังไม่มีไฟในตัว) ที่จนถึงตอนนี้เอาเกมนี้กลับมาเล่นก็ยังคงความสนุกอยู่

ใครที่สนใจก็ไปต่องลงทุนไปซื้อเครื่อง Game Boy กับ Game Boy Color มาเล่นให้เสียเวลา เพราะทาง Nintendo เขาใจดีเอาเกมภาคนี้มาทำใหม่ในชื่อ The Legend of Zelda Link’s Awakening บนเครื่อง Nintendo Switch พร้อมกราฟิกที่สวยงามน่ารักแต่ปริศนาฉากต่าง ๆ ก็ยังคงเดิม เพิ่มเติมบ้างนิดหน่อยเพื่อเอาใจแฟน ๆ ใครสนใจมาเล่นภาคนี้ไปเลยจะดีกว่า ส่วนใครที่อยากย้อนอดีตัวเกมฉบับ Game Boy ค่อนข้างหายากราคาหลักพันต้น ๆ ถึงกลางเลยทีเดียว ไปซื้อฉบับใหม่มาเล่นจะดีกว่าเผลอ ๆ ราคาถูกกว่าด้วย เล่นจบเอาแผ่นไปขายต่อได้ด้วย บางครั้งความทรงจำก็มีราคามากกว่าที่เราคิดจริงไหม